Categories
เทคนิค

วิธีการสร้าง Layer Mask ใน Photoshop เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ภาพที่สะดุดตาได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

ช่างภาพที่ต้องแต่งรูปเอง หรือนักตัดต่อรูปภาพคงจะคุ้นเคยกับเครื่องมือ Layer Mask ใน Photoshop ซึ่งเครื่องมือเลเยอร์มาสก์จะช่วยปกปิดหรือเปิดเผยองค์ประกอบต่าง ๆ ของรูปภาพ โดยคุณสามารถแก้ไขแต่ละเลเยอร์ขององค์ประกอบรูปภาพได้ ซึ่งเราสามารถเพิ่ม Layer Mask ให้กับรูปภาพใดก็ได้ใน Photoshop เพื่อการแก้ไขรูปภาพได้อย่างรวดเร็ว สามารถย้อนกลับ หรือสร้างเอฟเฟกต์ที่สะดุดตาให้กับรูปภาพได้

Layer Mask เป็นเครื่องมือใน Adobe Photoshop ที่สามารถใช้ซ่อนพื้นที่เฉพาะของเลเยอร์ที่เลือกภายในไฟล์รูปภาพ หรือเพื่อทำให้พื้นที่อื่น ๆ ของเลเยอร์มองเห็นได้โดยใช้เครื่องมือแปรงเพื่อเน้นส่วนของเลเยอร์รูปภาพ ภาพขนาดย่อของมาสก์เลเยอร์ จะอยู่ที่มุมล่างขวาของพื้นที่ทำงานของคุณ ซึ่งจะแสดงพื้นที่ของเลเยอร์ที่มองเห็นเป็นสีขาว และพื้นที่ของเลเยอร์ที่มองไม่เห็นเป็นสีดำ ส่วนพื้นที่สีเทาบนภาพขนาดย่อของเลเยอร์มาสก์จะระบุพื้นที่ระหว่างความทึบและความโปร่งใสทั้งหมด

วิธีการสร้าง Layer Mask ใน Photoshop เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ภาพที่สะดุดตาได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

วิธีการสร้าง Layer Mask ในโปรแกรม Photoshop 

สำหรับการสร้าง Layer Mask ในโปรแกรม Photoshop เป็นวิธีการที่ง่ายมาก ๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงรูปภาพได้ไม่ว่าจะเป็นการย้อนกลับหรือแก้ไขรูปภาพในลักษณะที่มีสไตล์ ซึ่งเราสามารถสร้างเลเยอร์มาสก์บนโปรแกรม Photoshop ได้ดังนี้

1.เปิดโปรแกรม Photoshop สร้างเลเยอร์ใหม่ โดยคลิกไปที่ปุ่ม “เพิ่มเลเยอร์” ในแผงเลเยอร์เพื่อสร้างเลเยอร์ใหม่ สำหรับการใช้งาน หรือกดที่แป้นพิมพ์ลัดสำหรับเพิ่มเลเยอร์ใหม่ คือ Shift+Ctrl+N จากนั้นก็เพิ่มรูปภาพที่คุณต้องการแก้ไข

2.เพิ่มเลเยอร์มาสก์ของคุณ ในแผงเลเยอร์ โดยให้คลิกที่เลเยอร์ที่คุณต้องการจากนั้นคลิกปุ่มเลเยอร์มาสก์ที่ด้านล่างของแผงเลเยอร์ ซึ่งไอคอนเลเยอร์มาสก์จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีวงกลมอยู่ข้างใน และภาพขนาดย่อของเลเยอร์มาสก์จะปรากฏขึ้นข้างภาพขนาดย่อของเลเยอร์รูปภาพในแผงเลเยอร์

วิธีการสร้าง Layer Mask ใน Photoshop เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ภาพที่สะดุดตาได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

3.เพิ่มสีดำเพื่อปกปิด โดยเลือกภาพขนาดย่อของเลเยอร์มาสก์ในแผงเลเยอร์ เพื่อให้เป็นเลเยอร์ที่ใช้งานอยู่ จากนั้นเลือกเครื่องมือแปรง แล้วทาสีดำทับส่วนต่าง ๆ ของรูปภาพที่คุณต้องการปกปิดด้วยเครื่องมือแปรงของคุณ ซึ่งแปรงที่มีขอบที่กำหนดไว้จะสร้างเส้นทึบระหว่างองค์ประกอบทึบแสงและโปร่งใส ในขณะที่แปรงที่มีขอบอ่อนจะทำให้สีซีดจางได้

4.เพิ่มสีขาวเพื่อเปิดเผยส่วนของรูปภาพที่คุณต้องการให้ปรากฏ โดยเลือกใช้เครื่องมือแปรง และเลือกสีขาว เพื่อระบายสีส่วนใดก็ได้ของรูปภาพที่คุณต้องการให้ปรากฏ ซึ่งโดยปกติแล้วเมื่อคุณสร้างเลเยอร์มาสก์ครั้งแรก เลเยอร์ทั้งหมดจะมีค่าเริ่มต้นเป็นสีขาว 

5.เพิ่มสีเทาเพื่อให้รูปภาพดูกลมกลืน โดยการเลือกเครื่องมือแปรงและเลือกเฉดสีเทา แล้วทาสีทับส่วนใดส่วนหนึ่งของเลเยอร์ที่คุณต้องการให้มองเห็นได้บางส่วนหรือจางลง ยิ่งสีเทาเข้มเท่าใด พื้นที่ของภาพก็จะยิ่งโปร่งใสมากขึ้นเท่านั้น

ทำไมต้องใช้เลเยอร์มาสก์บนโปรแกรม Photoshop

วิธีการสร้าง Layer Mask ใน Photoshop เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ภาพที่สะดุดตาได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

ความจริงแล้วจุดประสงค์ของ Layer Mask คือการแก้ไขความทึบและความโปร่งใสของเลเยอร์ โดยทำให้การเปลี่ยนแปลงนั้นสามารถย้อนกลับไปการตั้งค่าเดิมได้ หากคุณใช้เครื่องมือยางลบใน Photoshop เพื่อลบส่วนหนึ่งของเลเยอร์รูปภาพ จะทำให้ส่วนนั้นของรูปภาพหายไปและไม่สามารถเรียกคืนได้ (เว้นแต่คุณจะใช้ฟังก์ชัน “ย้อนกลับ” ซึ่งสามารถเลิกทำส่วนที่เหลือของงานได้ ) ซึ่งเลเยอร์มาสก์ช่วยให้ช่างภาพที่ต้องแต่งรูปเอง หรือนักตัดต่อรูปภาพ สามารถทำการเปลี่ยนแปลงที่สามารถย้อนกลับได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเลิกการทำตามลำดับ และเลเยอร์มาสก์ยังสามารถใช้เพื่อสร้างการไล่ระดับสีแบบโปร่งใสทั่วทั้งเลเยอร์ได้

ufabet เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์

Categories
เทคนิค

วิธีการรีทัชลบรอยขีดข่วนบนภาพเก่าด้วยโปรแกรม Photoshop

เขาว่ากันว่ารูปภาพเปรียบเสมือนสมุดบันทึกเหตุการณ์ในอดีตเก็บไว้ในรูปภาพ เมื่อเวลาผ่านไปเป็นนานรูปภาพเหล่านั้นก็มักจะมีรอยขีดข่วน ทำให้คุณรู้สึกว่ารูปภาพค่อนข้างเก่าใช่ไหมคะ? อย่าเพิ่งกังวลไป เนื่องจากคุณสามารถลบรอยนั้นได้ด้วยวิธีการรีทัชโดยใช้เครื่องมือใน Photoshop โปรแกรมตัดต่อภาพยอดนิยมที่เหล่านักตัดต่อรูปภาพเลือกใช้งาน ซึ่งบทความนี้เราจะพาทุกคนไปพบกับวิธีง่าย ๆ สำหรับการรีทัชลบรอยขีดข่วนบนภาพเก่าด้วยโปรแกรม Photoshop 

เครื่องมือสำหรับการรีทัชลบรอยขีดข่วนบนภาพเก่าใน Photoshop

เครื่องมือในโปรแกรม Photoshop สามารถช่วยทำให้คุณรีทัชลบรอยขีดข่วนบนภาพเก่าได้ง่าย ๆ ซึ่งเครื่องมือรีทัชนี้จะช่วยแก้ไขภาพเก่าของคุณในกลับมาสมบูรณ์แบบและดูสะอาดเหมือนเพิ่งถ่ายใหม่ ๆ โดยเราจะเน้นไปที่เครื่องมือรีทัช 3 อย่างที่จะใช้รีทัช โดยเฉพาะ เพื่อลบรอยขีดข่วน หรือจุดบกพร่องบนภาพเก่าที่คุณไม่ต้องการ เครื่องมือรีทัชเหล่านี้ถือว่ามีประโยชน์มากสำหรับนักออกแบบ เพราะพวกเขาส่วนใหญ่ใช้ Photoshop ทำงานเกือบทั้งหมด

