Categories
เสียง

AUDACITY โปรแกรมบันทึกเสียงฟรี ที่ชาวพอดแคสต์ควรโหลด

ปัจจุบันรายการพอดแคสต์นับว่าเป็น สื่อความบันเทิงอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก ๆ และหลัง ๆ เราจะเริ่มเห็นช่อง YOUTUBE หลาย ๆ ช่องของไทยเริ่มหันมาผลิตสื่อประเภทนี้มากขึ้น และเราเชื่อว่าก็มีเพื่อน ๆ หลายคนที่อยากลองหันมาทำพอดแคสต์ แต่ถ้าจะให้ซื้อโปรแกมบันทึกเสียงแพง ๆ ก็อาจจะเป็นการลงทุนที่สูงเกินไป ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำให้รู้จักกับ AUDACITY หนึ่งในโปรแกรมบันทึกเสียง ที่นอกจากจะฟรีแล้ว ยังดีสุด ๆ อีกด้วย

ทำความรู้จักกับ AUDACITY โปรแกรมบันทึกเสียง ตำนาน 23 ปี

AUDACITY

หากพูดถึงโปรแกรมบันทึกเสียงฟรีที่มีคุณภาพ เราเชื่อว่าสายเทคคงต้องแนะนำAUDACITYให้กับเพื่อน ๆ อย่างแน่นอน โดย AUDACITYคือ ซอฟต์แวร์ตัวหนึ่งที่ใช้สำหรับงานด้านเสียงทั้ง บันทึกเสียง, ตัดต่อเสียง, ตัดเสียงรบกวน, แต่งเสียง และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่เริ่มพัฒนาครั้งแรกในช่วงปี พ.ศ. 2543 หรือเมื่อประมาณ 23 ปีที่แล้ว ซึ่งความพิเศษของโปรแกรมนี้คือนอกจากจะเป็นโปรแกรมฟรีที่รองรับหลายระบบปฏิบัติการแล้ว ยังสามารถ EXPORT ได้ทั้ง MP3, OGG VORBIS และ WAV ซึ่งเป็นไฟล์มาตรฐานที่ใช้กันในปัจจุบัน

AUDACITY

แต่จุดด้อยของโปรแกรมนี้ก็มีเช่นกันเนื่องจากโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมฟรี ความสามารถของมันจึงมีขอบเขต และข้อจำกันอยู่เหมือนกัน ซึ่งใครที่คาดหวังว่ามันจะสามารถเทียบเท่าโปรแกรมแพง ๆ อันนั้นก็คงไม่ใช่ เช่นถ้าจะนำไปใช้ทำเพลง คืออาจจะทำได้แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นไปตามศักยภาพของโปรแกรมนั่นเอง

AUDACITY

บันทึกเสียง

วิธีใช้AUDACITY ในการบันทึกเสียงสามารถทำได้ง่ายมาก ๆ เมื่อคุณเปิดเข้าไปในโปรแกรม AUDIO TRACK 1 ก็จะถูกเปิดมาให้โดยอัตโนมัติ และเมื่อคุณต้องการเริ่มบันทึกเสียงให้กดปุ่ม RECORD (ปุ่มสีแดง) หรือกด R ที่แป้นพิมพ์ และกด SHIFT + R เมื่อต้องการ RECORD NEW TRACK และเมื่อต้องการหยุดระหว่างการบันทึกเสียงให้คุณกด PAUSE และกด STOP เมื่อสิ้นสุดการบันทุกเสียง 

AUDACITY

ตัดเสียงรบกวน

AUDACITYตัดเสียงรบกวน ได้หลายวิธี แต่สำหรับวิธีพื้นฐานที่สุดคือให้ทำตามวิธีดังต่อไปนี้ โดยให้ไฮไลท์ WAVEFORM ที่เป็นเส้นตรง (เสียงเงียบ) > EFFECT > NOISE REMOVAL AND REPAIR > NOISE REDUCTION > เซ็ตตัวเลข NOISE REDUCTION: 10, SENSITIVITY : 6.00, FREQUENCY SMOOTHING (BANDS) : 3 > GET NOISE PROFILE > CTRL + A > EFFECT > REPEAT NOISE REDUCTION 

ทั้งนี้ค่าการเซตตัวเลขดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามที่เราต้องการ แต่ถ้าอยากให้มีความละเอียดมากขึ้นเพื่อน ๆ ก็เพียงแค่ทำการไฮไลท์จุดที่ต้องการดัดเสียงรบกวน แล้วให้กด CTRL + L เท่านี้เมื่อคุณนำไปไฟล์เสียงไปเพิ่มเสียงก็จะไม่มีเสียงรบกวนมากวนใจแล้ว

AUDACITY

วิธีเพิ่มเสียง

ถ้าต้องการใช้ AUDACITYเพิ่มเสียง เราแนะนำให้เพื่อน ๆ ทำการตัดเสียงรบกวนก่อน เพื่อไม่ให้มีเสียงรบกวนเกิดขึ้นเมื่อเราเพิ่มเสียง ซึ่งจะทำให้เราต้องมาปวดหัวกับการแก้เสียงรบกวนอีกครั้ง และสำหรับการเพิ่ม เสียงก็ทำได้ไม่ยาก โดยให้เพื่อน ๆ CTRL + A > VOLUME AND COMPRESSION > AMPLIFY > เซ็ตค่าเสียง NEW PEAK AMPLITUDE : – 8 (ค่าเสียงนี้ยิ่งติดลบมากยิ่งดังมาก) > OK เพียงเท่านี้ไฟล์เสียงของคุณก็จะดังขึ้นแล้ว แต่ถ้าหากเราต้องการลดเสียงที่บันทึกลงก็ให้ทำวิธีเดิมเพียงแค่คุณจะต้องเซ็ตตัวเลขที่มีการติดลงที่ต่ำลง 

AUDACITY ดาวน์โหลดง่าย ๆ รองรับทั้ง WINDOWS, MAC OS และ LINUX

AUDACITY

สำหรับใครที่อยากลองใช้AUDACITYนอกจากคุณจะสามารถ ดาวน์โหลด AUDACITY ได้ฟรีแล้ว โปรแกรมนี้ยังรองรับทั้ง WINDOWS, MAC OS และ LINUX สำหรับ WINDOWS 4 เวอร์ชัน ได้แก่ 64 BIT INSTALLER (RECOMMENDED), 64 BIT ZIP FILE, 32 BIT INSTALLER และ 32 BIT ZIP FILE สำหรับ MAC OS 3 เวอร์ชัน ได้แก่ UNIVERSAL DMG (RECOMMENDED), ARM 64 DMG (APPLE SILICON) และ X86_64 DMG (INTEL) และสำหรับ LINUX อีกหนึ่งเวอร์ชันคือ APPLMAGE

นอกจากนี้คุณยังสามารถดาวน์โหลด PLUGINS และออปชั่นเสริมอื่น ๆ มาไว้ใช้งานร่วมด้วยก็ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงนับว่า โปรแกรมAUDACITY เป็นโปรแกรมบันทึกเสียงฟรีที่คุ้มค่า และสำหรับใครที่อยากทำงานเกี่ยวกับเสียง เช่นพอดแคสต์แต่ยังไม่มีทุนซื้อโปรแกรมแพง ๆ ออแดซิตี ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว

ดาวน์โหลดโปรแกรม: https://www.audacityteam.org/download/

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เสียง

แนะนำ 5 แอพทำเพลงฟรียอดนิยม ใช้งานง่าย คนทำเพลงไม่เป็นก็ใช้ได้

ใครที่ทำงานเกี่ยวกับการผลิตเพลง หรือคนที่สนใจอยากที่จะผลิตเพลง ต้องไม่พลาดกับ 5 แอพทำเพลง ยอดนิยมที่ช่วยให้กระบวนการทำเพลงของคุณง่ายขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาบนโทรศัพท์มือถือของคุณ ซึ่งในปัจจุบันนักร้องหรือผู้ผลิตผลงานเพลงหลายคนมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินทาง เช่น การเดินทางไปงานร้องเพลงหรือเดินทางไปต่างจังหวัดและต่างประเทศ บางครั้งต้องเข้าสตูดิโอ แต่เครื่องมือทำเพลงไม่พร้อมใช้งาน 

ในกรณีเช่นนี้โชคดีที่เกิดขึ้นในยุคของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ช่วยทำให้คุณเข้าถึงแอพทำเพลงได้อย่างง่ายดาย โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมามีผู้ใช้บันทึกแทร็กเพลงบนแอพทำเพลงจำนวนมาก ดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวม 5 แอพทำเพลง ฟรียอดนิยมที่ใช้งานง่ายมาแนะนำทุกคน ซึ่งจะมีแอพไหนที่น่าสนใจบ้างนั้น สามารถติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ 

สุดยอด 5 แอพทำเพลงฟรียอดนิยมที่ใช้งานง่าย

5 แอพทำเพลง

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้เกิดการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับผลิตผลงานเพลงที่มีประสิทธิภาพมากมาย ซึ่ง 5 แอพทำเพลง ที่เราได้รวบรวมมาไว้ในบทความนี้ก็ล้วนเป็น โปรแกรมทำเพลง ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยเครื่องมือสำหรับการผลิตเพลงให้เลือกใช้งานมากมายและใช้งานง่าย แถมยังเป็น แอพทำเพลงฟรี ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง 