วิธีการรีทัชลบรอยขีดข่วนบนภาพเก่าด้วยโปรแกรม Photoshop

Spot Healing Brush

เครื่องมือสำหรับลบรอยขีดข่วนและตกแต่งส่วนที่ต้องการของรูปภาพ เพียงแค่คลิกไปบนพื้นที่ที่ต้องการแก้ไขบนภาพ โปรแกรมก็จะทำการลบรอยขีดข่วนของภาพโดยอัตโนมัติ

Healing Brush Tool

เครื่องมือที่จะต้องคัดลอกพื้นที่ที่ต้องการและนำไปแทนที่พื้นที่ที่ต้องตกแต่ง และมีลักษณะคล้ายกับการทำงานของ Spot Healing Too

วิธีการรีทัชลบรอยขีดข่วนบนภาพเก่า

สำหรับวิธีการรีทัช เพื่อลบรอยขีดข่วนบนภาพเก่าในโปรแกรม Photoshop นักรีทัชส่วนใหญ่มักเลือกใช้เครื่องมือรีทัช 3 อย่างข้างต้น ด้วยขั้นตอนการทำดังต่อไปนี้

1.วิธีใช้ Spot Healing Brush Tool

เปิดไฟล์รูปภาพที่ต้องการแก้ไข

คลิกที่ Spot Healing Brush ในเมนูเครื่องมือหรือกด J บนแป้นพิมพ์ แล้วเลือกใช้ขนาดแปรง 25px

คลิกขวาบนพื้นที่รูปภาพ จากนั้นหน้าจอโปรแกรมจะปรากฏหน้าต่างสำหรับกำหนดค่าเครื่องมือ หรือจะกำหนดที่แถบตัวเลือก (Options Bar) ได้ เราแนะนำให้เลือกใช้ขนาดแปรง 25px

คลิกเมาส์ลงบนพื้นที่รูปภาพที่ต้องการลบรอยขีดข่วน

อย่าพยายามเลือกพื้นที่จุดเดียวมากเกินไป เพราะขนาดแปรงหรือพื้นที่ใหญ่มากเท่าไร Photoshop ก็จะผสมผสานและสร้างพื้นที่ใหม่มากขึ้นเท่านั้น บางครั้งสิ่งนี้อาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่แปลกประหลาดและไม่คาดคิดได้

วิธีการรีทัชลบรอยขีดข่วนบนภาพเก่าด้วยโปรแกรม Photoshop

2.วิธีใช้ Healing Brush Tool 

เปิดไฟล์รูปภาพที่ต้องการแก้ไข

คลิกที่เครื่องมือ Healing Brush Tool ในเมนูเครื่องมือ Tool Box หรือค้นหาจากเครื่องมือรีทัชได้โดยการกด Shift ค้างไว้แล้วกดปุ่ม J บนแป้นพิมพ์ 

คลิกขวาบนพื้นที่รูปภาพ จากนั้นหน้าจอโปรแกรมจะปรากฏหน้าต่างสำหรับกำหนดค่าเครื่องมือ หรือจะกำหนดที่แถบตัวเลือก (Options Bar) ได้ เราแนะนำให้กำหนดขนาดของเครื่องมือที่ Diameter ให้มีขนาดใหญ่กว่าส่วนที่ต้องการแก้ไขเล็กน้อย

จากนั้นกำหนดค่า Hardness เพื่อให้ความคมชัดของขอบการใช้เครื่องมือกับรูปภาพมีความกลมกลืนกัน

กำหนดค่า Spacing ให้มีค่าน้อยที่สุด เพื่อทำให้รูปภาพละเอียดขึ้น

กำหนดรูปทรงของเครื่องมือที่ Angle และกำหนดองศาการเอียงตัวของเครื่องมือ Roundness

เลือกพื้นที่ที่จะคัดลอกโดยต้องเป็นพื้นที่ที่มีสีกลมกลืนกับพื้นที่ที่ต้องการแก้ไข แล้วกดแป้นพิมพ์ Alt + คลิกเมาส์ เพื่อเลือกพื้นที่นั้น

เลื่อนเมาส์ไปยังพื้นที่ที่ต้องการแก้ไขและและเลือกเครื่องมือ Healing Brush ไปที่พื้นที่ที่ต้องการแก้ไข จากนั้นพื้นที่ที่คัดลอกไว้จะถูกนำไปแทนที่บนพื้นที่ที่เลือก

หากพื้นที่ที่ต้องการแก้ไขมีพื้นที่กว้าง ให้คลิกเมาส์และลากเมาส์ไปบนพื้นที่ที่ต้องการแก้ไขได้เลย

ผู้สนับสนุน: ไฮโลไทย อันดับ1 เล่นไฮโลออนไลน์ ได้ตลอด 24 ชม. HILO-88.COM

Categories
เทคนิค

แนะนำ 4 โปรแกรมตัดต่อเสียงฟรีที่ดีที่สุด สำหรับการสร้างพอดคาสต์ บทสัมภาษณ์

แนะนำ 4 โปรแกรมตัดต่อเสียงฟรีที่ดีที่สุด สำหรับการสร้างพอดคาสต์ บทสัมภาษณ์

คนที่ทำงานเกี่ยวกับการสร้างพอดคาสต์ บทสัมภาษณ์ และการบรรยายในรายการที่สามารถรับชมและรับฟังได้ทางอินเทอร์เน็ต ต้องทราบดีว่าโปรแกรมตัดต่อเสียงถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้รายการของคุณมีผลลัพธ์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ในยุคนี้มีโปรแกรมตัดต่อเสียงดี ๆ มากมายทั้งแบบฟรี และแบบเสียเงิน แต่หากคุณเป็นมือใหม่ที่กำลังมองหาโปรแกรมตัดต่อเสียงเจ๋ง ๆ สักตัวที่ไม่ว่าไม่ว่าคุณจะแก้ไขเนื้อหาประเภทใด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างพอดแคสต์หรือคำบรรยายทั่วไปก็สามารถใช้งานได้ง่ายดายและยอดเยี่ยม บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 4 โปรแกรมตัดต่อเสียงฟรีที่ดีที่สุด สำหรับการสร้างพอดคาสต์ บทสัมภาษณ์ และการบรรยาย เพื่อช่วยให้คุณตัดต่อเสียงได้ง่าย ๆ เพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพและควบคุมเดซิเบลได้ ทำให้เสียงโปรเจ็กต์ของคุณสมบูรณ์แบบ

4 โปรแกรมตัดต่อเสียงฟรีที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างพอดคาสต์

แนะนำ 4 โปรแกรมตัดต่อเสียงฟรีที่ดีที่สุด สำหรับการสร้างพอดคาสต์ บทสัมภาษณ์

ใครที่กำลังมองหาโปรแกรมตัดต่อเสียงฟรี สำหรับการสร้างพอดคาสต์ บทสัมภาษณ์ และการบรรยายต้องไม่พลาดกับ 4 โปรแกรมตัดต่อเสียงฟรีที่ดีที่สุดที่เราได้รวบรวมมาในวันนี้ ซึ่งเสียงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างพอดคาสต์ เนื่องจากพ็อดคาสท์เป็นเทปบันทึกเสียงหรือวิดีโอต้นฉบับ แต่ในบางครั้งก็อาจเป็นเทปบันทึกรายการโทรทัศน์หรือรายการวิทยุที่ออกอากาศจริง ดังนั้นการตัดต่อเสียงจึงเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ และการใช้โปรแกรมตัดต่อเสียงดี ๆ จะยิ่งช่วยให้รายการของคุณแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม

1.Audacity

โปรแกรมฟรีที่สามารถปรับแต่งเสียง บันทึกเสียง เล่นเสียง และผสมเสียงหรือทำ effect ด้วยฟิลเตอร์ต่าง ๆ ได้ เช่น การเปลี่ยน การลดเสียงรบกวน หรือแม้แต่ “การตัดความเงียบ” นอกจากนี้ Audacity ยังเป็นเวิร์กสเตชันเสียงดิจิทัล (DAW) ที่ใช้งานได้ง่าย ๆ 

2.Davinci Resolve

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีที่สามารถตัดต่อเสียงได้ ใช้แก้ไขสีของวิดีโอ ตัดต่อวิดีโอแบบง่าย ๆ ไปจนถึงการตัดต่อภาพยนต์ที่ต้องใช้เทคนิค Effect ระดับสูง สำหรับ “การแก้ไขเสียง” มันค่อนข้างจะครอบคลุมทุกสิ่งที่คุณสามารถทำได้สำหรับไฟล์เสียงของคุณภายในโปรแกรม

3.Ocenaudio

โปรแกรมทำเพลงฟรีที่รวบรวมครบทุกความต้องการของคุณ ช่วยให้คุณสามารถตัดไฟล์เสียงได้ภายในไม่กี่วินาที เพราะโปรแกรมใช้งานง่ายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเสียงสูง เสียงต่ำ ภายในเนื้อเพลง หรือภายในช่วงเรียวไทม์ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถใช้เอฟเฟกต์พื้นฐานบางอย่างได้ เช่น เฟดอิน อีควอไลเซอร์กราฟิก ตลอดจนความสามารถในการย้อนกลับหรือเพิ่มความเร็วไฟล์ของคุณ นอกจากนี้โปรแกรมนี้ยังสนับสนุนการเปิดไฟล์เพลงขึ้นมาพร้อมกันได้ถึง 2 ไฟล์

4.WavePad Sound Editor

โปรแกรมแก้ไขไฟล์เสียง หรือ โปรแกรมแต่งเสียงฟรีที่มีคุณสมบัติหลากหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อเสียง (Cut Copy Paste) ได้ง่าย ๆ หรือการเพิ่มลูกเล่นเสียง เอฟเฟค (Sound Effect) ต่าง ๆ หรือความสามารถในการตัดเสียงรบกวน (Noise) ทำเสียงให้เงียบ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้โปรแกรมยังรองรับไฟล์ที่มีอัตรา Samepl Rate ที่ระหว่าง 6 – 96 kHz ทั้งระบบเสตอริโอ หรือโมโน และตั้งแต่แบบ 8 บิต จนถึง 32 บิต อีกทั้งยังมีลูกเล่นเสียงต่าง ๆ มากมาย ทำให้คุณประหยัดเวลา และสะดวกในการใช้งาน

สิ่งที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ฟังพ็อดคาสท์

แนะนำ 4 โปรแกรมตัดต่อเสียงฟรีที่ดีที่สุด สำหรับการสร้างพอดคาสต์ บทสัมภาษณ์

นอกจากโปรแกรมตัดต่อเสียงจะมีความสำคัญสำหรับการสร้างพ็อดคาสท์แล้ว การเลือกใช้เพลงก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ผู้ผลิตพ็อดคาสท์ไม่ควรมองข้าง โดยปกติแล้วคุณสามารถเริ่มต้นสร้างพอดแคสต์ได้ง่าย ๆ เพียงแค่มีไมโครโฟนพื้นฐาน, ซอฟต์แวร์ตัดต่อเสียง และหัวข้อ ซึ่งสิ่งที่สร้างความประทับใจให้ผู้ฟังมี 2 อย่าง คือเนื้อหาของพ็อดคาสท์ที่ดีและการเลือกเพลงอินโทรที่เข้ากับเนื้อหา และต้องถูกลิขสิทธิ์ด้วยนะคะ

Categories
เทคนิค

5 เทคนิคการแต่งรูประดับมืออาชีพด้วยโปรแกรม Photoshop

ในยุคดิจิทัล คนที่ทำงานเป็นช่างภาพคงจะคุ้นเคยและมีความรู้เกี่ยวกับการแต่งรูปด้วยโปรแกรม Photoshop และเราเชื่อว่าโปรแกรมนี้เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่หลายคนเลือกให้เพื่อทำการแก้ไขรูปภาพ ซึ่งบางคนอาจมีคำถามมากมายเกี่ยวกับการใช้งานโปรแกรม Photoshop เนื่องจากโปรแกรมนี้ค่อนข้างมีความซับซ้อน บางครั้งเราจะเห็นว่าช่างภาพระดับมืออาชีพหลายคนยังคงต้องเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการแต่งรูปด้วยโปรแกรม Photoshop ซึ่งบทความนี้ได้รวบรวม 5 เทคนิคแต่งรูปด้วยโปรแกรม Photoshop เพื่อทำให้รูปภาพของคุณดูสวยสมบูรณ์แบบตามความต้องการ ส่วนจะมีเทคนิคอะไรบ้างนั้น มาติดตามกันเลยค่ะ

5 เทคนิคการแต่งรูประดับมืออาชีพด้วยโปรแกรม Photoshop

5 เทคนิคการแต่งรูปง่าย ๆ ด้วยโปรแกรม Photoshop

เมื่อเราใช้กล้องถ่ายภาพ เราจะสังเกตได้ว่าภาพบางภาพอาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบตามความต้องการ ซึ่งช่างภาพส่วนใหญ่แก้ไขปัญหานี้ด้วยวิธีการแต่งรูป บนโปรแกรมแต่งรูปที่ในปัจจุบันที่ให้เลือกใช้งานหลากหลายโปรแกรม ซึ่งวันนี้เราเลือกโปรแกรม Photoshop พร้อมกับ 5 เทคนิคการแต่งรูปง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้มาฝากทุกคน 

Photoshop มีความสามารถหลากหลายในการจัดการไฟล์ข้อมูลรูปภาพและความสามารถในการตกแต่งภาพที่หลากหลาย เช่น ลบรอยแตกของภาพ เพิ่มสีและแสง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการตัดต่อภาพ และการซ้อนฉากหลังเข้ากับภาพ และนี่คือ 5 เทคนิคการแต่งรูปง่าย ๆ ด้วยโปรแกรม Photoshop

1.การแก้ไขรูปภาพแบนราบใน Raw

เมื่อเปิดภาพใน Camera Raw สิ่งแรกที่ต้องทำคือการปรับอุณหภูมิสีหรือค่าแสง โดยการตั้งค่าตัวเลื่อนไฮไลท์ระหว่าง -30 ถึง -80 จากนั้นตั้งค่าแถบเลื่อนเงาระหว่าง +30 ถึง +80 ซึ่งการตั้งค่านี้จะทำให้ภาพมีคอนทราสต์ในปริมาณที่เหมาะสมเป็นธรรมชาติมากมากขึ้น

2.การใช้แปรงแก้ไขรูปภาพ

การใช้เครื่องมือแปลงจะช่วยให้คุณแก้ไขรูปภาพเฉพาะจุดได้ดีขึ้น ส่วนใหญ่ช่างภาพมักใช้แปรงเพื่อลบสิว และสิ่งที่ไม่ต้องการบนผิวหนัง หรือสิ่งที่รบกวนบนพื้นหลัง 

3.การใช้ Clone Stamp Set เพื่อทำให้รูปภาพสีจางลงหรือเข้มขึ้น

Clone Stamp Set จะทำให้รูปภาพสว่างขึ้น ซึ่งนิยมใช้ที่ระดับความทึบประมาณ 15% เทคนิคนี้มักใช้กับภาพที่มีแสงธรรมชาติ เนื่องจากภาพเหล่านี้มักไม่มีรายละเอียดมากนัก 

4.การเปิดใช้เลเยอร์ Black and White เพื่อปรับแต่งสีของรูปภาพ

การเปิดใช้เลเยอร์ Black and White จะช่วยทำให้คุณสามารถควบคุมความสว่างของแต่ละสีได้ด้วยแถบเลื่อนบนเลเยอร์ Black and White โดยการปรับสีแดงและสีเหลืองได้ตามที่คุณต้องการ ซึ่งการปรับแต่งสีนี้จะทำให้คุณได้สีผิวที่สวยงาม 

5 เทคนิคการแต่งรูประดับมืออาชีพด้วยโปรแกรม Photoshop

5.การปรับสีรูปภาพโดยใช้เลเยอร์ Color Balance, เลเยอร์ Levels และเลเยอร์ Hue / Saturation

การใช้เลเยอร์การปรับทั้ง 3 เลเยอร์นี้จะช่วยให้คุณปรับโทนสีให้กับรูปภาพได้ดีขึ้น โดยการเปิดเลเยอร์ Color Balance แล้ว ทำการปรับสีน้ำเงิน สีฟ้า หรือสีม่วงแดงให้กับเงา สีแดง สีเขียว หรือสีเหลืองในโทนสีกลาง และสีแดงหรือสีเหลืองในส่วนไฮไลท์ จะทำให้สีของรูปภาพดูสมจริงยิ่งขึ้น ต่อมาเปิดเลเยอร์ Levels เพื่อใช้ในการปรับระดับสีบนเงาด้วยการเพิ่มสีน้ำเงินและสีเขียว โดยใช้แถบเลื่อนเอาท์พุท เนื่องจากเลเยอร์ Levels อยู่ด้านบนจึงเติมเงาด้วยสีจะทำให้เงาดูเหมือนฟิล์ม จากนั้นใช้ Hue/Sat เพื่อปรับแต่งสี ปรับเฉดสี ความอิ่มตัว และความสว่างของแต่ละสี 