5 แอพทำเพลง

โดยทั่วไปนักแต่งเพลงมืออาชีพส่วนใหญ่มักจะใช้ แอพทำเพลง PC ที่มีคุณสมบัติที่หลากหลาย แต่สำหรับมือใหม่นั้นมันคงเป็นเรื่องยากที่จะใช้เครื่องมือที่ซับซ้อน โชคดีที่ตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถทำเพลงเองได้ง่าย ๆ ด้วยแอพทำเพลงที่มีเครื่องมือที่ครอบคลุมและใช้งานง่ายให้เลือก นั่นจึงไม่แปลกที่นักทำเพลงมืออาชีพหลายคนชื่นชอบ 5 แอพทำเพลง เหล่านี้ อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ใช้มือใหม่อีกด้วย โดยมีทั้ง แอพทำเพลง ANDROID และ แอพทำเพลง IOS ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดแอพเหล่านี้ได้ง่าย ๆ ในร้านค้า APP STORE และ GOOGLE PLAY และนี่คือ 5 แอพทำเพลงฟรียอดนิยมที่ใช้งานง่าย 

GARAGEBAND

5 แอพทำเพลง

เริ่มต้นกันที่หนึ่งใน 5 แอพทำเพลง ยอดนิยมที่มีชื่อเรียกว่า GARAGEBAND เป็น แอพทำเพลงในคอม และโทรศัพท์ที่สามารถใช้งานได้บน MAC และ IOS แอพนี้เป็นอีกหนึ่งแอพฟรีที่เป็นตัวเลือกที่ดีสุด โดยคุณสามารถดาวน์โหลด GARAGEBAND ได้ง่าย ๆ ใน APP STORE ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็นนักทำเพลงมืออาชีพ หรือนักทำเพลงมือใหม่ก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายด้วยเครื่องมือที่ยอดเยี่ยม และไม่ซับซ้อน 

GARAGEBAND เป็นหนึ่งใน 5 แอพทำเพลง ที่ง่ายที่สุดสำหรับการทำเพลง ถึงแม้ว่ามันจะดูเรียบง่าย แต่มันก็มีคุณสมบัติที่น่าทึ่งมากมาย เช่น การเล่นเพลง การบันทึกเสียง และการแชร์เพลง ซึ่งไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนการทำเพลงของคุณก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย เนื่องจากแอพนี้มีเครื่องดนตรีเสมือนจริงหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งาน และคุณยังสามารถสร้างเพลงได้มากถึง 255 แทร็ก อีกทั้งยังมีคลังเสียงใหม่ ๆ อีกมากมาย ทำให้คุณเลือกหาและดาวน์โหลดเสียง ลูป และSAMPLING ฟรีได้ง่าย ๆ จากคอลเลกชันที่สร้างขึ้นด้วยโปรดิวเซอร์ชื่อดังระดับโลก

BANDLAB

5 แอพทำเพลง

มาต่อกันที่หนึ่งใน 5 แอพทำเพลง ยอดนิยมที่มีชื่อเรียกว่า BANDLAB เป็น แอพทำเพลงในโทรศัพท์ฟรี โดยสามารถใช้งานได้ทั้งระบบ ANDROID และ IOS แอพนี้จะเปลี่ยนโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณให้เป็นสตูดิโอที่มีเครื่องมือสำหรับใช้ทำเพลงระดับมืออาชีพถึง 120 ชิ้น ทำให้คุณสามารถบันทึกเพลง มิกซ์เพลง และทำให้กระบวนการทำเพลงของคุณนั้นเป็นไปได้อย่างง่ายดายตั้งแต่ต้นจนจบด้วย MIX EDITOR ที่ดีที่สุด นอกจากนี้แอพ BANDLAB ยังสามารถใช้เป็นแอพทำเพลง PC ฟรีบนเดสก์ท็อป (DESKTOP) ทำให้คุณสามารถทำเพลงได้ทุกที่ทุกเวลาและสามารถใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ 

BEATMAKER 3

5 แอพทำเพลง

อีกหนึ่ง 5 แอพทำเพลง ยอดนิยมที่มีชื่อเรียกว่า BEATMAKER 3 เป็น แอพสร้างบีท ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดี ทำให้คุณสามารถทำเพลงได้อย่างง่ายดายบนโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณ โดยแอพนี้มีคุณสมบัติสำหรับการทำเพลงมากมาย เช่น ซีเควนเซอร์ (MUSIC SEQUENCER) มาตรฐานแบบแป้นพิมพ์ คลังเสียง และเอฟเฟกต์ที่น่าทึ่งมากมายด้วยการสนับสนุน AUV3 และ IAA อย่างเต็มรูปแบบ

BEATMAKER 3 มีเวิร์กโฟลว์ที่เรียบง่ายที่ช่วยทำให้กระบวนการทำเพลงของคุณเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยแอพนี้มีเครื่องมือที่ช่วยทำให้คุณสร้างบีทได้อย่างง่ายดาย เช่น การเล่นซ้ำ การบันทึก สเกลคีย์&คอร์ด และการควบคุมมาโคร ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ของคุณได้ถึง 10 เท่า และทำให้คุณควบคุมทุกอย่างด้วยอุปกรณ์ MIDI อัจฉริยะ นอกจากนี้ BEATMAKER 3 ยังมีระบบมอดูเลตและการจัดเลเยอร์เต็มรูปแบบด้วย ELASTIQUE LIVE STRETCH และ PITCH SHIFT ของ ZPLANE ทำให้คุณสามารถปรับลูปและเครื่องดนตรีให้เข้ากับจังหวะ 

KORG GADGET 2 LE

5 แอพทำเพลง

มาต่อกันที่อีกหนึ่งใน 5 แอพทำเพลง ยอดนิยมที่มีชื่อเรียกว่า KORG GADGET 2 LE เป็นโปรแกรมทำเพลง IOS ที่น่าประทับใจพอ ๆ กับแอพทำเพลงฟรีข้างต้น GADGET คือ เวิร์กสเตชันของเสียงที่ครบครัน โดยแอพนี้มีเครื่องมือสังเคราะห์เสียง (SYNTHESIZER) แบบลีดและเบส มีดรัมแมชชีน (DRUM MACHINE) แบบแอนะล็อกและแบบแซมปลิง และมีแซมเพลอร์ (SAMPLER) สำหรับการบันทึกเสียงภายนอก 

KORG GADGET 2 LE มีซีเควนเซอร์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการจัดลำดับดนตรีทั้งหมดของคุณให้เข้าด้วยระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบและรองรับ MIDI นอกจากนี้แอพนี้ยังมีชุมชนในตัวที่ทำให้คุณสามารถแชร์ผลงานเพลงของคุณและรับฟังผลงานเพลงของคนอื่นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจได้ KORG GADGET 2 LE เป็นเวิร์กสเตชันเพลงสำหรับ IPHONE และ IPAD ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและฟรีอีกด้วย

N-TRACK STUDIO DAW

5 แอพทำเพลง

สุดท้ายแอพหนึ่งใน 5 แอพทำเพลง ยอดนิยมที่มีชื่อเรียกว่า N-TRACK STUDIO DAW เป็นแอพทำเพลง ANDROID ฟรีโดยการใช้ไมโครโฟนในตัวหรือการ์ดเสียงภายนอกเพื่อบันทึกเสียงและจัดเลเยอร์ด้วยการใช้แป้นพิมพ์และเครื่องมือภายในของแอป ซึ่งแอพนี้ในเวอร์ชันฟรีประกอบด้วยแทร็กมากถึง 11 แทร็กพร้อมตัวเลือกที่ต้องซื้อถึงจะเปลี่ยนให้ใช้งานได้ไม่จำกัด พร้อมกับเอฟเฟกต์อีกมากมาย 

N-TRACK STUDIO เป็นแอพทำเพลงแบบพกพาที่ทำให้โทรศัพท์ ANDROID ของคุณกลายเป็นสตูดิโอบันทึกเสียงและ BEAT MAKER ที่สมบูรณ์แบบ โดยแอพนี้มีคุณสมบัติหลักที่ยอดเยี่ยมมากมาย เช่น การบันทึกแทร็กเสียงสเตอริโอและโมโน ตัวสร้างจังหวะลำดับขั้น และแทร็ก MIDI ใน SYNTHS เป็นต้น นอกจากนี้คุณยังสามารถแชร์เพลงออนไลน์ในชุมชน SONGTREE เพื่อทำงานร่วมกับศิลปินคนอื่น ๆ ได้อีกด้วย

สนับสนุนโดย

PAPERINDUSTRYMAG.COM

sagame

Categories
เสียง

แนะนำ 5 แอพตัดต่อเสียงบนมือถือ Android / iPhone ใช้งานง่าย ที่ไม่ควรพลาด

คุณภาพของเสียงที่ดี ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญที่ทำให้วิดีโอหรือภาพยนตร์ของคุณสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ดีมากขึ้น โดยทั่วไปนักตัดต่อวิดีโอ หรือผู้ผลิตเพลงระดับมืออาชีพมักจะใช้โปรแกรมตัดต่อเสียงในคอม แต่หากมือใหม่หรือบุคคลทั่วไปต้องการที่จะตัดต่อเสียงด้วยเอง คุณสามารถใช้แอพ ตัดต่อเสียงบนมือถือ ได้ง่าย ๆ 

ซึ่งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะมีคุณสมบัติช่วยที่ทำให้คุณบันทึกเสียงได้ง่าย ๆ ทุกที่ทุกเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่ Android ไม่มีก็คือเครื่องมือการแก้ไขเสียงของคุณ จนบางครั้งคุณอาจจะต้องตัดคลิปหรือจัดเรียงส่วนของเสียงใหม่ ดังนั้นวันนี้เราจึงรวบรวม 5 แอพ ตัดต่อเสียงบนมือถือ Android / iPhone ที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แถมยังใช้งานได้ง่าย มาแนะนำทุกคน แต่จะมีโปรแกรมอะไรบ้างนั้น ติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ

5 แอพตัดต่อเสียงบนมือถือ Android / iPhone ที่ดีที่สุด แถมยังใช้งานได้ง่าย

ตัดต่อเสียงบนมือถือ

โดยทั่วไปการ ตัดต่อเสียงบนมือถือ มักจะใช้หลายแทร็ก ซึ่งถ้าให้ดีแทร็กเสียงจำเป็นต้องมีสิ่งต่าง ๆ รวมอยู่ด้วย เช่น ความสมดุลของเสียง และอื่น ๆ เป็นต้น เพื่อคุณภาพเสียงที่ดีและมีประสิทธิภาพ โดยส่วนใหญ่ผู้ผลิตเพลงหรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการตัดต่อเสียงมักใช้โปรแกรม ตัดต่อเสียงในคอม  แต่สำหรับมือใหม่หรือบุคคลทั่วไปอาจจะติดปัญหาการใช้งาน เนื่องจากโปรแกรมตัดต่อเสียงมืออาชีพส่วนใหญ่มักมีเครื่องมือการใช้งานที่ค่อนข้างซับซ้อน

ตัดต่อเสียงบนมือถือ

แต่วันนี้คุณไม่จำเป็นต้องมีคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรม การตัดต่อเสียง ที่มีคุณสมบัติเมรูปแบบก็สามารถ ตัดต่อเสียง เองได้ง่าย ๆ โดยการใช้ เทคนิคการตัดต่อเสียง บนแอพ ตัดต่อเสียงบนมือ ถือ Android / iPhone แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าแอพตัดต่อเสียงบนมือถือแอพไหนดีที่สุด? วันนี้เราก็มีคำตอบมาให้กับทุกคน และนี่ก็คือ 5 แอพ ตัดต่อเสียงดีที่สุด บนมือถือ 

Lexis Audio Editor

ตัดต่อเสียงบนมือถือ

เริ่มต้นด้วยแอพ ตัดต่อเสียงบนมือถือ ที่มีชื่อว่า Lexis Audio Editor เป็น แอพตัดต่อเสียงในโทรศัพท์ ที่ช่วยทำให้คุณสามารถแก้ไขหรือบันทึกเสียงพูดคุยและเพลงของคุณได้อย่างง่ายดาย โดยแอพนี้มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเครื่องมือตัดต่อที่หลากหลาย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการใช้เครื่องมือตัดต่อที่ไม่ซับซ้อน

แอพ Lexis เป็น ตัดต่อเสียงบนมือถือ ที่มีคุณสมบัติการตัดต่อเสียงที่ยอดเยี่ยมมากมาย เช่น การคัดลอก, การตัดซาวด์, การวาง, การควบคุมระดับเสียง, มีตัวลดเสียงรบกวน, มีเครื่องมือมิกเซอร์ และมีเอฟเฟกต์ให้เลือกใช้งานอีกมากมาย โดยคุณสามารถปรับแต่งเพลงและเสียงของคุณด้วยแอพนี้ได้ง่าย ๆ อย่างรวดเร็วบนอุปกรณ์ Android ของคุณ พร้อมกับมีรูปแบบไฟล์เสียง ได้แก่ WAV, M4A, AAC, FLAC และ WMA ส่วนรูปแบบไฟล์วิดีโอ คือ mp4, 3gp และ 3g2 ซึ่งแอพนี้เป็นฟรี แต่หากต้องการเปิดใช้งานเครื่องมือสุดพิเศษและลบโฆษณาคุณอาจจะต้องเสียเงิน เพื่อเปิดการใช้งาน

WavePad Audio Editor

ตัดต่อเสียงบนมือถือ

มาต่อกันที่แอพ ตัดต่อเสียงบนมือถือ ที่มีชื่อว่า WavePad Audio Editor เป็นแอพ ตัดต่อไฟล์เสียง ต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติระดับมืออาชีพที่หลากหลายสำหรับตัดต่อเสียงและสร้างเพลงของคุณได้ง่าย ๆ โดยแอพนี้มีคุณสมบัติที่น่าทึ่งมากมายไม่ว่าจะเป็น การตัดเสียง, ปรับแต่งผสานเสียง, คัดลอก วาง ลบ และเปลี่ยนเครื่องมือเอฟเฟกต์ เช่น การบีบอัด การทำให้เสียงเป็นมาตรฐานเดียวกัน การขยายเสียง การลดสัญญาณรบกวน เป็นต้น 

นอกจากนี้แอพนี้ยังสามารถบันทึกเสียงได้โดยตรงในแอพ และยังอนุญาตให้แก้ไขรูปแบบไฟล์เสียงต่าง ๆ ได้ รวมไปจนถึงแทร็กเสียงทั้งหมดของคุณอีกด้วย Wavepad Audio Editor มีเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานฟรีมากมาย แต่หากต้องการเปิดใช้งานเครื่องมือสุดพิเศษเพิ่มเติมคุณอาจจะต้องเสียเงิน เพื่อเปิดการใช้งาน

Voice Pro

ตัดต่อเสียงบนมือถือ

อีกหนึ่งแอพ ตัดต่อเสียงบนมือถือ ที่ยอดเยี่ยมอย่าง Voice Pro เป็น โปรแกรมตัดต่อเสียง iOS / Android ที่ถูกยกให้เป็นสุดยอดคุณสมบัติการตัดต่อเสียงที่มีคุณภาพ โดยแอพนี้มีฟีเจอร์ต่าง ๆ และมีคุณลักษณะมากมายที่ครอบคลุมความต้องการต่อการตัดต่อเสียงของคุณ เช่น การแก้ไข ตัด ปรับ เปลี่ยนเอฟเฟกต์ (Effects) และมีตัวลดสัญญาณรบกวน 

นอกจากนี้ Voice Pro ยังได้รับการออกแบบให้มีอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน ทำให้กระบวนการตัดต่อเสียงของคุณเสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีคุณสมบัติการแปลงเสียงเป็นข้อความถึง 40 ภาษาที่แตกต่างกันและอนุญาตให้จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ได้อีกด้วย Voice Pro เป็นแอพตัดต่อเสียงบนมือถือที่ต้องเสียเงินซื้อมาใช้งาน โดยระบบ Android ราคา 400.71 บาท ส่วนระบบ ios ราคา 333.87 บาท

Audio Evolution Mobile Studio

ตัดต่อเสียงบนมือถือ

มาต่อกันที่แอพ ตัดต่อเสียงบนมือถือ ที่มีชื่อว่า Audio Evolution Mobile Studio เป็นแอพตัดต่อเสียง iPhone / Android ที่ครอบคลุมทั้งการตัดต่อเสียงขั้นพื้นฐานและขั้นสูงอย่างมืออาชีพด้วยฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมมากมายสำหรับการแก้ไขและการบันทึกแทร็กเสียงของคุณ อีกทั้งยังสามารถสร้างสรรค์ผลงานเพลงได้ด้วยเครื่องดนตรีภายนอกหรือเครื่องดนตรีเสมือนจริง เช่น กีตาร์ เปียโน และอื่น ๆ นอกจากนี้แอพนี้ยังอนุญาตให้เชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์ภายนอกมากกว่า 250 รายการได้อีกด้วย พร้อมกับการจัดระเบียบอย่างดีและมีการใช้งานที่เรียบง่าย สามารถนำเข้าและส่งออกไฟล์ในรูปแบบต่าง ๆ Audio Evolution Mobile Studio เป็นแอพตัดต่อเสียงบนมือถือที่มีเวอร์ชันฟรีบนอุปกรณ์ Android ส่วน iphone คุณอาจจะต้องเสียเงินซื้อมาใช้งานในราคา 249 บาท

Video Voice Editor & Effects

ตัดต่อเสียงบนมือถือ

สุดท้ายแอพ ตัดต่อเสียงบนมือถือ ที่มีชื่อว่า Video Voice Editor & Effects เป็นแอพ ตัดต่อเสียงวิดีโอ ที่สามารถแปลงไฟล์วิดีโอและไฟล์เสียงได้เกือบทุกชนิด พร้อมกับ วิธีการตัดต่อเสียง ที่เรียบง่ายด้วยคุณลักษณะที่สามารถทำได้มากกว่าการตัดต่อเสียงเพียงอย่างเดียว เพราะแอพนี้ยังสามารถแปลงเสียงและแก้ไขรูปแบบวิดีโอได้อีกด้วย เนื่องจากมันมีเครื่องเล่นวิดีโอสากลในตัวที่สามารถเล่นเสียงและวิดีโอรูปแบบได้หลายรูปแบบ อีกทั้งยังสามารถสร้างเสียงเรียกเข้าจากเพลงของคุณได้ ซึ่งแอพนี้มีเครื่องมือสำหรับใช้ตัดต่อเสียงที่สามารถใช้งานได้ฟรีมากมาย

สนับสนุนโดย

PAPERINDUSTRYMAG.COM

sagame

Categories
เสียง

แนะนำโปรแกรม ตัดต่อเสียง สำหรับมือใหม่นายเองก็หัดเองได้

ตัดต่อเสียง

สำหรับมือใหม่หลายๆคน ที่กำลังจะเริ่มเรียนรู้การตัดต่อวิดีโอ หรือพรีเซ้นเทชั่นอื่นๆที่เป็นทั้งในรูปแบบของแอนิเมชั่นที่ต้องมีเสียง องค์ประกอบหลักหนึ่งที่มันขาดไปไม่ได้ก็คือเรื่องเสียง ซึ่งนอกจากโปรแกรมตัดต่อวิดีโอมันจะค่อนข้างสำคัญสำหรับงานพวกนี้แล้ว เรื่องของการ ตัดต่อเสียง หรือโปรแกรมที่ใช้ตัดต่อเรื่องเสียงเองก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งเรื่องของเสียง ซาวด์หรือเอฟเฟคมันเป็นสิ่งที่ต้องมีบทบาทที่เคล้าอารมณ์ทั้งคนดูหรือคนฟังวิดีโอหรือเสียงนั้นให้คล้อยตามในสิ่งที่เราอยากจะสื่อออกมา ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำโปรแกรม ตัดต่อเสียง ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่จะเริ่มศึกษาหรือหัดตัดต่อเรื่องเสียงกัน