5 เทคนิคการแต่งรูประดับมืออาชีพด้วยโปรแกรม Photoshop

แนะนำโปรแกรมตัดต่อรูปภาพฟรี

ในปัจจุบันต้องยอมรับเลยว่าเราอยู่ในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง เพราะนอกจากโปรแกรม Photoshop ยังมีโปรแกรมแต่งรูปอีกมากมายทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงินที่สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และบนอุปกรณ์มือถือ ซึ่งหากใครกำลังมองหาโปรแกรมแต่งรูปฟรีบนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เราขอแนะนำโปรแกรม GIMP โปรแกรมแต่งรูปที่มีเครื่องมือปรับแต่งขั้นสูงมากมาย เช่น ฟังก์ชันเลเยอร์, มาส์ก, เส้นโค้ง และเลเวล ที่สำคัญสามารถใช้งานได้หลากหลายแพลตฟอร์ม และยังสามารถติดตั้งปลั๊กอินของโปรแกรม Photoshop เพิ่มเข้าไปในโปรแกรมได้อีกด้วย

สนับสนุนโดย

PAPERINDUSTRYMAG.COM

sa gaming

Categories
เทคนิค

วิธีใช้ Luminar AI แต่งสีท้องฟ้าในรูปภาพที่น่าเบื่อให้ดูน่าทึ่งและดึงดูดสายตามากยิ่งขึ้น

ในปัจจุบันต้องยอมรับเลยว่าซอฟต์แวร์ตัดต่อสมัยใหม่นี้มีความสามารถที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์ตัดต่อในยุคสมัยก่อน อย่างเช่น ความสามารถการปรับแต่งสีท้องฟ้าในรูปภาพให้ออกมาสวยงาม และโดดเด่นของ Luminar AI บน Photoshop เพื่อทำให้รูปภาพของคุณนั้นดูน่าทึ่งและดึงดูดสายตาของผู้พบเห็น ซึ่งคุณสามารถเรียนรู้วิธีการแต่งสีท้องฟ้าในรูปภาพด้วยโปรแกรม Luminar AI ได้จากบทความนี้ เราจะพาคุณพบกับการเปลี่ยนรูปท้องฟ้าที่น่าเบื่อให้กลับมาดูมีชีวิตชีวาและน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วยวิธีง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำตามได้

วิธีแต่งสีท้องฟ้าในรูปภาพที่น่าเบื่อด้วย Luminar AI เพื่อทำให้รูปภาพของคุณดูสดใสและดึงดูดสายตาผู้ชม

หลายคนคงทราบกันดีว่า Luminar AI ถือเป็นโปรแกรมตัดต่อที่ใช้นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์เป็นรายแรกของโลก ซึ่งปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI นี้ทำให้ทุกคนสามารถใช้โปรแกรมนี้ได้โดยไม่ต้องมีประสบการณ์การแก้ไขภาพขั้นสูง และหากคุณรู้สึกว่ารูปภาพท้องฟ้าสีครามของคุณดูน่าเบื่อ คุณสามารถใช้ Luminar AI ปรับแต่งสีท้องฟ้าได้ง่าย ๆ พร้อมทั้งสามารถเพิ่มองค์ประกอบที่น่าทึ่งได้ อย่างเช่น ภูเขา เพื่อให้รูปภาพของคุณดูสดใส โดดเด่นและดึงดูดสายตาผู้ชม โดยมีขั้นตอนการปรับแต่งสีท้องฟ้าได้ ดังนี้

วิธีใช้ Luminar AI แต่งสีท้องฟ้าในรูปภาพที่น่าเบื่อให้ดูน่าทึ่งและดึงดูดสายตามากยิ่งขึ้น

1.เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop นำเข้ารูปภาพที่ต้องการแก้ไข แล้วสร้างเลเยอร์ซ้ำกันโดยการกด Ctrl + J 

2.คลิกขวาที่เลเยอร์ชั้นที่ซ้ำกันและเลือก Convert to Smart Object

3.จากนั้นไปที่ Filter > Skylum Software > Luminar AI

4.เมื่อเข้าไปใน Luminar AI ให้ไปที่ For This Photo ที่อยู่มุมขวาบนและใช้แถบเลื่อนเพื่อเลือกท้องฟ้าธรรมชาติ แล้วเลือก Afterhours

5.คลิกที่แท็บ Edit และเลือกไอคอน Creative ในแถบเมนูด้านข้าง

6.คลิกที่แท็บตัวเลือก Sky แล้วเลื่อนลงไปเลือก Blue Sky 4

7.คลิกที่การตั้งค่าขั้นสูงภายใต้ Sky Global แล้วทำการปรับ Sky Temperature ไปที่ค่า 30 และ Sky Exposure ไปที่ค่า 40

8.จากนั้นเลือกไปที่แผง Augmented Sky AI แล้วเลือกเมนูแบบเลื่อนลง Mountains 4 จากนั้นปรับเปลี่ยนค่า Amount เป็น 100, Warmth เป็น 80 และ Relight เป็น 100

9.เลือกแผง Sunrays คลิกที่ Place Sun Center จากนั้นปรับเปลี่ยนค่า Amount เป็น 10, Overall Look เป็น 50, Sunrays Length เป็น 10 และ Penetration เป็น 40

10.เลือกไปที่แผง Rays Setting แล้วปรับเปลี่ยนค่า Number of Sunrays เป็น 60 และ Randomize เป็น 10

11.เลือกไปที่แผง Dramatic แล้วปรับเปลี่ยนค่า Amount เป็น 50 และ Local Contrast เป็น 50

12.จากนั้นคลิกไปที่ Apply เพื่อกลับเข้าสู่ Photoshop หากคุณใช้ Luminar AI เป็นปลั๊กอิน แต่หากคุณใช้ Luminar AI เป็นโปรแกรมแบบสแตนด์อโลน จะมีตัวเลือกในการส่งออกรูปภาพของคุณ 

รูปภาพก่อนแก้ไข

วิธีใช้ Luminar AI แต่งสีท้องฟ้าในรูปภาพที่น่าเบื่อให้ดูน่าทึ่งและดึงดูดสายตามากยิ่งขึ้น

รูปภาพหลังทำการแก้ไขแล้ว

วิธีใช้ Luminar AI แต่งสีท้องฟ้าในรูปภาพที่น่าเบื่อให้ดูน่าทึ่งและดึงดูดสายตามากยิ่งขึ้น

ปรับและเพิ่มองค์ประกอบที่น่าทึ่งให้กับท้องฟ้าในรูปภาพได้ง่าย ๆ 

โปรแกรม Luminar AI เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับ Adobe Photoshop และ Lightroom ที่เหล่านักตัดต่อมืออาชีพเลือกใช้งาน ด้วยความที่มันขับเคลื่อนโดยกระบวนการปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI แบบอัตโนมัติที่เต็มรูปแบบ จึงทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ง่ายดาย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้เราสามารถปรับแต่งสีท้องฟ้าในรูปภาพใหม่ได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที เหมาะสำหรับนักตัดต่อระดับมืออาชีพและนักตัดต่อมือใหม่

Categories
เทคนิค

วิธีแต่งภาพของคุณให้สวยงามด้วยการเปลี่ยนสีเมคอัพใน Photoshop

วิธีแต่งภาพของคุณให้สวยงามด้วยการเปลี่ยนสีเมคอัพใน Photoshop

ช่างภาพหลายคนเวลาต้องถ่ายภาพนางแบบ บางครั้งอาจจะเคยประสบปัญหาเกี่ยวกับสีเมคอัพที่อยู่บนใบหน้าของนางแบบ/นายแบบ เช่น สีบลัชออนที่เข้มเกินไป ช่างภาพและนักตัดต่อรูปภาพหลายคนจึงมักแก้ปัญหาด้วยการแต่งภาพโดยการเปลี่ยนสีเมคอัพด้วยโปรแกรมแต่งรูประดับมืออาชีพอย่างโปรแกรม Adobe Photoshop สำหรับการเปลี่ยนสีเมคอัพหรือเปลี่ยนสีรูปภาพใน Photoshop ถือเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก ๆ ซึ่งในบทความนี้เราจะพูดถึงวิธีการแต่งภาพโดยการเปลี่ยนสีเมคอัพใน Photoshop โดยเทคนิคเหล่านี้สามารถใช้เพื่อเปลี่ยนสีส่วนใดก็ได้ของภาพถ่ายบุคคลหรือภาพถ่ายอื่น ๆ

วิธีการใช้ Photoshop แต่งภาพเพื่อเปลี่ยนสีเมคอัพ

เราเชื่อว่าสีเมคอัพเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพถ่ายบุคคล ดังนั้นช่างภาพและนักตัดต่อรูปภาพหลายคนจึงมักแต่งภาพด้วยการปรับเปลี่ยนสีเมคอัพที่อยู่บนใบหน้าของนางแบบ/นายแบบให้ดูสวยงามและดึงดูดสายตาผู้ชม ด้วยโปรแกรมแต่งรูปในคอม อย่างโปรแกรม Photoshop โดยเราสามารถเปลี่ยนสีเมคอัพได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

วิธีที่ 1 Curves : การใช้เครื่องมือ Curves โดยคุณจะต้องทำการเลือกพื้นที่บริเวณสีเมคอัพที่คุณต้องการเปลี่ยน จากนั้นให้ไปที่เครื่องมือ Curves ซึ่งมันจะมีตัวเลือกในการปรับเปลี่ยนสี 3 ช่องสี นั้นคือ แดง, เขียว และน้ำเงิน เมื่อเลือกสีแล้วให้ปรับเส้นโค้งสีได้ตามความต้องการ (ดังภาพด้านล่าง) และโปรดจำไว้ว่า การลดสีแดงจะเป็นการเพิ่มสี Cyan, การลดสีเขียวจะเป็นการเพิ่มสี Magenta และการลดสีน้ำเงินจะเป็นการเพิ่มสีเหลืองให้แก่พื้นที่ของสีเมคอัพที่คุณเลือกไว้

วิธีแต่งภาพของคุณให้สวยงามด้วยการเปลี่ยนสีเมคอัพใน Photoshop

วิธีที่ 2 Channel Mixer : การใช้เครื่องมือ Channel Mixer เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมการปรับเปลี่ยนสีเมคอัพได้ง่ายขึ้น เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน Photoshop โดยก่อนทำการเปลี่ยนสีเมคอัพคุณจะต้องทำการเลือกพื้นที่บริเวณสีเมคอัพที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง จากนั้นเลือกใช้เครื่องมือ Channel Mixer ซึ่งมันจะปรากฎตัวเลือกในการเลือกช่องเอาต์พุต (ดังภาพด้านล่าง) โดยตัวเลือกในการปรับเปลี่ยนสีมี 3 สี คือ สีแดง, เขียว และสีน้ำเงิน ซึ่งตัวเลือกสีแดงจะมีค่าเริ่มต้นเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสีเขียวและสีน้ำเงิน 0 เปอร์เซ็นต์ (ดังภาพด้านล่าง) ในขณะที่ตัวเลือกสีเขียวและสีน้ำเงินมีค่าเริ่มต้น 100 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ จากนั้นให้คุณเลือกปรับค่าของสีแต่ละตัวเลือกตามความต้องการ

วิธีแต่งภาพของคุณให้สวยงามด้วยการเปลี่ยนสีเมคอัพใน Photoshop

บทสรุป

โปรแกรม Photoshop เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมประยุกต์ที่ช่างภาพและนักตัดต่อรูปภาพเลือกใช้งานสำหรับแต่งภาพให้ดูสวยงามและโดดเด่น ซึ่งจากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าเราสามารถเปลี่ยนสีเมคอัพด้วยโปรแกรมแต่งรูปภาพยอดนิยมอย่าง Photoshop ได้ แต่ก่อนจะเริ่มต้นเปลี่ยนสีเมคอัพในรูปภาพ คุณต้องทำการเลือกพื้นที่ส่วนของรูปภาพที่ต้องการแก้ไขเสียก่อน ดังนั้น คุณต้องมีความรู้เกี่ยวกับการเลือกพื้นที่สำหรับแก้ไขภาพ หรือที่หลายคนเรียกว่า Selection ใน Photoshop ซึ่งการสร้าง Selection คือการกำหนดขอบเขตของภาพ เพื่อใช้สำหรับการแก้ไข ปรับแต่งภาพ ใส่เอฟเฟ็กต์ให้ภาพ เช่น การปรับสี ปรับแสง-เงา หรือใส่ฟิลเตอร์ หลังจากสร้าง Selection แล้ว คุณก็สามารถเริ่มต้นปรับเปลี่ยนสีเมคอัพตามวิธีที่เรานำมาแนะนำข้างต้นได้เลยค่ะ



Categories
เทคนิค

วิธีรีทัชฟันให้ขาวสว่าง สดใส สวยเป๊ะด้วยโปรแกรม Photoshop

ใคร ๆ ก็อยากมีรอยยิ้มที่สดใส แต่บางครั้งเวลาที่คุณถ่ายรูปยิ้มเห็นฟัน ต้องรู้สึกรำคาญทุกทีเวลามองเห็นฟันมีสีเหลือง แต่อย่ากังวลไปค่ะ เพราะทุกวันนี้เราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ง่าย ๆ ด้วยโปรแกรม Photoshop โปรแกรมในตระกูล Adobe ที่มีความสามารถแก้ไขภาพถ่ายและภาพกราฟิก รวมถึงการใส่ Effect ต่าง ๆ และตัวหนังสือให้กับภาพ

Photoshop เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคนี้ สำหรับการแก้ไขภาพถ่ายของคุณ แต่หากบางครั้งการใช้งาน Photoshop ก็ซับซ้อนเกินไปหรือใช้เวลาเรียนรู้นานเกินไป แต่โชคดีที่ในปัจจุบันได้มีบทความสอนการใช้งานในอินเตอร์เน็ตมากมาย

การรีทัช ถือเป็นขั้นตอนการทำงานพื้นฐานของโปรแกรม Photoshop มันคือวิธีการตกแต่งภาพเฉพาะจุดไม่ว่าจะเป็นการลบรอยสิวและจุดด่างดำบนใบหน้า, การทำฟันให้ขาวขึ้น, การทำให้หน้าใสขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้วิธีรีทัช เพื่อเติมแต่งจินตนาการลงไปในภาพถ่ายเองได้ เช่น คุณอาจจะเปลี่ยนสีตา สีผมของนายแบบ/นางแบบ หรือทำการลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าให้นางแบบ/นายแบบก็ยังได้

คุณสามารถใช้โปรแกรม Photoshop แก้ไขสีฟันในภาพถ่ายได้ง่าย ๆ ในไม่กี่ขั้นตอนด้วยเทคนิคการรีทัชดิจิทัลระดับมืออาชีพ ภายในเวลาไม่กี่นาที ซึ่งการแก้ไขสีฟันในภาพถ่ายจะช่วยให้นางแบบ/นายแบบที่อยู่ในภาพนั้นมีรอยยิ้มที่สดใส ฟันขาวสว่าง สวยเป๊ะ โดยคุณสามารถเรียนรู้ขั้นตอนการแก้ไขสีฟันได้ง่าย ๆ ด้วยขั้นตอนที่อยู่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

วิธีรีทัชฟันให้ขาวสว่างด้วย Photoshop ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน

คุณสามารถใช้เครื่องมือ Photoshop ในการแก้ไขสีฟันได้ ซึ่งการฟอกสีฟันจำเป็นต้องใช้เลเยอร์ในการปรับสีหรือความอิ่มตัวของสี จะช่วยให้คุณทำการฟอกสีฟันให้ขาวขึ้นได้ง่าย เพียงทำตามขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 เลือกฟันด้วยการใช้เครื่องมือ Lasso Tool : เปิดรูปภาพที่ต้องการแก้ไข แล้วซูมเข้าที่ฟันโดยกด CTRL (สำหรับ Windows) หรือ CMD (สำหรับ Mac) บนแป้นพิมพ์ พร้อมกับกดเครื่องหมาย + จนเห็นฟันได้อย่างชัดเจน จากนั้นเลือก Lasso Tool จากแถบเครื่องมือ (ทางลัด ‘L’) และวาดส่วนที่เลือกรอบๆ ฟัน ควรเลือกเลยมาริมฝีปากสักเล็กน้อย

ขั้นตอนที่ 2 เพิ่ม Adjustment Layer : ในแผง Layers ให้คลิกปุ่ม New Fill หรือ Adjustment Layer แล้วไปที่แสดงเมนูแบบเลื่อนลงหาตัวเลือกการปรับเลเยอร์ เลือกเมนู Hue/Saturation จากนั้นคุณจะเห็นเลเยอร์ Hue/Saturation ใหม่เหนือเลเยอร์พื้นหลังในแผงเลเยอร์

ขั้นตอนที่ 3 เริ่มฟอกสีฟัน : สำหรับการฟอกสีฟัน เราจะเน้นที่การลดฟันเหลืองที่เป็นปัญหา ในแผงคุณสมบัติของเลเยอร์ Hue/Saturation ให้คลิกตรงที่เมนู Master เพื่อเปิดเมนูแถบเลื่อนลง จากนั้นเลือกสีเหลืองในเมนูดร็อปดาวน์ ปรับลดความอิ่มตัวด้วยการลากตัวเลื่อนไปทางซ้าย แต่อย่าเลื่อนไปสุดที่ -100 คุณจะสังเกตเห็นว่าพื้นที่ฟันที่คุณได้เลือกไว้ก่อนหน้านี้เริ่มขาวขึ้น

ขั้นตอนที่ 4 การทำให้ฟันสดใส : เลือกเมนู Master อีกครั้งใน แล้วลากแถบเลื่อน Lightness ไปทางขวา ยิ่งลากไปมากเท่าไหร่ ฟันก็จะยิ่งสว่างขึ้นเท่านั้น