5 โปรแกรม ตัดต่อเสียง ใช้งานง่าย สะดวกสบายเหมือนมืออาชีพ

ตัดต่อเสียง
  1. และสำหรับโปรแกรม ตัดต่อเสียง อันแรกที่จะมาแนะนำนั่นคือ ASHAMPOO MUSIC STUDIO อันนี้เป็นโปรแกรมมัลติมีเดียที่รวมรวบความสามารถด้านต่างๆเกี่ยวกับ การตัดต่อเสียง หรือด้านต่างๆของการทำเพลงไว้ในโปแกรมเดียว เพราะความสามารถหลักของโปรแกรมนี้ก็จะมีอยู่ 3 อย่างหลักๆนั่นคือ โปรแกรมตัดต่อเสียง , โปรแกรมบันทึกเสียง และมี โปรแกรมแต่งเพลง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการไรท์แผ่น และแปลงไฟล์เสียงได้อีกด้วย มองว่าเป็นโปรแกรมที่ค่อนข้างครบครันมากจริงๆ ซึ่งสำหรับผู้ใช้งานเองก็ถือว่าเป็นโปรแกรมที่คอนข้างตอบโจทย์เป็นอย่างดี เหมาะทั้งคนที่เพิ่งริเริ่มใช้งานไปจนถึงระดับมืออาชีพ

นอกจากนี้จุดเด่นของโปรแกรม ตัดต่อเสียง ASHAMPOO MUSIC STUDIO นี้ก็คือการใช้งานที่ค่อนข้างยืดหยุ่นได้เยอะ และยังรองรับไฟล์เสียงหลายรูปแบบหลายสกุล เช่น ไฟล์ FLAC ,ไฟล์ MP3 , ไฟล์ OGG , ไฟล์ WAV หรือไฟล์ WMA ก็รองรับได้ ซึ่งมันดีมากเพราะว่าทำให้เราสามารถใช้งานได้หลายอุปกรณ์ แถมยังมีฟีเจอร์อีกหลายอย่างทั้ง มิกซ์เพลง (MIX SONGS) ด้วยเครื่องมือ TEMPO ANALYSIS และ SMART SYNCHRONIZATION ,จัดระเบียบเพลง หรือจะสั่งพิมพ์ปกบนแผ่นซีดียังทำได้เลย

ตัดต่อเสียง
  1. ขอต่อด้วยโปแกรมที่สอง ADOBE AUDITION โปรแกรมตัดต่อเสียงที่อยู่ในตระกูล ADOBE ซึ่งโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่นำมาใช้งานในด้านของเสียงโดยเฉพาะเลย พวกการอัดเสียง การตัดต่อเสียง การแก้ไชเสียง เพิ่มเสียงหนัก เสียงเบา หรือเอฟฟคต่างๆ นอกจากนี้แล้วความพิเศษของโปรแกรมตัวนี้ที่สามารถทำได้มากกว่า แอพตัดต่อเสียง ทั่วไปก็คือคุณสามารภนำไฟล์รูปหรือวิดีโอมาประกอบการมิกซ์เสียงได้ด้วย

ยังไม่เพียงเท่านี้ ADOBE AUDITION ยังมีหน้าตาของโปรแกรมที่ดึงดูดน่าใช้งาน หรือหากคุณอยากจะทราบว่าเสียงหรือเพลงที่คุณทำเป็นยังไงคุณก็สามารถเอามาเล่นก่อนในโปรแกรม และแก้หรือมิกซ์ได้อย่างเรียลไทม์ นอกจากแก้ได้อย่างเรียลไทม์คุณยังสามารถที่จะเปิดไฟล์เสียงขึ้นมาทำงานได้มากกว่า ย้ำว่ามากกว่า สองไฟล์พร้อมกันก็สามารถทำได้ ถือได้ว่าเป็นโปรแกรมที่สะดวกและเป็นโปรแกรม ตัดต่อเสียง ที่ทำได้ค่อนข้างละเอียดเลย นอกจากนี้เราจะขอแนะนำให้ ดาวน์โหลดโปรแกรมตัดต่อเสียง อันนี้เป็นของแท้เพราะว่าเวลาเขามีอัพเดท คุณก็จะสามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆได้ก่อนใครเลย 

ตัดต่อเสียง
  1. อันที่สามโปรแกรม OCENAUDIO ซึ่งไม่ใช่เป็นแค่โปรแกรมตัดต่อเสียงขนาดเล็ก แต่เป็น โปรแกรมตัดต่อเสียงที่ดีที่สุด อีกโปรแกรมนึงเลยก็ว่าได้เพราะเขาจะนำเอาความง่ายและความสะดวกสบายมาใช้ในการ ตัดคลิปเสียง หรือตัดต่อเพลงโดยการใส่ ซาวด์เอฟเฟค หรือลูกเล่นต่างๆ ลงไปในเพลงให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งสามารถใช้โปรแกรม ตัดต่อเสียง WINDOWS 10 หรือจะเป็นระบบปฏิบัติการแบบ MAC OS เองก็ใช้ได้ และมันเหมาะอย่างมากสำหรับมือใหม่ที่ชอบเรื่องการตัดต่อ หรือจะเป็นบุคคลทั่วไปก็ได้ที่ใช้งานเป็นครั้งคราว

อย่างที่บอกว่าเจ้าโปรแกรม ตัดต่อเสียง OCENAUDIO เป็นโปรแกรมขนาดเล็กแต่ประสิทธิภาพนี่ดีเยี่ยมไม่เล็กเลย เพราะการรองรับการปรับแต่งเสียงหรือการทำเพลงต่างๆนั้นค่อนข้างครบทุกความต้องการ ทั้งเรื่องของการปรับเสียงสูง เสียงต่ำ ภายในเนื้อเพลง หรือภายในช่วงที่คุณต้องได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ก็ยังสามารถเปิดไฟล์เพลงพร้อมกันได้มากถึง 2 ไฟล์ สามารถฟังแล้วปรับเปลี่ยนเปรียบเทียบได้อย่างสบายๆเลย นอกจากนี้ยังมีช่องการปรับแต่งเสียงแบบอีควอไลเซอร์ให้เลือกมากถึง 31 ช่อง แถมยังสามารถ ตัดต่อเสียงในคอม แล้วส่งออกหรือ EXPORT ไฟล์เสียงทำเป็นเสียงเรียกเข้าสำหรับไอโฟนได้ด้วย 

ตัดต่อเสียง
  1. โปรแกรมที่สี่โปแกรม ตัดต่อเสียงฟรี บนโลกออนไลน์นั่นก็คือ SOUNDATION ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้บนเว็บไซต์หรือบราวเซอร์ทำให้ทำงานหรือใช้งานได้อย่างง่ายได้และใช้ร่วมกับคนอื่นได้ สำหรับ SOUNDATION ใช้เป็นการสร้างผลงานแบบมืออาชีพ อาทิ การสร้างหรือบันทึกเพลงของตัวเองไว้ เพราะใช้งานได้ง่าย โดยมีเครื่องมืออย่างกับเป็น DAW ไม่ว่าจะเป็น อัดเพลง REMIX ใส่ เอฟฟคเสียง การจำลองเพลงบรรเลง การทำงานก็ทำแบบมัลติแทรค เครื่องมือสร้างแบบ MIDI ทำให้คุณสร้างสรรค์ผลลงานเพลงออกมาได้อย่างเต็มที่และสมบูรณ์แบบ

สำหรับโปรแกรม SOUNDATION เป็นโปแกรมที่มือเครื่องมือขั้นสูงค่อนข้างเยอะอาจจะต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์ในการ ตัดต่อเสียง หรือเพลงมาบ้างแล้ว สำหรับคนที่กำลังหัดหรือเริ่มลองทำอาจจะยังไม่แนะนำ นอกจากนี้เขายังมีทั้งเวอร์ชั่นฟรีและเวอร์ชั่นเสียเงิน ซึ่งก็จะได้ความแตกต่างหรือข้อจำกัดของคุณภาพไฟล์เสียง และฟีเจอร์ต่างๆอาจจะไม่ครบครัน

ตัดต่อเสียง
  1. โปรแกรมที่ห้าโปรแกรมสุดท้ายที่เราจะแนะนำทุกคนในวันนี้ นั่นคือโปรแกรม AUDACITY โปรแกรม ตัดต่อเสียง ที่เป็นเหมือนสุดยอดของความครบครันและครอบคลุมเรื่องของเสียง ซึ่งระบบของตัวนี้จะมีตั้งแต่ระบบบันทึกเสียงผ่านไมโครโฟน แล้วสามารถที่จะเอาไฟล์เสียงที่อัดนั้นมาตัดต่อได้ทันที นอกจากนี้ยังรองรับไฟล์เสียงหลายสกุล รวมถึงการบันทึกงานหรือบันทึกข้อมูลก็สามารถบันทึกได้หลายแบบ มี เอฟเฟคเสียง หรือซาวด์ประกอบที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ การจัดการแทร็ค และลูกเล่นที่น่าสนใจคือการใส่ปกอัลบั้มให้กับไฟล์ได้

สำหรับโปรแกรม ตัดต่อเสียง นี้เป็นโปรแกรมที่ไม่ได้เหมาะแค่คนที่เป็นมืออาชีพเท่านั้นแต่ยังเหมาะกับคนที่เป็นมือใหม่อีกด้วย เพราะด้วยความที่เป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่าย มีเครื่องมือที่ครบครัน และรองรับสกุลไฟล์หลายอย่างอีกด้วย