ขั้นตอนที่ 5 ทำการปรับเปลี่ยนขั้นสุดท้ายสำหรับส่วนที่เลือก : หากส่วนของฟันที่คุณเลือกไว้เลยไปที่ริมฝีปากมากเกินไปให้ทำการปรับแก้ไข ด้วยเลือกเลเยอร์มาสก์ แล้วเลือกเครื่องมือแปรงทาสีจากแถบเครื่องมือ (ทางลัด ‘ B ‘) ปรับการตั้งค่าให้แปลงเล็กลงตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกภาพขนาดย่อของมาสก์ในเลเยอร์แล้วหรือไม่ จากนั้นเริ่มทาสีด้วยสีดำบนส่วนที่สว่างกว่า ทาสีไปเรื่อย ๆ จนกว่าบริเวณที่สว่างกว่าบนริมฝีปากและปากจะหายไป นอกจากนี้คุณยังสามารถย้อนกลับมาดูการแก้ไขได้ หากเกิดความผิดพลาดให้ทาสีขาว แล้วสลับดูไปมาระหว่าง ‘ก่อนและหลัง’ โดยใช้ปุ่มลัด ‘ X ‘ เพื่อเปรียบเทียบ

โปรแกรมแก้ไขรูปถ่ายที่สามารถรีทัชฟันให้ขาวสว่างได้

นอกจากเครื่องมือ Photoshop แล้วยังมีโปรแกรมอีกมากมายที่สามารถรีทัชฟันสีให้ขาวสว่างได้ โดยวันนี้เราก็มี 2 โปรแกรมแต่งรูปภาพที่เรียบง่ายบนมือถือมาแนะนำทุกคน

  • Lightroom แอปพลิเคชันแก้ไขรูปภาพสำหรับช่างภาพที่ต้องการจัดการไลบรารีรูปภาพขนาดใหญ่ คุณสามารถทำได้ด้วย Lightroom คุณสามารถผสมผสานและรวมเงาและไฮไลท์ ทำให้ภาพที่มืดมน เบลอเพื่อให้ภาพดูคมชัด เพิ่มรายละเอียดและสีอ่อนลงเพื่อทำให้ภาพถ่ายโดดเด่น และอื่นๆ อีกมากมาย
  • Snapheal for Mac แอปพลิเคชันแก้ไขรูปภาพที่เป็นมากกว่าการแก้ไขและเพิ่มเลเยอร์ เป็นเครื่องมือที่สามารถลบวัตถุขนาดใหญ่หรือความไม่สมบูรณ์เล็กน้อยในรูปภาพ คุณยังสามารถใช้เครื่องมือภาพปรับแก้ไขรูปภาพได้ง่าย ๆ รวมถึงการรีทัชฟันให้ขาวสว่างอีกด้วย
Categories
เทคนิค

วิธีแก้ไขวิดีโอพื้นหลังสีเขียวด้วย Adobe Premiere Pro พร้อมเทคนิคการใช้ green screen อย่างมืออาชีพ

ทุกคนทราบหรือไม่ว่าฉากในภาพยนตร์แนวแอคชั่น แนวแฟนตาชี และอื่น ๆ อีกมากมาย ต้องมีฉากที่ต้องใช้พื้นหลังสีเขียว หรือแม้แต่วิดีโอทั่วไป เช่น วิดีโอโฆษณาสินค้า ก็ต้องถูกสร้างขึ้นด้วยการใช้ฉากพื้นหลังสีเขียว หรือที่เรียกว่า green screen โดยฉากพื้นหลังสีเขียวจะช่วยให้คนตัดต่อภาพยนตร์ หรือนักตัดต่อวิดีโอ สามารถสร้าง “วิชวลเอฟเฟกต์ (VFX)” ให้มีความสมจริงมากยิ่งขึ้น ด้วยกระบวนการทางคอมพิวเตอร์ที่มีขั้นตอนการทำงานที่พิถีพิถันและซับซ้อน เพื่อให้ผู้ชมภาพยนตร์หรือวิดีโอนั้น ๆ ไม่สามารถแยกได้ว่าส่วนไหนถ่ายจริง ส่วนไหนผ่านกระบวนการทางวิชวลเอฟเฟกต์มา

วิชวลเอฟเฟกต์ (VFX) ถูกนำมาใช้สร้างฉากที่ในความเป็นจริงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ อย่างเช่น ฉากในหนังเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ฉากมังกรพ่นไฟมังกรพ่นไฟไปจนถึงฉากพ่อมดที่ร่ายคาถาก็ล้วนแล้วถูกสร้างขึ้นด้วยวิดีโอพื้นหลังสีเขียวที่ผสมผสาน chroma key กับอุปกรณ์ที่เหมาะสม คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีแก้ไขวิดีโอพื้นหลังสีเขียวด้วย Adobe Premiere Pro และเทคนิคการใช้ Backdrops สีเขียวอย่างมืออาชีพได้ตามคำแนะนำด้านล่างนี้เลยค่ะ
วิธีแก้ไขวิดีโอพื้นหลังสีเขียวด้วย Adobe Premiere Pro

คุณสามารถเริ่มถ่ายวิดีโอฉากพื้นหลังสีเขียวได้ แม้ว่าคุณจะมีงบจำกัดก็ตาม หรือจะใช้อุปกรณ์ที่ดีที่สุด แต่คุณก็จะขาดการสร้างฟุตเทจที่ไม่สมจริงได้ หากคุณไม่มีเครื่องมือซอฟต์แวร์หลังการผลิตที่เหมาะสม ซึ่ง Adobe Premiere Pro เป็นหนึ่งในโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ได้มาตรฐานและทันสมัย

นอกจากจะมีเครื่องมือมากมายสำหรับการแก้ไขสี การเปลี่ยนสี เสียง และอื่นๆ แล้ว ยังมีฟีเจอร์ในตัวที่ช่วยลดความซับซ้อนในการแก้ไขฟุตเทจ green screenได้ ส่วนใหญ่จะทำให้การลบหน้าจอสีเขียวเป็นไปโดยอัตโนมัติ และคุณยังสามารถปรับแต่งพื้นผิวฉากได้อย่างง่ายดาย Adobe Premiere Pro ช่วยแก้ไขวิดีโอพื้นหลังสีเขียวผ่านเครื่องมือ Ultra-Key โดยมีขั้นตอน ดังนี้

  • ลากและวางฟุตเทจไปยังหน้าไทม์ไลน์ แล้ววางฟุตเทจฉากพื้นหลังสีเขียวไว้ด้านบน
  • ค้นหาเครื่องมือ Ultra-Key ในแผงเอฟเฟกต์แล้วลากไปที่คลิป
  • ไปที่แผงควบคุมเอฟเฟกต์ เลือกตัวเลือกสี แล้วคลิกบนฉากหลังสีเขียว คุณจะสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับวิดีโอของคุณ
  • เปลี่ยนเอาต์พุตจาก Composite เป็น Alpha Channel เครื่องมือนี้จะแสดงพื้นหลังที่เหลือที่คุณต้องนำออก
  • ใช้เครื่องมือ Matte Generation เพื่อปรับการตั้งค่าจนกว่าคุณจะลบพื้นหลังออกจนหมด
  • สุดท้าย ทำให้พื้นหลังของคุณดูเหมือนเป็นส่วนที่ไร้รอยต่อด้วยการเพิ่มเอฟเฟกต์ เช่น การเบลอหรือการไล่สี จากนั้น Render Timeline ของคุณ เพื่อให้เห็นว่าวิดีโอเล่นด้วยความเร็วเต็มที่

เทคนิคการใช้ green screen อย่างมืออาชีพ

ก่อนจะไปดูเทคนิคการใช้ Backdrops สีเขียวในการถ่ายวิดีโอ เรามาทำความรู้จักกับ green screen กันก่อนเลย ยิ่งคุณได้เข้าใจถึงประโยชน์และข้อจำกัดของมันมากเท่าไร คุณก็จะตั้งค่าการถ่ายทำและได้ฟุตเทจที่ดีที่สุด สำหรับการผลิตขั้นตอนต่อไปได้ง่ายขึ้น

การถ่ายภาพด้วยฉากสีเขียวเริ่มต้นด้วยการตั้งค่าพื้นหลังผ้าหรือทาสีผนังด้วยเฉดสีเขียวโดยเฉพาะ และใช้โปรแกรมการตัดต่อวิดีโอหลังขั้นตอนการผลิต ผู้สร้างภาพยนตร์มักใช้สีเขียว เนื่องจากสีนี้ตัดกับสีผิวของมนุษย์ได้อย่างชันเจน หลังจากที่เรารู้แล้วว่า green screen คืออะไรต่อไปเรามาดูเทคนิคการใช้ green screen อย่างมืออาชีพกันเลยค่ะ

  • ค้นหา green screen ที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายวิดีโอของคุณ : ควรเลือกผ้าสีเขียวที่ไร้รอยยับ เนื่องจากรอยยับและตะเข็บอาจทำให้เกิดเงาที่รบกวนความสม่ำเสมอของสีได้ คุณจะต้องยืดผ้าบนเฟรมหรืออบไอน้ำเพื่อขจัดรอยยับ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าระหว่างการถ่ายวิดีโอผ้าจะต้องไม่ย่น นอกจากผ้าแล้วคุณยังสามารถใช้กระดาษสีเขียวที่ไม่มีรอยต่อ ไร้ตะเข็บไม่แพงมากได้ แต่ต้องดูแลและรักษาความสะอาดให้ดีด้วย
  • แสงสว่าง : แสงสว่างเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดเมื่อใช้ฉากหลังสีเขียว การสร้างแสงที่สม่ำเสมอทั่วทั้งพื้นผิวฉากสีเขียว เพื่อแยกระหว่างนักแสดงและพื้นหลัง ตามหลักการแล้วฉากสีเขียว ควรมีความสว่างระหว่าง 40% ถึง 50% หากคุณต้องการแน่ใจว่าคุณจัดแสงหน้าจออย่างถูกต้อง คุณสามารถใช้ตัวตรวจสอบรูปคลื่นได้ ความโค้งของรูปคลื่นจะแสดงให้คุณเห็นว่าแสงของคุณไม่สม่ำเสมอ และความหลากหลายของแสงกับแบ็คกราวด์จะทำให้วัตถุดูกลมกลืนสมจริงยิ่งขึ้น
  • การตั้งค่ากล้องที่เหมาะสมตามเนื้อผ้า : ความตั้งค่ารับแสงที่ f/5.6 ถึง f/8 จะให้ระยะชัดลึกที่ดี พื้นหลังจะเบลอพอที่จะทำให้พื้นผิวที่ขัดแย้งกับวิดีโอของคุณดูเรียบขึ้น
  • ควรหลีกเลี่ยงการเสื้อผ้าสีเขียว : ให้หลีกเลี่ยงการใช้สีเขียวบนอุปกรณ์ประกอบฉาก หรือบนตัวนักแสดง หลีกเลี่ยงสีอื่นๆ ที่มีโทนสีเขียวเล็กน้อยด้วย นอกจากนี้ ให้ระวังแสงสะท้อนสีเขียวบนอุปกรณ์ประกอบฉากและองค์ประกอบอื่นๆ

สนับสนุนโดย: ไฮโลไทย แทงไฮโลไทย เว็บตรง ได้เงินจริง ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ HILO-88

Categories
เทคนิค

5 แอปพลิเคชันสุดเจ๋ง แต่งรูปเท่ ๆ บนมือถือที่คุณไม่ควรพลาด

สำหรับใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูป หรือเซลฟี่ด้วยสมาร์ทโฟนของคุณ คุณต้องไม่ควรพลาดที่จะดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแต่งรูปเท่ ๆ ติดเครื่องสมาร์ทโฟนของคุณไว้ ซึ่งแอปพลิเคชันเหล่านี้จะพาคุณเข้าไปสัมผัสกับถ่ายภาพที่สวยงาม แลแปลกใหม่ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับรูปภาพนั้น ๆ

เราเชื่อว่าทุกคนต้องมีสมาร์ทโฟนดีๆ ของคุณเองสักเครื่อง และแต่ละเครื่องจะมีกล้องดี ๆ ไว้ใช้ถ่ายรูปและเซลฟี่ แต่เคล็ดลับที่จะช่วยให้ภาพถ่ายของคุณนั้นดูดียิ่งขึ้น จำเป็นต้องใช้แอปพลิเคชันแต่งรูปเข้าช่วย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนี้ อาจจะทำให้ Instagram Facebook หรือแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆ ของคุณเติบโตขึ้นไปอีกระดับ

นอกจากนี้แอปพลิเคชันแต่งรูปเท่ ๆ บนมือถือยังช่วยให้คุณสามารถแก้ไขภาพถ่ายได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว ไม่ว่าคุณไปเดินทางไปที่ไหนก็สามารถหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป พร้อมตัดต่อและตกแต่งรูปภาพได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่กำลังมองมองแอปพลิเคชันแต่งรูปอยู่ วันนี้ผู้เขียนก็มี 7 แอปพลิเคชันสุดเจ๋ง ไว้แต่งรูปเท่ ๆ สวย ๆ มาแนะนำทุกคน เราเชื่อว่าแอปที่เราคัดเลือกมานี้จะช่วยเปลี่ยนแปลงรูปภาพของคุณให้ดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

5 แอปพลิเคชันแต่งรูปเท่ ๆ บนมือถือที่ควรมีติดไว้

ใครที่อยากเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ หรืออยากลงรูปเท่ ๆ บน Instagram และ Facebook หรือแพลตฟอร์มโซเชียลของคุณ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะรูปถ่ายยังไงให้ภาพออกมาเท่และโดดเด่น เพราะทุกคนต่างมีฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์ให้ใช้เหมือน ๆ กัน ทำให้รูปถ่ายของทุกคนจะดูเหมือนกันหมด จึงไม่มีใครที่โดดเด่น แต่ปัญหานี้นี้จะหมดไปด้วยแอปพลิเคชันแต่งรูปเท่ ๆ ที่เราคัดมาในวันนี้ โดยแอปเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์รูปภาพของคุณให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ด้วยฟิลเตอร์ที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่น พร้อมเครื่องมือปรับแต่งภาพถ่ายให้สวยงาม ช่วยเรียกจำนวนยอดกดไลค์ให้คุณได้อย่างแน่นอน

Color Pop Effect

เริ่มกันที่แอป Color Pop Effect เป็นอีกหนึ่งแอปแต่งรูปยอดเยี่ยมที่สร้างโดย Kite Games studio เป็นแอปพลิเคชันแต่งรูปเท่ ๆ ที่ใช้แก้ไขสีรูปภาพ โดยแอปนี้ได้นำเสนอคุณสมบัติ Spiral 🌀 & Portrait Maker ที่ทำให้คุณสามารถเลือกใส่เส้นขอบนีออน และเกลียวสีภาพถ่ายขาวดำให้กับรูปภาพของคุณได้ ทำให้รูปภาพของคุณดูดีมีสไตล์ พร้อมด้วย Photo Spiral 🌀 & Portrait ที่น่าทึ่งมากมาย นอกจากนี้แอปนี้ยังสามารถเปลี่ยนสีของเส้นได้ และสามารถเปลี่ยนสีของดวงตาได้อีกด้วย Color Pop Effect สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android

Prisma Photo Editor

Prisma เป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชันแต่งรูปเท่ ๆ ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือแก้ไขรูปภาพที่สามารถสร้างเอฟเฟกต์ให้กับรูปภาพ เปลี่ยนรูปภาพของคุณให้เป็นภาพวาดที่น่าทึ่ง รวมไปถึงแนวอนิเมะ โดยการใช้ฟิลเตอร์ศิลปะของ Prisma จะทำให้รูปภาพของคุณดูราวเหมือนกับว่า Picasso, Munch หรือแม้แต่ Salvador Dali เป็นผู้วาดภาพนั้นให้กับคุณ! ทำให้คุณเปลี่ยนรูปภาพที่ธรรมดาให้กลายเป็นงานศิลปะที่สวยงาม มีฟิลเตอร์ศิลปะให้เลือกใช้มากกว่า 300 แบบในไลบรารี นอกจากนี้ Prisma ยังมีการเปิดตัวอาร์ตฟิลเตอร์ใหม่ทุกวัน พร้อมทั้งสามารถปรับปรุงรายละเอียดของรูปภาพได้ด้วยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพภาพ สามารถดาวน์โหลด Prisma ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android

Adobe Photoshop Fix

Adobe Photoshop Fix เป็นอีกหนึ่งแอปที่ผู้เขียนชื่นชอบมาก เพราะแอปนี้มีรูปแบบอินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่าย และมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมมากมาย เป็นแอปแก้ไขรูปภาพที่สามารถรีทัชและกู้คืนรูปภาพได้โดยใช้เครื่องมือที่ให้รูปลักษณ์ และโครงสร้างไม่ว่าจะเป็นปรับแต่งแสงสี ความเรียบเนียน และการแก้ไขและปรับแต่งอื่นๆ เพื่อให้คุณได้รูปเท่ ๆ ที่ตรงตามความต้องการ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ เช่น มาสก์พร่ามัว และอีกมากมาย ที่สำคัญคุณสามารถดาวน์โหลด Adobe Photoshop Fix ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android