เลือกโปรแกรมตัดต่อตามความถนัด

ตัดต่อเสียง

สำหรับโปรแกรม ตัดต่อเสียง นั้น ที่นำมาแนะนำนั้นก็มีทั้งยากและง่ายแตกต่างกันไปตามฟีเจอร์หรือความซับซ้อนของโปรแกรม ซึ่งหลายๆคนก็ควรที่จะเลือกให้เหมาะสมกับงานหรือ วิธีการตัดต่อเสียง ที่เราต้องการหรือวางแผนที่จะทำ หรือทุกคนก็ควรที่จะฝึกฝนการตัดต่อจากเว็บหรือโปรแกรมง่ายๆให้คล่องและถนัดก่อนแล้วค่อยไปหาเว็บที่ซับซ้อนก็ไม่ว่ากัน เพราะความพยายามไม่เคยหักหลังใครอยู่แล้ว ยิ่งฝึกฝนก็ยิ่งเก่ง

 

ภาพจาก:

https://bit.ly/3emNxms
https://www.ashampoo.com/en-us/music-studio-2020
https://www.adobe.com/be_en/products/audition/free-sound-effects.html
https://www.maketecheasier.com/ocenaudio-easiest-audio-editing-tool/
https://soundation.com/station/2018/12/13/unveiling-the-new-soundation-studio/
https://www.audacityteam.org/
https://bit.ly/3qdQjQG 

Categories
เสียง

วิธีใส่เพลงในวิดีโอง่าย ๆ ด้วยโปรแกรม VideoStudio

คุณรู้หรือไม่? ว่ากระบวนการตัดต่อวิดีโอที่สมบูรณ์แบบนั้น สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือวิธีใส่เพลงประกอบวิดีโอ เนื่องจากเสียงเพลงประกอบวิดีโอนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่มีส่วนช่วยกระตุ้นความรู้สึกและอารมณ์ของผู้ชม ซึ่งเสียงเพลงถือเป็นตัวกำหนดมู้ดและโทนของวิดีโอได้ เช่น วิดีโอโฆษณาที่เรามักจะได้ยินเสียงคำบรรยาย เสียงเพลงประกอบ และเสียงซาวด์เอฟเฟกต์ที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกได้อย่างชัดเจนทั้งตื่นเต้น สนุก เศร้า ดีใจ ซึ่งคุณสามารถเพิ่มเสียงเพลงประกอบในวิดีโอได้ง่าย ๆ ด้วยโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ เช่น VideoStudio และเมื่อคุณมีเพลงที่ต้องการเพิ่มแล้ว บทความนี้จะพาคุณไปพบกับวิธีง่าย ๆ สำหรับการเพิ่มเพลงลงในวิดีโอของคุณด้วยโปรแกรม VideoStudio 

4 Step วิธีใส่เพลงในวิดีโอง่าย ๆ ด้วยโปรแกรม VideoStudio

วิธีใส่เพลงในวิดีโอง่าย ๆ ด้วยโปรแกรม VideoStudio

สำหรับวิธีใส่เพลงในวิดีโอของคุณด้วยโปรแกรมตัดต่อวิดีโออย่างโปรแกรม VideoStudio นั้นมีขั้นตอนง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำตามกันได้ โดยเราได้รวบรวมขั้นตอนการใส่เพลงในวิดีโอของคุณด้วยโปรแกรม VideoStudio มาได้ทั้งหมด 4 Step ดังนี้

1.เริ่มเปิดโปรแกรม VideoStudio แล้วทำการเพิ่มวิดีโอ หรือรูปภาพ ที่คุณต้องการใส่เพลงลงในไทม์ไลน์ของโปรแกรม แล้วให้ลากและวางไฟล์เพลงที่ต้องการใส่ในวิดีโอลงในคลังของคุณ

2.VideoStudio ยังมีฟังก์ชั่นเสนอเพลงที่ไม่มีค่าลิขสิทธิ์ให้แก่คุณ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้เพลงเหล่านั้นได้อย่างอิสระทั้งสำหรับการใช้งานส่วนตัวและเชิงพาณิชย์ โดยคุณสามารถเข้าถึงไลบรารีนี้ด้วยการไปที่บนแถบเครื่องมือไทม์ไลน์ แล้วคลิกปุ่มเพลงอัตโนมัติ คุณก็จะสามารถค้นหาและสำรวจเพลงและแทร็กต่าง ๆ ได้ โดยใช้รายการดรอปดาวน์ กด Play เพื่อดูตัวอย่างเพลงที่เลือก นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าถึงไลบรารีเพลงในแผงไลบรารีภายใต้เพลง ScoreFitter ซึ่งคุณสามารถนำเข้าซาวด์แทร็กจากไฟล์เนื้อหาของคุณเองเข้าไปยังห้องสมุดแล้วเพิ่มลงในไทม์ไลน์เองได้ ซึ่งแทร็ก ScoreFitter ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ตรงกับความยาวของโปรเจ็กต์วิดีโอของคุณโดยอัตโนมัติ หากต้องการเปิดใช้งานสิ่งนี้ ให้คลิกที่ ” Auto Trim ” ก่อนที่จะเพิ่มแทร็กในไทม์ไลน์ของคุณ

3.เมื่อคุณเลือกแทร็กเสียงที่ชอบจากเมนูไลบรารีเพลงอัตโนมัติได้แล้ว ให้เลือก “Add to Timeline” เพลงจะถูกเพิ่มลงในแทร็กเพลง และคุณสามารถลากเพลงไปยังตำแหน่งใหม่ในไทม์ไลน์และตัดแต่งได้โดยการลากที่จับด้านท้าย ซึ่งจะทำให้ระยะเวลาของเพลงถูกปรับตามความยาวของคลิปวิดีโอโดยอัตโนมัติ

4.การเพิ่มเอฟเฟกต์จาง หรือการเฟดเพลงพื้นหลังทั้งจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของโปรเจ็กต์วิดีโอ โดยให้คลิกปุ่มเฟดเอาต์ในพื้นที่เพลงอัตโนมัติ หรือคุณสามารถเข้าถึงการควบคุมนี้ได้ด้วยการคลิกขวาที่แทร็กเสียงในไทม์ไลน์ของคุณแล้วเลือก “fade in” และ “fade out” เมื่อคุณทำการเพิ่มเอฟเฟกต์และแก้ไขวิดีโอแล้ว คุณสามารถเลือกที่จะแชร์วิดีโอทางออนไลน์ผ่าน YouTube, Facebook, Instagram, Twitter และเว็บไซต์โซเชียลมีเดียอื่น ๆ หรือคุณสามารถบันทึกวิดีโอลงในคอมพิวเตอร์ของคุณได้

บทสรุป

วิธีใส่เพลงในวิดีโอง่าย ๆ ด้วยโปรแกรม VideoStudio

จากข้อมูลข้างต้นคุณจะเห็นได้ว่าเสียงนั้นมีความสำคัญต่อการกระตุ้นความรู้สึกและอารมณ์ของผู้ที่ได้รับชมวิดีโอ และวิธีใส่เพลงประกอบในวิดีโอด้วยโปรแกรม VideoStudio ทั้ง 4 Step นี้เป็นขั้นตอนที่ทำตามได้ง่ายมาก ๆ แถมยังช่วยให้โปรเจ็กต์วิดีโอของคุณนั้นออกมาอย่างสมบูรณ์แบบและรวดเร็ว เนื่องจาก VideoStudio เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ใช้งานได้ง่าย แม้แต่ผู้ใช้งานครั้งแรกก็สามารถสร้างวิดีโอได้เหมือนกับผู้ที่มีประสบการณ์ตัดต่อวีดีโอมานานแล้ว โดยโปรแกรมนี้มีเครื่องมือสำหรับตัดต่อวิดีโออย่างครบถ้วนทั้งการจับภาพจากกล้องเข้าคอมพิวเตอร์ การตัดต่อวีดีโอ ใส่ Effect ต่าง ๆ แทรกดนตรีประกอบ แทรกคำบรรยาย ไปจนถึงบันทึกวิดีโอที่ตัดต่อลง VCD DVD หรือแม้กระทั่งเผยแพร่ผลงานทางเว็บไซต์

สนับสนุนโดย: HILO-88.COM ไฮโลไทย เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ เดิมพันขั้นต่ำ 10 บาท ถอนได้ไม่อั้น

Categories
เสียง

วิธีการบันทึกและตัดต่อเสียงของคุณด้วยแอป GarageBand บน iPhone หรือ iPad

เมื่อก่อนหากคุณต้องการตัดต่อเสียง หรือสร้างเพลง ทำดนตรี คุณจะต้องจ่ายเงินให้กับโปรแกรมตัดต่อเสียงมากมาย แต่โชคดีตอนนี้คุณสามารถเข้าถึงโปรแกรมตัดต่อเสียงได้ง่าย ๆ โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพียงแค่คุณมีโทรศัพท์ iPhone หรือ iPad คุณก็จะสามารถเข้าใช้งานแอป GarageBand เพื่อตัดต่อเสียง หรือสร้างดนตรีและทำเพลงด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ 

แอป GarageBand เป็นแอปพลิเคชันสำหรับ iOS ที่คุณสมบัติที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็น การเล่นเสียงเพลง บันทึกเสียง และแชร์เพลง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเข้าถึงเครื่องมือเหล่านี้ได้ อีกทั้งยังมีเครื่องดนตรีหลากหลายชนิดจากทั่วโลกให้เลือกใช้ และยังมีคลังเสียงที่มีอะไรใหม่ ๆ เพิ่มมาตลอดเวลา คุณสามารถค้นหาและดาวน์โหลดเสียง ลูป และการแซมเพิล (sampling) ฟรีจากคอลเลกชันขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยโปรดิวเซอร์ชื่อดังระดับโลก ซึ่งบทความนี้เราจะพูดถึงวิธีการบันทึกและตัดต่อเสียงของคุณด้วยแอป GarageBand ฉบับง่าย ๆ 

วิธีการบันทึกและตัดต่อเสียงด้วยแอป GarageBand บน iPhone หรือ iPad

วิธีการบันทึกและตัดต่อเสียงของคุณด้วยแอป GarageBand บน iPhone หรือ iPad

คุณสามารถถึงเข้าแอป GarageBand เพื่อบันทึกและตัดต่อเสียงของคุณได้ฟรี เพียงแค่มีโทรศัพท์ iPhone หรือ iPad ก็สามารถสร้างแทร็กเสียงของคุณและตัดต่อเสียงบน GarageBand ได้แล้ว แต่ก่อนการตัดต่อเสียงเสียงให้เปิดแอปบน iPhone ของคุณแล้วเลือก “สร้างโปรเจกต์ใหม่” จากนั้นให้ทำตามขั้นตอนดังนี้

1. การบันทึกเสียงของคุณ

เปิดแอป GarageBand ที่ด้านบนของหน้าจอจะมี 2 ตัวเลือกได้แก่ Live Loops หรือ Tracks ให้เลือก Tracks จากนั้นเลื่อนค้นหาเครื่องบันทึกเสียงแล้วเลือกเสียง ก่อนที่จะเริ่มบันทึก ให้คลิกที่เครื่องหมายบวกที่มุมบนขวาของหน้าจอ ที่นี่คุณสามารถเปลี่ยนจำนวนแถบที่คุณกำลังบันทึกได้ หากคุณไม่มีเพลงประกอบ ให้กด 8 แถบในหน้าจอถัดไป แล้วเลือกอัตโนมัติ และเสร็จสิ้นที่มุมบนขวา ‎สังเกตเครื่องเมตรอนอมควรเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีขาว เริ่มบันทึกเพียงกดปุ่มบันทึกวงกลมสีแดงที่ด้านบนของหน้าจอ และคลิกที่ปุ่มเดียวกันเพื่อหยุดการบันทึก หากต้องการย้ายจากหน้าจอการบันทึกเสียงไปยังหน้าจอแก้ไข ให้คลิกไอคอนที่ 3 จากด้านซ้ายบนแถบเครื่องมือ หน้าจอแก้ไขก็จะปรากฏขึ้น

2. การแก้ไขเสียงของคุณ

หากคุณต้องการเพิ่มแทร็กใหม่ในแอป GarageBand ให้ดึงส่วนที่มีไมโครโฟนทางด้านซ้ายของหน้าจอแล้วคลิกปิดเสียง ไอคอนปิดเสียงควรเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน และแทร็กเสียงของคุณควรเปลี่ยนเป็นสีขาว จากนั้นคลิกที่สี่เหลี่ยม 3 อันที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ เลื่อนไปที่ตัวเลือก Audio Recorder การบันทึกใหม่นั้นควรปรากฏบนแทร็กใหม่เมื่อคุณกลับไปที่หน้าจอแก้ไข

ตัดแต่งเสียง : หากต้องการตัดแต่งคลิปเสียง ให้กดที่ส่วนท้ายของคลิปแล้วลากจุดสิ้นสุดไปยังตำแหน่งที่ต้องการ

วิธีการบันทึกและตัดต่อเสียงของคุณด้วยแอป GarageBand บน iPhone หรือ iPad

เปลี่ยนระดับเสียง/เฟดเข้า/เฟดออก : หากต้องการเปลี่ยนระดับเสียงของแทร็ก ให้แตะไอคอนเครื่องดนตรีที่ด้านซ้ายของหน้าจอ จากนั้นคลิกที่การทำงานอัตโนมัติและหน้าจอจะมืดลงโดยมีเส้นสีเทาอยู่เหนือแทร็กแต่ละเส้น คุณสามารถย้ายบรรทัดนั้นขึ้นลงเพื่อเปลี่ยนระดับเสียงของแทร็กทั้งหมด หรือสร้างคีย์เฟรม (จุดเปลี่ยน) บนบรรทัดเพื่อเปลี่ยนระดับเสียงของส่วนเฉพาะได้ ในการสร้าง Fade In คุณจะต้องสร้างที่จุดเริ่มต้นของคลิปเสียงที่มีระดับเสียงต่ำและจุดอื่นที่คุณต้องการให้จางหายที่ระดับเสียงที่คุณต้องการ ส่วนการสร้าง Fade Out คุณจะต้องทำสิ่งที่ตรงกันข้าม Fade In จากนั้นภาพหน้าจอจะแสดงคลิปที่มีทั้ง Fade In และ Fade Out เมื่อรับระดับเสียงเสร็จแล้ว ให้กด “เสร็จสิ้น” ที่มุมบนขวาของหน้าจอ

3. ส่งออกโปรเจกต์เสียงของคุณ

คุณสามารถส่งออกโปรเจกต์เสียงในแอป GarageBand ได้โดยคลิกที่ปุ่มด้านบนซ้ายของหน้าจอซึ่งเป็นรูปสามเหลี่ยมคว่ำ จากนั้นกดเพลงของฉัน ให้แตะเลือกที่มุมบนขวาของหน้าจอ จากนั้นเลือกโปรเจกต์เสียงที่ต้องการส่งออก ที่ด้านล่างของหน้าจอ คุณจะมี 5 ตัวเลือก เลือกตัวเลือกแชร์ทางด้านซ้ายสุดของไอคอนเหล่านั้น คุณสามารถแชร์โปรเจกต์เสียงเป็นเพลงริงโทน แล้วเลือกคุณภาพสูง เมื่อคุณกด Share เสร็จแล้ว คุณจะมีตัวเลือกที่พร้อมใช้งานทั้งหมดเพื่อแชร์ไฟล์ที่ส่งออก ให้เลือก Open In จากนั้นเลือก Save to Files และคลิก Save ที่มุมบนขวาของหน้าจอ 

ไฮโลไทยได้เงินจริง

Categories
เสียง

แนะนำโปรแกรมตัดต่อเสียงออนไลน์ฟรี สะดวกสบายใช้งานง่าย

แนะนำโปรแกรมตัดต่อเสียงออนไลน์ฟรี สะดวกสบายใช้งานง่าย

สิ่งสำคัญของการตัดต่อคลิปวิดีโอ นอกจากโปรแกรมตัดต่อวิดีโอแล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เช่นเดียวกันคือโปรแกรมตัดต่อเสียง เนื่องจากเสียงถือว่ามีบทบาทที่สำคัญสำหรับวิดีโอ เพราะเสียงทำให้ผู้ชมสามารถเข้าใจสิ่งที่วิดีโอต้องการจะสื่อและดึงดูดความสนใจได้ดี ซึ่งคลิปวิดีโอคอนเทนต์ที่ดีที่สุดควรมีเสียงที่มีคุณภาพไม่ว่าจะเป็นเสียงพูด เสียงซาวด์ประกอบ และเสียงเอฟเฟกต์ นั่นหมายความว่าเสียงเป็นองค์ประกอบหลักของวิดีโอที่สำคัญพอ ๆ กันกับเนื้อหาและแสงสีในวิดีโอ ถึงแม้ปัจจุบันนี้จะมีโปรแกรมตัดต่อเสียงมากมาย แต่บางครั้งคุณอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับโปรแกรมเหล่านั้น โชคดีที่ในบทความนี้เราจะแนะนำโปรแกรมตัดต่อเสียงออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณสามารถตัดต่อเสียงเองได้ง่าย ๆ ที่สำคัญฟรีอีกด้วย

แนะนำ 4 โปรแกรมตัดต่อเสียงออนไลน์ฟรี

นี่คือโปรแกรมตัดต่อเสียงออนไลน์ ที่ให้คุณสามารถใช้งานได้ฟรี โดยมีเครื่องมือสำหรับงานตัดต่อเสียงมากมาย และใช้งานง่าย เข้าถึงสะดวก ซึ่งเราได้รวบรวมมาทั้งหมด 6 โปรแกรม ดังนี้

1.TwistedWave Audio Editor

แนะนำโปรแกรมตัดต่อเสียงออนไลน์ฟรี สะดวกสบายใช้งานง่าย

เริ่มต้นที่โปรแกรมตัดต่อเสียงออนไลน์ฟรีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมันมีความสามารถเทียบเท่ากับคุณสมบัติของโปรแกรมตัดต่อเสียง iOS และ MAC ที่ต้องชำระเงิน เช่น การทำให้เสียงเป็นมาตรฐาน การขยายเสียง ความเร็ว ระดับเสียง การบันทึกเสียงแบบไม่บีบอัด และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ TwistedWave รุ่นฟรีรองรับคลิปเสียงเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น นำเข้าไฟล์ของคุณในรูปแบบโมโน และสามารถส่งออกไปยัง Google Drive และ SoundCloud ของคุณได้

2.Audio Trimmer

แนะนำโปรแกรมตัดต่อเสียงออนไลน์ฟรี สะดวกสบายใช้งานง่าย

มาต่อกันที่ Audio Trimmer โปรแกรมตัดต่อเสียงออนไลน์ฟรีที่ทำให้การตัดแต่งเสียงของคุณง่ายขึ้น เพียงแค่ต้องเลือกไฟล์ที่คุณต้องการแก้ไข และเลือกปุ่มอัปโหลดเพื่อเริ่มแก้ไข ซึ่งโปรแกรมนี้มีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย เช่น แก้ไขแทร็ก Mp3 ได้อย่างง่ายดาย รองรับอุปกรณ์พกพา สามารถทำเสียงริงโทนออนไลน์ได้ง่าย ๆ ที่สำคัญคุณไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนเพื่อตัดต่อไฟล์เสียง 

3.Bear Audio Tool

แนะนำโปรแกรมตัดต่อเสียงออนไลน์ฟรี สะดวกสบายใช้งานง่าย

Bear Audio Tool โปรแกรมตัดต่อเสียงออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุด ด้วยความที่ใช้ HTML 5 จึงช่วยให้คุณแก้ไขไฟล์เสียงได้โดยที่ไม่ต้องอัปโหลดไปยังเซิร์ฟเวอร์ โปรแกรมนี้มีตัวเลือกการส่งออกที่หลากหลาย ทำให้มันได้รับความนิยมมากขึ้น พร้อมด้วยเอฟเฟกต์เสียงและคลังเพลงที่ปลอดลิขสิทธิ์ และมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย เช่น ตัวเลือกการนำเข้าออฟไลน์และออนไลน์, ไลบรารีเสียงในตัว, ฟังก์ชันเลิกทำและทำซ้ำ, ตัดแต่งและจัดเรียงคลิปใหม่, ระดับเสียง ปิดเสียง หรือจาง และเอฟเฟกต์เสียงอื่น ๆ อีกมากมาย

4.Apowersoft Free Online Audio Editor

แนะนำโปรแกรมตัดต่อเสียงออนไลน์ฟรี สะดวกสบายใช้งานง่าย

ตอนนี้คุณสามารถตัดต่อเสียงได้ง่ายและสะดวกด้วยโปรแกรมตัดต่อเสียงออนไลน์ Apowersoft Free Online Audio Editor เพียงแค่คุณติดตั้งตัวเรียกใช้งานก็สามารถเข้าถึงโปรแกรมนี้ได้แค่คลิกเดียว และโปรแกรมนี้มีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย เช่น สามารถแก้ไขเสียงได้ไม่จำกัดจำนวนไฟล์ มีเครื่องมือสำหรับแก้ไขเสียงฟรี ที่สำคัญรับประกันความปลอดภัยสำหรับไฟล์เสียงในคอมพิวเตอร์ของคุณ

บทสรุป

จากข้อมูลข้างต้น โปรแกรมตัดต่อเสียงออนไลน์ฟรีที่เราได้นำมาแนะนำกันในวันนี้ ถือว่าเป็นโปรแกรมตัดต่อเสียงที่จะช่วยให้ไฟล์เสียงของคุณมีคุณภาพที่ดีขึ้น ทำให้การสร้างวิดีโอของคุณมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น ซึ่งคุณคงทราบแล้วว่าเสียงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยในวิดีโอของคุณสื่อสารกับผู้ชมได้ดีที่สุด และการที่วิดีโอของคุณใช้เสียงที่มีคุณภาพไม่ว่าจะเป็นเสียงพูด เสียงซาวด์ประกอบ และเสียงเอฟเฟกต์ก็จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ 

Categories
เสียง

เคล็ดลับทำเพลงยังไง? ให้ดังติดตลาดจากนักร้องและนักแต่งเพลงมืออาชีพ

เคล็ดลับทำเพลงยังไง? ให้ดังติดตลาดจากนักร้องและนักแต่งเพลงมืออาชีพ

ปัจจุบันการเผยแพร่เพลงสามารถทำได้ง่าย ๆ เนื่องจากตอนนี้มีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่หลากหลายมากขึ้น เช่น YouTube joox spotify เป็นต้น ทำให้ผู้ฟังสามารถเข้าถึงผลงานเพลงของคุณได้ง่ายขึ้น แต่คุณจะทำเพลงให้ติดตลาดหรือติดชาร์ตได้อย่างไร? นี่แหละคือสิ่งสำคัญที่จะเป็นตัวชี้วัดได้ว่าเพลงของคุณนั้นดีขนาดไหน ดังนั้นในบทความนี้เราจะพูดถึงเคล็ดลับทำเพลงยังไง? ให้ดังติดตลาดจากคำแนะนำของ Chris Hill นักร้องและนักแต่งเพลงมืออาชีพ ซึ่งนี่คือเคล็ดลับยอดนิยมของเขาในการทำให้เพลงได้รับความสนใจในตลาด

เคล็ดลับทำเพลงของ Chris Hill นักร้องและนักแต่งเพลงมืออาชีพ

กระบวนการทำเพลงนั้นค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งแต่ละแนวเพลงจะมีทำนองดนตรีที่ค่อนข้างแตกต่างกันมาก ซึ่งมันแล้วแต่คนชอบ เราจึงไม่สามารถวัดได้ว่าแนวเพลงไหนได้รับความสนใจมากที่สุด สำหรับนักร้องและนักแต่งเพลงที่กำลังมองหาเคล็ดลับการทำเพลงให้ติดตลาดหรือติดชาร์ต เราขอแนะนำเคล็ดลับดี ๆ จาก Chris Hill นักร้องและนักแต่งเพลงมืออาชีพที่มากด้วยประสบการณ์ที่ดีและประสบความสำเร็จมากที่สุดในการหางาน และข้อมูลข้างล่างนี่คือเคล็ดลับการทำเพลงของเขา

1. Soundcloud

เคล็ดลับทำเพลงยังไง? ให้ดังติดตลาดจากนักร้องและนักแต่งเพลงมืออาชีพ

สำหรับนักทำเพลง เครื่องมืออันล้ำค่าที่ทำให้ผู้คนสามารถเข้าไปฟังเพลงของคุณได้ง่าย ๆ คือ Soundcloud แอปพลิเคชันยอดนิยมที่เปิดโอกาสให้คุณมีผู้เข้าชมจำนวนมาก ที่สำคัญแอปนี้ใช้งานได้ฟรี และใช้งานง่ายเหมาะสำหรับผู้อัปโหลดเพลงและผู้ฟังเพลง ซึ่งคุณสามารถหาแรงบันดาลใจให้กับงานของคุณเองได้ที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้น Soundcloud มีวิธีนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบกลุ่มหรืออัลบั้ม ที่ไม่เหมือนแพลตฟอร์มอื่น ๆ นั่นคือแนะนำเพลงใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยรวบรวมแนวเพลงจากประวัติการฟังเพลงของผู้ใช้และสามารถฟังเพลงแบบแบบออฟไลน์ได้

2. Youtube

เคล็ดลับทำเพลงยังไง? ให้ดังติดตลาดจากนักร้องและนักแต่งเพลงมืออาชีพ

ตอนนี้ YouTube ขึ้นแท่น Social Media Platform ที่คนไทยใช้งานมากที่สุด คนทำเพลงส่วนใหญ่ใช้แพลตฟอร์ม YouTube เพื่อเผยแพร่ผลงานเพลงของตัวเอง เพราะมันเป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่มีผู้ชมจำนวนมากจากทั่วโลก ทำให้ผู้ฟังได้เห็นถึงการแสดงของนักแสดงทำให้ผู้ชมรู้จักคุณมากในฐานะนักแสดง นอกจากนี้ยังมีเครื่องมืออื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถใช้ดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ 

3. ส่งเสริมการขายบนเว็บไซต์และสื่ออื่น ๆ

เคล็ดลับทำเพลงยังไง? ให้ดังติดตลาดจากนักร้องและนักแต่งเพลงมืออาชีพ

นอกจากยอดวิวแล้ว สิ่งหนึ่งที่นักทำเพลงอยากได้หลังการเผยแพร่เพลงเงินนั่นคือรายได้จากการขายเพลง ซึ่งการสร้างเว็บไซต์ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่มีประโยชน์ในการอ้างถึงบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ทั้งหมดของคุณ การมีเว็บไซต์จะทำให้ผลงานของคุณได้รับการเชื่อถือในระดับมืออาชีพเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของเคล็ดลับการทำเพลงยังไง? ให้ดังติดตลาดจาก Chris Hill ซึ่งทั้ง 3 แพลตฟอร์มนี้ต่างมีประโยชน์ช่วยตีตลาดหรือดันติดชาร์ตของคุณให้คนทั่วโลกได้รู้จัก แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เพลงดังได้นั่นก็เนื้อเพลงและทำนองดนตรี อีกทั้งคุณต้องรู้จักเลือกแพลตฟอร์มที่จะช่วยส่งเสริมเพลงของคุณและต้องเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ชมเข้าถึงได้ง่ายอย่างเช่น Soundcloud, Youtube และเว็บไซต์

Categories
เสียง

แนะนำ 4 โปรแกรมตัดต่อเสียงฟรีที่ดีที่สุด สำหรับการสร้างพอดคาสต์ บทสัมภาษณ์ และการบรรยายที่ยอดเยี่ยม

คนที่ทำงานเกี่ยวกับการสร้างพอดคาสต์ บทสัมภาษณ์ และการบรรยายในรายการที่สามารถรับชมและรับฟังได้ทางอินเทอร์เน็ต ต้องทราบดีว่าโปรแกรมตัดต่อเสียงถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้รายการของคุณมีผลลัพธ์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ในยุคนี้มีโปรแกรมตัดต่อเสียงดี ๆ มากมายทั้งแบบฟรี และแบบเสียเงิน แต่หากคุณเป็นมือใหม่ที่กำลังมองหาโปรแกรมตัดต่อเสียงเจ๋ง ๆ สักตัวที่ไม่ว่าไม่ว่าคุณจะแก้ไขเนื้อหาประเภทใด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างพอดแคสต์หรือคำบรรยายทั่วไปก็สามารถใช้งานได้ง่ายดายและยอดเยี่ยม บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 4 โปรแกรมตัดต่อเสียงฟรีที่ดีที่สุด สำหรับการสร้างพอดคาสต์ บทสัมภาษณ์ และการบรรยาย เพื่อช่วยให้คุณตัดต่อเสียงได้ง่าย ๆ เพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพและควบคุมเดซิเบลได้ ทำให้เสียงโปรเจ็กต์ของคุณสมบูรณ์แบบ

4 โปรแกรมตัดต่อเสียงฟรีที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างพอดคาสต์

แนะนำ 4 โปรแกรมตัดต่อเสียงฟรีที่ดีที่สุด สำหรับการสร้างพอดคาสต์ บทสัมภาษณ์ และการบรรยายที่ยอดเยี่ยม

ใครที่กำลังมองหาโปรแกรมตัดต่อเสียงฟรี สำหรับการสร้างพอดคาสต์ บทสัมภาษณ์ และการบรรยายต้องไม่พลาดกับ 4 โปรแกรมตัดต่อเสียงฟรีที่ดีที่สุดที่เราได้รวบรวมมาในวันนี้ ซึ่งเสียงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างพอดคาสต์ เนื่องจากพ็อดคาสท์เป็นเทปบันทึกเสียงหรือวิดีโอต้นฉบับ แต่ในบางครั้งก็อาจเป็นเทปบันทึกรายการโทรทัศน์หรือรายการวิทยุที่ออกอากาศจริง ดังนั้นการตัดต่อเสียงจึงเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ และการใช้โปรแกรมตัดต่อเสียงดี ๆ จะยิ่งช่วยให้รายการของคุณแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม

1.Audacity

โปรแกรมฟรีที่สามารถปรับแต่งเสียง บันทึกเสียง เล่นเสียง และผสมเสียงหรือทำ effect ด้วยฟิลเตอร์ต่าง ๆ ได้ เช่น การเปลี่ยน การลดเสียงรบกวน หรือแม้แต่ “การตัดความเงียบ” นอกจากนี้ Audacity ยังเป็นเวิร์กสเตชันเสียงดิจิทัล (DAW) ที่ใช้งานได้ง่าย ๆ 

2.Davinci Resolve

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีที่สามารถตัดต่อเสียงได้ ใช้แก้ไขสีของวิดีโอ ตัดต่อวิดีโอแบบง่าย ๆ ไปจนถึงการตัดต่อภาพยนต์ที่ต้องใช้เทคนิค Effect ระดับสูง สำหรับ “การแก้ไขเสียง” มันค่อนข้างจะครอบคลุมทุกสิ่งที่คุณสามารถทำได้สำหรับไฟล์เสียงของคุณภายในโปรแกรม

แนะนำ 4 โปรแกรมตัดต่อเสียงฟรีที่ดีที่สุด สำหรับการสร้างพอดคาสต์ บทสัมภาษณ์ และการบรรยายที่ยอดเยี่ยม

3.Ocenaudio

โปรแกรมทำเพลงฟรีที่รวบรวมครบทุกความต้องการของคุณ ช่วยให้คุณสามารถตัดไฟล์เสียงได้ภายในไม่กี่วินาที เพราะโปรแกรมใช้งานง่ายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเสียงสูง เสียงต่ำ ภายในเนื้อเพลง หรือภายในช่วงเรียวไทม์ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถใช้เอฟเฟกต์พื้นฐานบางอย่างได้ เช่น เฟดอิน อีควอไลเซอร์กราฟิก ตลอดจนความสามารถในการย้อนกลับหรือเพิ่มความเร็วไฟล์ของคุณ นอกจากนี้โปรแกรมนี้ยังสนับสนุนการเปิดไฟล์เพลงขึ้นมาพร้อมกันได้ถึง 2 ไฟล์

4.WavePad Sound Editor

โปรแกรมแก้ไขไฟล์เสียง หรือ โปรแกรมแต่งเสียงฟรีที่มีคุณสมบัติหลากหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อเสียง (Cut Copy Paste) ได้ง่าย ๆ หรือการเพิ่มลูกเล่นเสียง เอฟเฟค (Sound Effect) ต่าง ๆ หรือความสามารถในการตัดเสียงรบกวน (Noise) ทำเสียงให้เงียบ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้โปรแกรมยังรองรับไฟล์ที่มีอัตรา Samepl Rate ที่ระหว่าง 6 – 96 kHz ทั้งระบบเสตอริโอ หรือโมโน และตั้งแต่แบบ 8 บิต จนถึง 32 บิต อีกทั้งยังมีลูกเล่นเสียงต่าง ๆ มากมาย ทำให้คุณประหยัดเวลา และสะดวกในการใช้งาน

สิ่งที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ฟังพ็อดคาสท์

แนะนำ 4 โปรแกรมตัดต่อเสียงฟรีที่ดีที่สุด สำหรับการสร้างพอดคาสต์ บทสัมภาษณ์ และการบรรยายที่ยอดเยี่ยม

นอกจากโปรแกรมตัดต่อเสียงจะมีความสำคัญสำหรับการสร้างพ็อดคาสท์แล้ว การเลือกใช้เพลงก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ผู้ผลิตพ็อดคาสท์ไม่ควรมองข้าง โดยปกติแล้วคุณสามารถเริ่มต้นสร้างพอดแคสต์ได้ง่าย ๆ เพียงแค่มีไมโครโฟนพื้นฐาน, ซอฟต์แวร์ตัดต่อเสียง และหัวข้อ ซึ่งสิ่งที่สร้างความประทับใจให้ผู้ฟังมี 2 อย่าง คือเนื้อหาของพ็อดคาสท์ที่ดีและการเลือกเพลงอินโทรที่เข้ากับเนื้อหา และต้องถูกลิขสิทธิ์ด้วยนะคะ

Categories
เสียง

เคล็ดลับง่าย ๆ ของโปรแกรม Premiere Pro สำหรับการเพิ่มเอฟเฟกต์เสียงในโปรเจ็กต์ที่ซับซ้อนของคุณ

เคล็ดลับง่าย ๆ ของโปรแกรม Premiere Pro สำหรับการเพิ่มเอฟเฟกต์เสียงในโปรเจ็กต์ที่ซับซ้อนของคุณ

โปรแกรม Premiere Pro เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมตัดต่อวิดีโอและเสียงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากโปรแกรมนี้มีความสามารถที่หลากหลายเกี่ยวกับการใช้งานด้านวิดีโอตั้งแต่ความสามารถในการตกแต่งและตัดต่อภาพ-เสียง ไปจนถึงใส่ Effect และ Transition ให้กับภาพและเสียง จึงไม่แปลกที่ Premiere Pro จะได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักตัดต่อวิดีโอหรือภาพยนตร์

นักตัดต่อวิดีโอหรือภาพยนตร์หลายคนคงทราบกันดีว่าเสียงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่ทำให้วิดีโอของคุณดูมีความเป็นมืออาชีพ และสมบูรณ์แบบ ทำให้ผู้ชมเข้าใจถึงอารมณ์ของเนื้อหาได้ง่าย และดึงดูดความสนใจได้ดีอีกด้วย เสียงในวิดีโอมีหลายแบบทั้งเสียงพูด เสียงซาวด์ประกอบ และเสียงเอฟเฟกต์ ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปพบกับเคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับการเพิ่มเอฟเฟกต์เสียงให้กับโปรเจ็กต์ที่ซับซ้อนด้วยโปรแกรม Premiere Pro

เคล็ดลับการเพิ่มเอฟเฟกต์เสียงในวิดีโอด้วยโปรแกรม Premiere Pro

เคล็ดลับง่าย ๆ ของโปรแกรม Premiere Pro สำหรับการเพิ่มเอฟเฟกต์เสียงในโปรเจ็กต์ที่ซับซ้อนของคุณ

โปรแกรม Premiere Pro เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Adobe นอกจากจะมีความสามารถในการตัดต่อวิดีโอแล้ว ยังสามารถเพิ่มเสียงต่าง ๆ ในวิดีไอได้อีกด้วย สำหรับเคล็ดลับการเพิ่มเอฟเฟกต์เสียง ให้กับโปรเจ็กต์ที่ซับซ้อนด้วยโปรแกรม Premiere Pro นั้นไม่ได้ยุ่งยากมากนัก ซึ่งก่อนที่จะเพิ่มเอฟเฟกต์เสียงให้คุณอ่านสคริปต์ พูดคุยกับผู้กำกับ และสร้างคิวชีต เพื่อระบุว่าช่วงไหนบ้างที่ควรเพิ่มเอฟเฟกต์เสียง สำหรับเคล็ดลับการเพิ่มเอฟเฟกต์เสียงนั้นมีดังนี้

1.ให้คุณทำการลากและวางเอฟเฟกต์เสียงของคุณลงในแผง Essential Sound เพื่ออัปโหลด

2.แท็กแต่ละเอฟเฟกต์เสียงบนแผง Essential Sound ช่วยให้คุณติดป้ายกำกับเอฟเฟกต์เสียงแต่ละรายการตามแท็กได้ง่าย ๆ เช่น เสียงบรรยากาศ, เสียงในห้อง, ฝีเท้า หรือเสียงบทสนทนา

3.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอฟเฟกต์เสียงทั้งหมดนั้นได้ปรับการตั้งค่าให้ค่อย ๆ จางลงแล้วหรือยัง แม้ว่าการจางนั้นจะเป็นเพียงแค่เสี้ยววินาทีก็ตาม เพราะหากคุณตัดต่อเสียงเอฟเฟกต์อย่างกะทันหันอาจทำให้เสียงเหล่านั้นดูผิดธรรมชาติ

4.ปรับระดับเสียง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอฟเฟกต์เสียงทั้งหมดเข้ากันกับวิดีโอ และเข้ากันกับบทสนทนาและแทร็กเพลง

บทสรุป

อย่างไรก็ตาม โปรแกรม Premiere Pro มีเครื่องมือการใช้งานที่หลากหลายและค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับผู้ใช้งานครั้งแรกที่ยังไม่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโปรแกรม แต่หากคุณกำลังมองหาโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ใช้ง่ายง่ายกว่า Premiere Pro เราขอแนะนำโปรแกรม Premiere Rush โปรแกรมที่จะมอบเครื่องมือที่ดีที่สุดให้คุณสร้างวิดีโอได้ทุกที่ทุกเวลา และเพิ่มเอฟเฟกต์เสียง เพลง บทสนทนา และทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อทำให้วิดีโอของคุณดูมีชีวิตชีวามากขึ้น โดยตัวโปรแกรมนี้มีทั้งใน Desktop บน PC และ App บน Smartphone โดยจะทำงานด้วยกันผ่าน Adobe Cloud