Snapseed

แอป Snapseed เป็นแอปแก้ไขรูปภาพที่ถูกสร้างขึ้นโดย Google มีคุณสมบัติที่น่าทึ่งมากมาย เพื่อให้คุณได้แต่งรูปเท่ ๆ ด้วยเครื่องมือและตัวกรองที่ใช้แก้ไขและปรับแต่งรูปภาพได้ถึง 29 เครื่องมือ สามารถเปิดไฟล์ JPG และ RAW ได้ ทุกสไตล์การปรับแต่งสามารถปรับแต่งได้ด้วยการควบคุมที่ละเอียดและแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถแต่งฟิลเตอร์ไว้ใช้ล่วงหน้าได้ คุณจะได้รับคุณสมบัติฟรีมากมาย สามารถดาวน์โหลด Snapseed ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android

LINE Camera

ปิดท้ายด้วยแอป LINE Camera ที่ถูกสร้างขึ้นโดย LINE ผู้ให้บริการสื่อและการสื่อสารยอดนิยมในเอเชีย เป็นแอปแก้ไขรูปภาพนี้มีเอฟเฟกต์สนุกๆ และสร้างสรรค์มากมาย ไม่ว่าคุณจะอยากได้รูปเท่ ๆ หรือรูปน่ารัก ๆ คุณก็สามารถสร้างสรรค์ได้ในแอปเดียว โดย LINE Camera มีฟิลเตอร์มากกว่า 100 ฟิลเตอร์ ช่วยเพิ่มสไตล์ที่โดดเด่นให้กับภาพถ่ายของคุณ และยังมีสติ๊กเกอร์มากกว่า 5,000 อัน ให้คุณเลือกใส่เพิ่มในรูปภาพ เพื่อเพิ่มความสนุกสนานและน่ารัก สามารถดาวน์โหลด LINE Camera ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android

Categories
เทคนิค

ADOBE PREMIERE PRO โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ ที่ยังปังไม่หยุด

ปัจจุบันไม่ว่าจะสายงานไหนก็มีความจำเป็นต้องใช้สื่อวิดีโอเข้ามาช่วยในการสื่อสารเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจสิ่งที่เราจะสื่อได้ง่ายขึ้น และช่วยให้หลายสายงานสามารถปิดการขายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น การวันนี้เราอยากแนะนำให้รู้จักกับ ADOBE PREMIERE PRO โปรแกรมที่อยู่คู่กับสายตัดต่อวิดีโอมาอย่างยาวนาน และสำหรับปี 2024 นี้ก็ยังเป็นโปรแกรมที่ปัง และหลาย ๆ โปรแกรมก็ยังเอาเขาไม่ลงจริง ๆ 

เหตุผลที่ปี 2024 ADOBE PREMIERE PRO ยังเป็นโปรแกรมที่น่าใช้อยู่

ADOBE PREMIERE PRO

ADOBE PREMIERE PROนับว่าเป็นหนึ่งในโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่อยู่คู่กับสายงานตัดต่อวิดีโอมามากกว่า 30 ปี ดังนั้นหลายคนที่ทำงานสายนี้คงต้องรู้จักกับกับโปรแกรมนี้เป็นอย่างดีอย่างแน่นอน ซึ่ง ADOBEPREMIERE นับว่าเป็นโปรแกรมที่ตอบโจทย์ทั้งมือใหม่ และมือโปร เนื่องจากฟีเจอร์และฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ให้มาก็เรียกว่า อยู่ในระดับครอบคลุมอีกทั้งยังเป็นโปรแกรมที่ทั้งอุตสาหกรรมภาพยนต์ เพลง และวิดีโอ เลือกใช้ จนกลายเป็นโปรแกรมที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลเลยก็ว่าได้

ADOBE PREMIERE PRO

ทดลองใช้ก่อนสมัครใช้งานจริง 

หนึ่งในคำถามสุดฮ้อตที่ลายคนคงอยากทราบว่า โปรแกรมอโดบี พรีเมียร์โปรมีโหลดฟรีไหม คำตอบคือ โปรแกรมนี้ทั้งสำหรับเครื่อง MAC และ PC ยังไม่มีบริการเปิดให้ดาวน์โหลดใช้งานฟรี แต่ด้วยความที่โปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่มีความตัวค่อนข้างสูงสำหรับมือใหม่ ดังนั้นโปรแกรมจึงมีฟีเจอร์ให้ทดลองใช้ฟรีนานถึง 7 วันก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่า จะเช่าซื้อโปรแกรมนี้หรือไม่

กดทดลองใช้ฟรี: ADOBE PREMIERE PRO ทดลองใช้ฟรี

ADOBE PREMIERE PRO

PREMIERE PRO ทำอะไรได้บ้าง

อย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นว่า ADOBE PREMIERE PROMAC และ PC เป็นโปรแกรมที่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งมือใหม่และมือโปร เนื่องจากเป็นโปรแกรมที่จะช่วยให้คุณสามารถสร้างวิดีโอ หรือภาพยนตร์คุณภาพออกมาได้ เช่น การที่ใช้ AI เข้ามาช่วยให้การตัดต่อรวดเร็วยิ่งขึ้นการถอดเสียง หรือคำพูดอัตโนมัติ เพื่อให้คุณสามารถนำไปตัดช่วงเดทแอร์ แก้ไขข้อความให้ถูกต้อง ไปจนถึงการนำข้อความมาใช้เพื่อเป็นแคปชันในวิดีโอ โดยไม่จำเป็นต้องมาถอดคำพูดที่ละประโยค

นอกจากนี้ ADOBE PREMIERE PRO ยังมาพร้อมฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น มีอินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่าย, รองรับโปรเจกต์ตัดต่อตั้งแต่ 8K – VR, ทำงานร่วมกับแอป Adobe และบริการอื่น ๆ, สะดวกสบายด้วยการทำงานที่เชื่อมต่อกับ PREMIERE RUSH และที่สำคัญไปกว่านั้นคือยังมาพร้อมเครื่องมือปรับแต่งสี ที่ให้คุณทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น

ADOBE PREMIERE PRO

ADOBE PREMIERE ก็ใช้ฟรีได้

อย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่าADOBE PREMIERE PROฟรี แบบถูกลิขสิทธิ์นั้นไม่มีอยู่จริง แต่เรามีอีกหนึ่งตัวเลือกดี ๆ มาแนะนำสำหรับคนที่พึ่งเริ่มต้นจะเข้าวงการทำคลิปให้ไปลองดาวน์โหลดใช้กัน สิ่งนั้นคือแอปพลิเคชัน PREMIERE RUSH ซึ่งเป็นโปรแกรมตัวต่อวิดีโอบนมือถือจาก ADOBE ซึ่งเป็นโปรแกมที่เหมาะกับสายทำคลิปสั้น ที่สำคัญยังสามารถดาวน์โหลดใช้ฟรีอีกด้วย

IOS DOWNLOAD: PREMIERE RUSH

ANDROID DOWNLOAD: PREMIERE RUSH

ราคาเช่าซื้อADOBE PREMIERE PRO เริ่มต้นเพียงเดือนละ 761.84/เดือน

ADOBE PREMIERE PRO

เป็นยังไงบ้างค่ะทุกคนมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่าADOBE PREMIERE PROเป็นโปรแกรมที่น่าสนใจ น่าลองใช้หรือยัง ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้เรามาดูในส่วนของราคากันก่อนค่ะว่า ADOBE PREMIERE PROกี่บาท เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งข้อมูลประกอบการตัดสินใจ โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 แผน CREATIVE CLOUD ได้แก่

  1. สำหรับนักเรียนและครู ราคา 761.84 บาท/เดือน (รวม VAT) ประหยัดกว่า 60% สำหรับแอป Creative Cloud กว่า 20 รายการ รวมถึง Premiere Pro
  2. PREMIEREPRO SINGLE APP ราคา 800.36 บาท/เดือน (รวม VAT) ประกอบด้วย พื้นที่เก็บข้อมูล 100 GB บนระบบคลาวด์,Adobe Fonts และ Adobe Portfolio
  3. CREATIVE CLOUD ALL APP ราคา 1,143.83 บาท/เดือน หรือ 13,725.96 บาท/ปีเดือน (รวม VAT) สำหรับปีแรก ประหยัด 43% และปีถัดไปจะมีราคาอยู่ที่ 2,020.16 บาท/เดือน หรือ 22,880.88 บาท/ปี (รวม VAT) สำหรับแอปและบริการ Creative Cloud กว่า 20 รายการ
  4. ธุรกิจ ราคา 2,407.50 บาท/เดือน (รวม VAT) รับส่วนลด 26% ในปีแรก และสิทธิ์ใช้งานสำหรับทีมของคุณสูงสุด 5 สิทธิ์ รวมทั้งแอป Creative Cloud กว่า 20 รายการ Premiere Pro ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ทางธุรกิจ

อ่านบทความอื่นๆ: