นักออกแบบกราฟิกมืออาชีพคงทราบกันดีว่า การจะนำฟอนต์ตัวอักษรมาใช้งานได้นั้น นักออกแบบต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าของฟอนต์นั้น ๆ แต่ก็ยังมีนักออกแบบหลายคนนิยม ออกแบบตัวอักษร ภาษาไทย-อังกฤษไว้ใช้เอง หรือบางคนก็สร้างฟอนต์ตัวอักษร สำหรับขายให้กับผู้ที่ต้องการใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งการสร้างฟอนต์นั้นเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาค่อนข้างและน่าเบื่อหน่าย แต่ต่อไปนี้การออกแบบตัวอักษร ของคุณจะกลายเป็นเรื่องง่าย ด้วยวิธีการ ออกแบบตัวอักษรภาษาไทย-อังกฤษ ง่าย ๆ ด้วยตัวเองในบทความนี้ ซึ่งจะมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง มาติดตามไปพร้อม ๆ กันเลย 

โปรแกรม ออกแบบตัวอักษร ภาษาไทย-อังกฤษ ไว้ใช้เอง 

การออกแบบตัวอักษร ภาษาไทย-อังกฤษ ไว้ใช้เองนั้น เป็นเรื่องทางเทคนิคที่นักออกแบบลงมือทำใน โปรแกรมออกแบบตัวอักษร ซึ่งในปัจจุบันมีโปรแกรมฟรีสำหรับการ ออกแบบตัวอักษรศิลปะ มากมาย ยกตัวอย่างเช่น

• PAINTFONT : โปรแกรมเปลี่ยนลายมือของคุณให้เป็นแบบฟอนต์อักษร
• FONTSTRUCT : โปรแกรมสร้างแบบอักษรของคุณเองโดยใช้รูปทรงเรขาคณิต
• METAFLOP : โปรแกรมปรับแต่งฟอนต์พื้นฐานโดยการปรับชุดพารามิเตอร์อย่างง่าย

สำหรับวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูวิธีการ ออกแบบตัวอักษรสวย ๆ ไม่ซ้ำใคร ด้วยเครื่องมือฟรีที่มีให้เลือกใช้งานมากมาย อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะเริ่มใช้เครื่องมือฟรีเหล่านี้ คุณต้องร่างแบบตัวอักษรภาษาไทย-อังกฤษของตัวเองก่อน และนี่คือ 6 วิธีการออกแบบตัวอักษร ภาษาไทย-อังกฤษ ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

6 วิธีการออกแบบตัวอักษรภาษาไทย-อังกฤษ ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

1. การร่างแบบตัวอักษรภาษาไทย-อังกฤษ
   ขั้นตอนแรกที่คุณต้องทำให้การออกแบบตัวอักษร ก็คือการ ออกแบบตัวอักษรไทย สวย ๆ กับ ออกแบบตัวอักษรอังกฤษสวย ๆ ด้วยการร่างแบบตัวอักษรของคุณ โดยต้องคำนึงถึง จุดประสงค์ของการสร้างฟอนต์ ขนาดตัวอักษรขนาดใหญ่หรือเล็ก และแบบอักษรพื้นฐานเป็น SERIF หรือ SANS SERIF 
2. เริ่มออกแบบบนกระดาษ
   การ ออกแบบตัวอักษรอังกฤษ และไทย บนกระดาษนั้นง่ายและรวดเร็วกว่าการออกแบบในคอมพิวเตอร์ ซึ่งในการเริ่มออกแบบนั้น คุณทำเครื่องหมายเส้นฐานและเส้นความสูงที่สำคัญต่าง ๆ และที่สำคัญอย่าลืมดูแบบตัวอักษรอื่น ๆ เพื่อดูว่ารูปร่างซ้ำกันหรือไม่?

3. เลือกและติดตั้ง โปรแกรมออกแบบตัวอักษร
   จากข้างต้นแสดงให้เห็นว่าในปัจจุบันมีโปรแกรมออกแบบตัวอักษรฟรีให้คุณได้เลือกใช้งานมากมาย ซึ่งโปรแกรมเหล่านั้นจะช่วยทำให้การสร้างฟอนต์ตัวอักษรของคุณเป็นเรื่องที่สะดวกสบาย และใช้งานง่าย ด้วยฟังก์ชันที่ครบครันมากมาย เช่น FONTSTRUCT, PAINTFONT และ METAFLOP เป็นต้น 
4. เริ่มสร้างฟอนต์ตัวอักษรของคุณ
   เมื่อคุณติดตั้งโปรแกรมออกแบบตัวอักษรแล้ว คุณก็สามารถเริ่มสร้างฟอนต์ตัวอักษรได้ง่าย ๆ โดยการอัปโหลดรูปภาพอัปโหลดรูปภาพตัวอักษรบนกระดาษของคุณ หรืออัปโหลดไฟล์ฟอนต์เพื่อแก้ไขก็ได้ อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนนี้อาจต้องใช้เวลานานในการเริ่มต้น เพราะคุณต้องไปตศึกษาวิธีการใช้โปรแกรมออกแบบตัวอักษรนั้น แต่เพื่อให้การ ออกแบบตัวอักษรอังกฤษ ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น นี่คือคำศัพท์บางส่วนที่คุณจำเป็นต้องรู้

• GLYPH : ตัวอักษรแต่ละตัว
• BASELINE : เส้นที่มองไม่เห็นด้านล่างแบบตัวอักษร
• ASCENDER LINE : เส้นที่มองไม่เห็นที่จุดขึ้นเริ่มต้น
• ASCENDER HEIGHT : ความสูงของเส้นขีดแนวตั้งขึ้นบนตัวอักษร เช่น “H” และ “K”
• DESCENDER DEPTH : ความลึกของเส้นขีดแนวตั้งลงบนตัวอักษร เช่น “P” และ “Y” 
• STEM : เส้นแนวตั้งหลักของตัวอักษรเช่น “F” และ “T”
• BOWL : ส่วนปิดของตัวอักษรเช่น “B”, “D” และ “O”
• BÉZIER CURVE : สูตรพาราเมตริกที่ใช้สร้างแบบจำลองเส้นโค้ง 

5. การปรับแต่งฟอนต์ตัวอักษร
   สิ่งสำคัญต่อไป คือ คุณต้องพิจารณาว่าฟอนต์ตัวอักษรโดยรวมมีลักษณะอย่างไร? แล้วทำการปรับแต่งฟอนต์ตามความต้องการ เพื่อทำให้ฟอนต์ตัวอักษรของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด 
6. อัปโหลดแบบฟอนต์ตัวอักษรของคุณไปยัง WORDPRESS
   เมื่อคุณสร้างแบบฟอนต์ตัวอักษรของตัวเองได้แล้ว หากคุณต้องการใช้ฟอนต์ใน WORDPRESS ของคุณเอง คุณสามารถอัพโหลดได้หลากหลายวิธี เช่น วิธีการใช้ปลั๊กอินฟอนต์อย่าง USE ANY FONT หนึ่งในปลั๊กอินที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในการอัพโหลดฟอนต์ลง WORDPRESS

สนับสนุนโดย

PAPERINDUSTRYMAG.COM

เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเยอะที่สุด เว็บพนันออนไลน์ ที่ดีที่สุด

สำหรับนัก ออกแบบกราฟิกมือใหม่ การรู้จักใช้เคล็ดลับการ ออกแบบกราฟิก นั้นจะช่วยทำให้กระบวนการออกแบบของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น และทำให้ผลงานกราฟิกของคุณดูสวยงาม สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้อย่างยอดเยี่ยม โดยทั่วไปเคล็ดลับการออกแบบกราฟิกนั้น ส่วนใหญ่มักจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์การออกแบบกราฟิกของนักออกแบบมืออาชีพ ซึ่งในวันนี้เราก็ได้รวบรวม 5 เคล็ดลับออกแบบกราฟิกระดับมืออาชีพมาแนะนำทุกคน เพื่อใช้เป็นแนวทางการออกแบบกราฟิกของคุณให้ออกมาอย่างราบรื่นและสวยงามดูมีความเป็นมืออาชีพสูง

5 เคล็ดลับ ออกแบบกราฟิก ระดับมืออาชีพที่คุณไม่ควรพลาด 

นักออกแบบมืออาชีพหลายคนคงทราบกันดีว่าในแง่มุมของสายงานการออกแบบกราฟิก นั้นค่อนข้างมีความซับซ้อน ซึ่งนักออกแบบทุกคนจะต้องเรียนรู้หลักการการออกแบบ กราฟิกดีไซน์ หลายอย่าง รวมถึงเคล็ดลับการ สอนออกแบบกราฟิก ต่าง ๆ เพื่อทำให้การสร้างสรรค์ผลงานของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ดูสวยงาม และมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น สำหรับใครยังไม่เคยมีประสบการณ์ออกแบบกราฟิก หรือไม่รู้ว่าจะเริ่ม ออกแบบกราฟิกด้วยตัวเอง ยังไงดี? ต้องไม่พลาดกับ 5 เคล็ดลับออกแบบกราฟิกระดับมืออาชีพ 

1. จำกัดการใช้แบบตัวอักษรในผลงานกราฟิก

เมื่อคุณออกแบบกราฟิก สำหรับสื่อสารข้อมูลที่เป็นตัวอักษร สิ่งแรกที่คุณควรคำนึง ก็คือ การเลือกใช้แบบตัวอักษร ซึ่งในการสร้างสรรค์ผลงาน กราฟิก การเลือกแบบอักษรสำหรับหัวเรื่อง คำบรรยายและเนื้อหานั้น ควรใช้แบบอักษรที่อ่านง่ายและไม่เยอะจนเกินไป เพราะดวงตาของคนเรานั้นยากที่จะสแกนแบบอักษรหลายแบบ ดังนั้น ให้เลือกใช้ชุดแบบอักษรธรรมดา ๆ ไว้ก่อน เช่น ฟอนต์จากตระกูล AILERON ซึ่งเป็นอักษรซานเซอริฟแบบเรขาคณิตที่มีความสวยงาม เรียบง่าย และทันสมัย 

2. การจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ

สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งในการออกแบบกราฟิก ที่นักออกแบบทุกคนไม่ควรพลาด ก็คือ การจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ โดยการเว้นวรรคตัวอักษรเพื่อเติมช่องว่าง การจัดแนวข้อความ หรือย่อคำที่ใช้พื้นที่มากเกินไป แต่ระวังอย่างเว้นระยะห่างระหว่างตัวอักษรจนอ่านไม่ออก หรือเพิ่มขนาดให้ตัวอักษรแยกจากกันมากเกินไป เพราะมันอาจทำให้ผลงาน กราฟิกสวย ๆ กลายเป็นผลงานกราฟิกที่ไม่มีความสมดุลและอ่านยาก 

3. การเลือกใช้จานสีหรือชุดสี

การ ออกแบบกราฟิกสำหรับมือใหม่ สิ่งที่คุณไม่ควรมองข้ามเลย ก็คือ การเลือกใช้สี เนื่องจากจานสีหรือชุดสีมีความสำคัญพอ ๆ กับข้อมูลที่คุณต้องการจะถ่ายทอดผ่านผลงานออกแบบกราฟิก ของคุณ ซึ่งเมื่อก่อนการเลือกจับคู่สีให้สมบูรณ์แบบนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป แต่โชคดีที่ทุกวันนี้มีโปรแกรมออกแบบกราฟิกที่มีตัวเลือกธีมสีให้คุณได้เลือกใช้งานมากมาย เช่น โปรแกรม VISME เพียงอัปโหลดผลงานกราฟิกของคุณ โปรแกรมก็จะนำเสนอชุดสีใหม่ให้คุณเลือกใช้งานมากมาย 

4. การเลือกใช้องค์ประกอบการออกแบบให้สอดคล้องกัน

ในการออกแบบกราฟิกเบื้องต้น เมื่อคุณเพิ่มองค์ประกอบให้กับผลงาน ออกแบบกราฟิก ของคุณ คุณควรเลือกองค์ประกอบที่มีความสอดคล้องกัน ตั้งแต่ไอคอนไปจนถึงวิดเจ็ตข้อมูล ภาพประกอบ แอนิเมชั่น รวมไปจนถึงรูปแบบตัวอักษร ยกตัวอย่างเช่น การใช้ไอคอนแบบเส้นทั้งหมด แทนการเลือกใช้ไอคอนที่มีการผสมผสานระหว่างเส้นและ 3 มิติ

5. ประหยัดเวลาด้วยการเลือกใช้ TEMPLATE ออนไลน์ในเว็บออกแบบกราฟิก

เว็บออกแบบกราฟิก เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้การสร้างสรรค์ผลงานออกแบบกราฟิก ของคุณรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีเว็บแจก TEMPLATE ออนไลน์สวย ๆ ฟรีมากมาย ยกตัวอย่างเช่น STARTBOOTSTRAP เว็บไซต์แจก TEMPLATE ฟรีที่อาจไม่ได้เยอะมาก แต่รับรองเลยว่ามีแต่อันสวย ๆ แน่นอน และ THEMEFISHER เว็บไซต์แจกTEMPLATE ที่มีให้เลือกมากถึง 50 รูปแบบ เหมาะกับนักออกแบบมือใหม่ที่ต้องการประหยัดเวลาในการออกแบบ

เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเยอะที่สุด เว็บพนันออนไลน์ ที่ดีที่สุด

การรีทัชรูปภาพ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้รูปภาพของคุณสวยงามสมบูรณ์แบบ โดยทั่วไปช่างภาพ หรือนักตัดต่อมืออาชีพจะรีทัชรูปภาพในโปรแกรมแต่งรูป อย่างเช่น โปรแกรมLIGHTROOM ซึ่งการ รีทัชรูป LIGHTROOM จะช่วยทำให้คุณได้รูปภาพพอร์ตเทรตที่สมบูรณ์แบบ LIGHTROOM มีเครื่องมือสำหรับแต่งรูปภาพแบบครอบคลุมขั้นพื้นฐาน ทำให้คุณสามารถรีทัชรูปภาพในโปรแกรมนี้ได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งจัดระเบียบรูปภาพในไลบรารีของคุณอีกด้วย สำหรับช่างภาพมือใหม่ขั้นตอนการรีทัชรูป LIGHTROOMให้ได้ภาพพอร์ตเทรตที่สมบูรณ์แบบนั้น เป็นเรื่องง่ายที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ด้วย 4 วิธีที่เราได้รวบรวมไว้ในบทความนี้ ซึ่งจะมีวิธีไหนบ้าง มาติดตามไปพร้อม ๆ กันเลย 

รีทัชรูป LIGHTROOM ภาพบุคคลอย่างง่ายดาย

โปรแกรมLIGHTROOM ไม่เพียงแค่ใช้ในการรีทัชรูปภาพเท่านั้น เพราะนอกจากการรีทัชรูป LIGHTROOMโปรแกรมยังมีเครื่องมือขั้นพื้นฐานสำหรับปรับแต่งรูปภาพ เช่น การปรับแต่งสีภาพ  การเปิดรับแสง คอนทราสต์ เป็นต้น ซึ่งLIGHTROOM ถือเป็นหนึ่งใน โปรแกรม รีทัชรูป ที่ช่างภาพมืออาชีพหลายคนใช้สำหรับ รีทัชรูป ง่ายๆ โดยทั่วไปมีการ รีทัชรูปคน นั้นมีหลากหลายวิธี แต่ในบทความนี้การ รีทัชรูปคน โดยไม่ทำให้ให้คุณภาพของรูปภาพเสียหายนั้น ๆ สามารถทำได้ง่าย ๆ ในโปรแกรมLIGHTROOM ด้วย 4 วิธีการด้านล่างนี้ 

4 วิธีการรีทัชรูปภาพบุคคลด้วยโปรแกรม LIGHTROOM

การรีทัชรูป LIGHTROOMเพื่อกำจัดรอยสิว

เริ่มต้นด้วยการ สอนรีทัชรูป เพื่อกำจัดรอยสิว หรือรอยต่าง ๆ  บนผิวหนัง โดยการคลิกที่ไอคอนเครื่องมือ SPOT REMOVAL TOOL เพื่อเปิดใช้งาน และคลิกที่จุดที่คุณต้องการลบ หากคุณรู้สึกว่าจุดที่เลือกไม่ถูกต้อง คุณสามารถย้ายจุดที่เลือกไปยังส่วนอื่นของรูปภาพได้

การรีทัชดวงตาในรูปภาพ

คลิกที่แผง ADJUSTMENT BRUSH เพื่อสร้าง ADJUSTMENT BRUSH ใหม่ แล้วเลือก IRIS ENHANCE จากเมนูแถบเลื่อนลง จากนั้นกดแป้นพิมพ์ตัว O เพื่อดูพื้นที่ที่ทาสีบนดวงตาของนางแบบ และคุณสามารถปรับแต่งสีตาได้ตามความต้องการ

การรีทัชดึงรายละเอียดผมออกมา

คลิกเลือก ADJUSTMENT BRUSH ใหม่ และเลือก IRIS ENHANCE จากเมนูแถบเลื่อนลง จากนั้นเลือก CLARITY และทาสีทับผมของนางแบบ วิธีนี้จะช่วยขับสีมิดโทนและทำให้ผมดูโดดเด่นขึ้นเล็กน้อย 

การรีทัชทำให้ผิวเนียนละเอียด

สุดท้ายการทำให้ผิวเนียนละเอียด รูปภาพบางคนมีผิวที่ดีอยู่แล้ว ขั้นตอนนี้อาจจะไม่จำเป็นเลย เลือกแปรง SOFTEN SKIN เพื่อลงรายละเอียดผิว ซึ่งแปรงนี้จะลดความคมชัดลงเหลือ -100 คุณอาจจะต้องดึงกลับขึ้นไปที่ -50 หรือน้อยกว่า เพื่อทำให้รูปภาพเป็นธรรมชาติโดยไม่สูญเสียรายละเอียด 

อย่างไรก็ตาม การแก้ไขที่เร็วและง่ายสุด ๆ เพื่อปรับแต่งรูปภาพบุคคลโดยตรงภายในLIGHTROOM สามารถทำได้อย่างรวดเร็วด้วยการปรับค่าตัวเลื่อนทั้งหมดได้ตามความต้องการส่วนตัวของคุณ แต่พยายามทำให้อย่าปรับจนทำให้ภาพของคุณสูญเสียความเป็นธรรมชาติจนเกินไป

ไฮโลไทย  อันดับ1 เล่นได้ตลอด 24 ชม. ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ เล่นง่าย ได้เงินจริง

คุณรู้หรือไม่? คุณสามารถออกแบบกราฟิกบน IPAD ของคุณได้ง่าย ๆ เพียงดาวน์โหลด PHOTOSHOP FOR IPAD แอปพลิเคชันแก้ไขและสร้างสรรค์ผลงานกราฟิกของ ADOBE ซึ่งแอปนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 และได้รับการพัฒนาและอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ในปัจจุบันแอปPHOTOSHOP FOR IPADมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับโปแกรมPHOTOSHOP บน PC หรือ MACBOOK ซึ่งภายในแอป PHOTOSHOP บน IPAD อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์สำหรับสร้างสรรค์ผลงานออกแบบกราฟิกระดับมืออาชีพมากมาย แต่จะมีอะไรบ้างนั้น สามารถติดตามได้ในบทความนี้เลย 

PHOTOSHOP FOR IPAD คืออะไร?

หากพูดถึงโปรแกรมออกแบบกราฟิกระดับมืออาชีพที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับนักออกแบบกราฟิกมือใหม่ หลายคนคงจะนึกแอปPHOTOSHOP FOR IPADแอปพลิเคชันออกแบบกราฟิก บน IPAD ยอดฮิตที่เหล่านักออกแบบกราฟิกมือใหม่หลายคนชื่นชอบ เพราะมันใช้งานง่ายและมีเครื่องมือสำหรับการออกแบบมากมาย เหมาะแก่การเรียนรู้การใช้เครื่องมือออกแบบเบื้องต้นPHOTOSHOP FOR IPADคืออะไร? ในวงการออกแบบกราฟิก PHOTOSHOPคือ แอปพลิเคชันที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานกราฟิกบน IPAD เพราะมันนำเสนอฟีเจอร์หลักที่สำคัญต่อการออกแบบกราฟิก ตั้งแต่การรีทัช การจัดองค์ประกอบ และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดPHOTOSHOP FOR IPADทำอะไร ได้บ้าง? แอปPHOTOSHOP FOR IPADสามารถทำได้ตั้งแต่การแก้ไขปรับแต่งรูปภาพ สร้างผลงานกราฟิก ทำภาพเคลื่อนไหว ไปจนถึงการวาดภาพดิจิตอลบน IPAD ด้วย APPLE PENCIL 

จุดเด่นของแอป PHOTOSHOP บน IPAD 

สร้างไฟล์งาน PSD แบบเต็มรูปแบบ และบันทึกไว้ในระบบคลาวด์ได้ : คุณสามารถออกแบบกราฟิกในแอปPHOTOSHOP FOR IPADได้ทุกที่ทุกเวลา โดยคุณสามารถรีทัชและปรับแต่งภาพบนไฟล์ PSD ได้เหมือนกับเวอร์ชันเดสท็อป แถมยังรองรับการแบ่งเลเยอร์และสามารถบันทึกผลงานไว้ในระบบคลาวด์ได้ทันที

จัดองค์ประกอบได้อย่างรวดเร็วด้วยปลายนิ้วหรือ APPLE PENCIL : คุณสามารถออกแบบกราฟิก และจัดการกับองค์ประกอบอื่น ๆ ในเลเยอร์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการสร้างมาสก์ และใช้แปรงควบคุมความแม่นยำได้ง่าย ๆ ด้วยปลายนิ้วหรือ APPLE PENCIL

การรีทัช : คุณสามารถรีทัช เพื่อลบองค์ประกอบที่ไม่ต้องการได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่คลิก โดยการแก้ไขข้อบกพร่องและรีทัชภาพด้วยแปรง จากนั้นพิกเซลจะผสานกันอย่างแนบเนียนโดยอัตโนมัติ

การสร้างเลเยอร์ : คุณสามารถสร้างเลเยอร์ได้มากเท่าที่คุณทำบนเดสก์ท็อป ทำให้การทำงานของคุณง่ายต่อการนำทางและการจัดระเบียบ

การปรับแต่งรูปภาพ : คุณสามารถรวมและปรับแต่งรูปภาพด้วยฟีเจอร์อันชาญฉลาดได้โดยอัตโนมัติ เช่น OBJECT SELECTION และ SELECT SUBJECT แยกวัตถุออกจากพื้นหลังแล้วแก้ไขโทนสี โดยไม่ทำให้สูญเสียคุณภาพของสีรูปภาพ

สำหรับใครที่สนใจดาวน์โหลด คุณสามารถทดลองใช้งานได้ฟรี 30 วัน หลังจากนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายรายเดือนประมาณ 309 บาท/เดือน โดย ADOBE PHOTOSHOP จะรองรับการใช้งานบน IPADOS ซึ่ง IPAD รุ่นที่รองรับ ได้แก่ IPAD PRO 11 นิ้ว / IPAD PRO 12.9 นิ้ว / IPAD PRO 10.5 นิ้ว / IPAD รุ่นที่ 5 / IPAD รุ่นที่ 6 / IPAD รุ่นที่ 7 / IPAD MINI 4 / IPAD MINI 5 / IPAD AIR 2 / IPAD AIR 3 / APPLE PENCIL (2ND GENERATION) / APPLE PENCIL (1ST GENERATION)

การเรียกรู้เกี่ยวกับหลักการออกแบบ ทฤษฎีการออกแบบ และกฎทั่วไปสำหรับการ ออกแบบกราฟิก ถือเป็นสิ่งที่นักออกแบบกราฟิกมืออาชีพต้องเรียนรู้ เพื่อช่วยทำให้การสร้างสรรค์ผลงานกราฟิกของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งหลักการจัดองค์ประกอบการออกแบบกราฟิก ก็เป็นอีกหนึ่งหลักการที่นักออกแบบกราฟิกทุกคนต้องรู้ ดังนั้น วันนี้เราจึงมีหลักการจัดองค์ประกอบในการออกแบบกราฟิก ที่นักออกแบบกราฟิกทุกคนควรรู้มาแนะนำ ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ติดตามได้ในบทความนี้

การจัดองค์ประกอบการ ออกแบบกราฟิก ที่นักออกแบบกราฟิกทุกคนต้องรู้

เมื่อเริ่มต้นเป็นนักออกแบบกราฟิก สิ่งแรกที่จะช่วยทำให้การ ออกแบบกราฟิก ของคุณเป็นเรื่องง่ายและเป็นเรื่องท้าทายสำหรับนักออกแบบกราฟิก ก็คือ การเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการจัดองค์ประกอบในการออกแบบกราฟิก รวมถึงการเลือกใช้โปรแกรมสำหรับสร้างสรรค์ผลงานกราฟิกของคุณ อย่างเช่น PHOTOSCAPE โปรแกรมออกแบบกราฟิกฟรีที่เหมาะกับนักออกแบบมือใหม่ ซึ่งวันนี้เราก็จะมา สอนออกแบบกราฟิก ตามหลักการจัดองค์ประกอบกราฟิก ดังนี้

1. BALANCE (ความสมดุล) : การการจัดเรียงองค์ประกอบภายในทั้งแบบสมมาตร ไม่สมมาตร หรือแนวรัศมี เพื่อสร้างความสมดุลให้แก่องค์ประกอบต่าง ๆ 
2. SCALE (มาตราส่วน) : มาตราส่วนมีผลต่อความสมดุลขององค์ประกอบ วลีที่ว่า “ใหญ่กว่าย่อมดีกว่าเสมอ” นั้นใช้ไม่ได้กับการออกแบบกราฟิกเสมอไป บางครั้งองค์ประกอบเล็ก ๆ ก็สามารถดึงดูดความสนใจได้ดีพอ ๆ กับวัตถุที่มีขนาดใหญ่
3. CONTRAST (การตัดกัน): คุณเคยเห็นโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ที่อ่านยากเพราะพิมพ์สีเทาเข้มตัดกับหมึกสีดำหรือไม่? สิ่งนี้เกิดจากการขาดคอนทราสต์หรือการจัดเรียงขององค์ประกอบที่ตรงกันข้าม ดังนั้น การใช้สีที่ตัดกันจะช่วยทำให้ผู้ชมสามารถแยกแยะสีได้ด้วยสายตา เช่น สีแดงและสีเหลือง เมื่ออยู่ไกลจากคุณก็จะสามารถแยกแยะได้กับตา 
4. PATTERN (ลวดลาย): การทำซ้ำขององค์ประกอบภาพที่เฉพาะเจาะจง แพทเทิร์นสามารถสร้างความสมดุล จัดระเบียบพื้นผิวในลักษณะที่สอดคล้องกัน หรือสร้างคอนทราสต์ให้กับผลงานของคุณได้ เช่น ลวดลายกระเบื้องปูพื้น
5. MOVEMENT AND RHYTHM (การเคลื่อนไหวและจังหวะ): การเคลื่อนไหว คือ จุดนำสายตาขององค์ประกอบจากด้านหนึ่งไปอีกด้าน ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้องค์ประกอบหรือรูปแบบการทำซ้ำหรือสลับกัน ความถี่ของบางสิ่งที่เกิดซ้ำและความเข้มของคอนทราสต์ทำให้เกิดจังหวะ
6. EMPHASIS (เน้น): การเน้น คือ คุณลักษณะที่แตกต่างเพื่อแยกองค์ประกอบออกจากองค์ประกอบหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้หลักการอื่น ๆ เช่น คอนทราสต์ การเคลื่อนไหว มาตราส่วน หรือความสมดุล
7. UNITY (ภาพรวม): การจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อให้มองเห็นถึงภาพรวม และสร้างองค์ประกอบภาพที่น่าดึงดูดใจให้เป็นหนึ่งเดียว 

การเลือกโปรแกรมออกแบบกราฟิก ที่ดีที่สุด

1. คุณรู้หรือไม่? สิ่งสำคัญอีกหนึ่งสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการออกแบบกราฟิก ก็คือการเลือกใช้งาน โปรแกรมออกแบบกราฟิก โดยทั่วไปนักออกแบบกราฟิกมืออาชีพจะมีโปรแกรมสำหรับสร้างและแก้ไขผลงานกราฟิกเฉพาะตัว ซึ่งการใช้งานแต่ละโปรแกรมก็ขึ้นอยู่กับความถนัดและความชำนาญของนักออกแบบแต่ละคน ในปัจจุบันมีโปรแกรมออกแบบกราฟิกมากมาย แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าโปรแกรมไหนดีที่สุด? ดังนั้น วันนี้เราจึงมีเทคนิคการเลือกโปรแกรมออกแบบกราฟิกที่ดีที่สุดให้เหมาะกับการออกแบบกราฟิกของคุณ ดังนี้ 
2. เลือกโปรแกรมที่มีเครื่องมือการออกแบบกราฟิกที่คุณสามารถใช้งานได้ง่าย เพราะมันจะช่วยทำให้คุณสามารถค้นหาองค์ประกอบที่ต้องการได้ง่าย และประหยัดเวลาอีกด้วย 
3. เลือกโปรแกรมที่มีเครื่องมือพื้นฐานสำหรับการออกแบบกราฟิกที่ครบครัน เช่น โปรแกรมกราฟิก PHOTOSCAPE โปรแกรมออกแบบฟรีที่มีความสามารถปรับเปลี่ยนขนาด, ปรับความสว่าง, ปรับสมดุลสีขาว, เพิ่มกรอบภาพ, ปรับโหมดโมเสก, เพิ่มข้อความ, เพิ่มรูปภาพ, วาดรูป ,การรีทัชภาพแก้ไขภาพ ,การตกแต่งภาพ, PAINT BRUSH, CLONE STAMP, EFFECT BRUSH และอื่น ๆ อีกมากมาย
4. เลือกโปรแกรมออกแบบกราฟิกที่ไม่มีลายน้ำ 
5. หากคุณเป็นนักออกแบบกราฟิกมือใหม่ แนะนำให้ลองใช้ซอฟต์แวร์ที่มีเทมเพลตและเครื่องมือเฉพาะ ซึ่งเทมเพลตเหล่านี้สามารถปรับปรุงผลงานกราฟิก และช่วยให้คุณจัดการผลงานเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น

ในปัจจุบันการผลิตสื่อโฆษณา หรือการออกแบบงานกราฟิกให้สวยงามนั้นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และทักษะส่วนตัวของนักออกแบบกราฟิก ซึ่งการเลือก โค้ดสี ให้เหมาะสมกับชิ้นงานนั้น ๆ ก็เป็นหนึ่งในทักษะที่นักออกแบบกราฟิกมืออาชีพทุกคนควรรู้ เพราะเฉดสีถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการสร้างสื่อโฆษณาต่าง ๆ และการกำหนดโค้ดสีในการออกแบบกราฟิกสร้างสรรค์ หรือการออกแบบโลโก้ ยังมีบทบาทสำคัญในการสะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์นั้น ๆ เช่น สีเขียวสื่อถึงธนาคารกริกร, สีฟ้าสื่อถึงธนาคารกรุงไทย เป็นต้น นอกจากนี้การเลือกสีให้เหมาะสมกับงานออกแบบกราฟิกยังส่งผลให้ชิ้นงานกราฟิกของคุณสวยงามและมีความโดดเด่นสามารถดึงดูดความสนใจของผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี ดังนั้น เพื่อให้การออกแบบกราฟิกของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด วันนี้เราก็มีจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจกับมาตรฐานการเลือกใช้โค้ดสีในการออกแบบกราฟิก ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ติดตามได้ในบทความนี้ 

มาตรฐานการเลือก โค้ดสี ในการออกแบบกราฟิก

อย่างที่เราทราบกันดีว่าโค้ดสี ที่ใช้ในงานออกแบบกราฟิกเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานกราฟิกให้สวยงามและมีความโดดเด่น ซึ่งโค้ดสี คือ รหัสสีที่เกิดจากการผสมกันของ 3 แม่สีคือ สีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน โดยทั่วไป โค้ดสำหรับงานกราฟิก จะมีทั้งหมด 6 ตัวอักษรและต้องขึ้นต้นด้วยเครื่องหมาย # เสมอ และต่อไปนี้คือ มาตรฐานการเลือกใช้โค้ดสีในการออกแบบกราฟิกที่นักออกแบบการฟิกทุกคนควรรู้ 

RGB : RED, GREEN, BLUE

มาตรฐานโค้ดสี โหมด RGB คือ รูปแบบการแสดงผลของสีแบบดั้งเดิมของจอภาพ CRT, หน้าจอ LCD และจอภาพพลาสม่า โดยทั่วไปโหมด RGB จะเหมาะกับงานออกแบบเว็บไซต์ รูปภาพดิจิทัล เทมเพลตบล็อก และสื่อโฆษณาออนไลน์ ซึ่ง โหมดสี RGB จะช่วยทำให้งานกราฟิกบนโลกออนไลน์ของคุณนั้นมีสีสันที่สดใสและโดดเด่น นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสื่อโฆษณาออนไลน์ควรเลือกใช้ไฟล์สี RGB

CMYK : CYAN, MAGENTA, YELLOW, KEY

มาตรฐานโค้ดสี โหมด CMYK คือ โหมดสี 4 สี ที่ใช้สำหรับสื่อโฆษณาออฟไลน์ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์บิลบอร์ด การ์ดอวยพร หรือการพิมพ์นิตยสาร ซึ่งโค้ดสีสวยๆ ที่ใช้ในผลงานออกแบบกราฟิกเหล่านี้ล้วนใช้สี CMYK ทั้งนั้น โดย  K ใน CMYK ย่อมาจาก KEY (สีดำ) เป็นหนึ่งในสีที่สำคัญที่สุดสำหรับการพิมพ์ และสีดำไม่สามารถผลิตเป็น RGB ได้ มาตรฐานสีโค้ดสี โหมด CMYK จึงเหมาะกับงานออกแบบกราฟิกนามบัตร ลวดลายเสื้อยืด และเอกสารทางการตลาดอื่น ๆ

PMS : PANTONE COLORS

มาตรฐานโค้ดสี โหมด PANTONE คือ โหมดสีที่ออกแนวสดใส เช่น โค้ดสีพาสเทล เหมาะสำหรับการออกแบบโลโก้ โดยทั่วไปสี PANTONE จะสามารถแปลงเป็น RGB หรือ CMYK ตามความต้องการได้ มันจึงช่วยประหยัดเวลาและสีที่ปรากฏออกมาก็จะเหมือนกันไม่ว่าจะในรูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ

เคล็ดลับน่ารู้เกี่ยวกับแอพ PROCREATE ที่นักวาดภาพดิจิทัลไม่ควรพลาด 

เราเชื่อว่านักวาดภาพดิจิทัลหลายคนคงเคยได้ยินหรือคุ้นเคยกับแอพ PROCREATE แอพวาดภาพดิจิทัลบน iPad ที่มีชุดเครื่องมือสำหรับการวาดภาพดิจิทัลมากมาย PROCREATE จะช่วยทำให้นักวาดภาพดิจิทัลสามารถเข้าถึงคุณสมบัติด้านการออกแบบดิจิทัลที่ยอดเยี่ยม และยังช่วยเปิดประตูให้คุณได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งการวาดภาพดิจิทัลอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่านักวาดภาพดิจิทัลจะใช้แอพ PROCREATE เกือบทุกวัน แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังไม่คุ้นเคยกับฟีเจอร์หลาย ๆ อย่าง แต่ต่อจากนี้การทำงานในแอป PROCREATE ของคุณจะง่ายดายขึ้น ด้วย 6 เคล็ดลับน่ารู้เกี่ยวกับการใช้แอพ PROCREATE ที่นักวาดภาพดิจิทัลระดับมืออาชีพแนะนำ ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันเลย 

procreate คืออะไร?

ต้องยอมรับเลยว่าทุกวันนี้ไม่มีนักนักวาดภาพดิจิทัลมืออาชีพคนไหนไม่รู้จักกับแอพ PROCREATE แต่ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้เคล็ดลับเกี่ยวกับวิธีใช้ PROCREATE คุณเคยสงสัยไหมว่าแอพ PROCREATE คืออะไร? ใช้ทำอะไรได้บ้าง? ซึ่งความจริงแล้ว PROCREATE คือ โปรแกรมวาดภาพศิลปะดิจิทัลที่เป็นหนึ่งในเครื่องหมายรับรองคุณภาพของโลกศิลปะดิจิทัล ซึ่งแอพนี้จะทำให้คุณสามารถออกแบบกราฟิกและสร้างสรรค์ผลงานศิลปะดิจิทัลได้ตามต้องการไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพสเก็ตช์ที่แสดงออกถึงอารมณ์ การวาดภาพประกอบที่สวยงาม รวมถึงการวาดภาพการ์ตูนแอนิเมชั่นที่สวยงาม และสมบูรณ์แบบ ในปัจจุบัน PROCREATE มีการอัปเดตเวอร์ชั่นเป็น PROCREATE 5.2 พร้อมปล่อยฟีเจอร์ใหม่ ๆ อีกมากมายที่อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและชุดเครื่องมือสร้างสรรค์ที่ใช้งานง่าย
6 เคล็ดลับการใช้แอพ PROCREATE ที่นักวาดภาพดิจิทัลระดับมืออาชีพแนะนำ

1. แอพ PROCREATE เปรียบเสมือนสตูดิโอสร้างสรรค์ผลงานศิลปะดิจิทัลที่ยอดเยี่ยม มาพร้อมกับคลัง PROCREATE BRUSH กว่า 200 ชิ้น ซึ่งแปรงแต่ละชิ้นสามารถปรับแต่งได้ด้วย BRUSH STUDIO และคุณสามารถดาวน์โหลดแปลงออนไลน์ได้ อีกทั้งยังสามารถสร้างแปรงแบบกำหนดเองได้ เพื่อค้นหาแปลงให้เหมาะกับสไตล์ของคุณ

2. คุณสามารถควบคุมการการใช้ PROCREATE ได้ด้วยท่าทางสัมผัส เช่น คุณสามารถตั้งค่าให้แตะสี่นิ้วเพื่อเลือกการคัดลอกและวางได้ทันที หรือใช้สามนิ้วเพื่อลบหน้าจอและล้างเลเยอร์ได้อีกด้วย ซึ่งคุณสามารถสำรวจตัวเลือกการปรับแต่งทั้งหมดได้โดยแตะไปที่ ไอคอนเครื่องมือ > PREFERENCES > GESTURE CONTROLS และสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้โดยการตั้งค่า QUICK MENU ในแผงเดียวกัน QUICK MENU
3. คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ ALPHA LOCK แก้ไขเลเยอร์ได้ แต่มีเพียงเลเยอร์พิกเซลเท่านั้นที่ใช้งานได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้จะทำให้สิ่งที่คุณกำลังวาดอยู่ภายในขอบเขตที่กำหนด ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการไล่สีหรือแรเงาให้ภาพวาดดูมีมิติ โดยถ้าคุณต้องการใช้ฟีเจอร์นี้ให้แตะไปที่ LAYER แล้วเลือก ALPHA LOCK 

4. คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ QUICKSHAPE เพื่อแก้ไขเส้นหรือรูปทรงที่ไม่สมมาตรให้สมบูรณ์แบบได้ ซึ่งคุณสามารถค้นหา QUICKSHAPE ได้โดยแตะไปที่ ไอคอนเครื่องมือ > PREFERENCES > GESTURE CONTROLS > QUICKSHAPE
5. คุณสามารถปรับแต่งสีที่คุณใช้ได้ ด้วยเครื่องมือ EYEDROPPER (ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ในการควบคุมด้วยท่าทาง) โดยคุณสามารถกดค้างไว้ที่สีเพื่อหยิบขึ้นมา หรือกด ลาก และซูมค้างไว้เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมในการลงสีใน PROCREATE ของคุณ

6. คุณสามารถรวมข้อความลงในชิ้นงานของคุณได้ด้วยการแตะเพียงไม่กี่ครั้ง โดยการไปแตะไปที่ไอคอนเครื่องมือแล้วเลือก ADD TEXT กล่องข้อความจะปรากฏขึ้นบนชิ้นงานของคุณ พร้อมกับแป้นพิมพ์ iPad ซึ่งคุณสามารถพิมพ์ข้อความที่คุณต้องการได้ ในการแก้ไขคุณสามารถแตะสองครั้งที่ข้อความเพื่อเลือกข้อความทั้งหมด แล้วแตะ Aa ที่มุมบนขวาของแป้นพิมพ์ เพื่อเปิดชุดแก้ไขข้อความ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเปลี่ยนแบบอักษรของข้อความ สไตล์ ขนาด การจัดช่องไฟ และอื่น ๆ ได้

สนับสนุนโดย: ufabet เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ คาสิโนออนไลน์อันดับ 1 ของไทย UFABALL.BET

แนะนำ 4 โปรแกรมออกแบบ POWERPOINT ออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุด

ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นคนวัยทำงาน หรือวัยเรียนก็ต่างต้องเคยออกแบบ POWERPOINT กันทั้งนั้น เนื่องจากคุณต้องโชว์ผลงานบนสไลด์ควบคู่ไปกับการนำเสนองาน ซึ่งในปัจจุบันมีโปรแกรมสำหรับการออกแบบ POWERPOINT ออนไลน์ฟรีมากมาย ทำให้คุณสามารถจัดรูปแบบสไลด์และสร้างสไลด์โชว์ที่ดูเป็นมืออาชีพได้ง่ายกว่าที่เคย ดังนั้นวันนี้เราจึงได้คัดสรรโปรแกรมออกแบบ POWERPOINT ออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุดมาไว้ในบทความนี้ถึง 4 โปรแกรมซึ่งจะมีโปรแกรมอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย 

4 โปรแกรมออกแบบ POWERPOINT ออนไลน์ฟรีที่คุณไม่ควรพลาด

หากคุณกำลังมองหาโปรแกรมออกแบบ POWERPOINT ออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุด คุณมาถูกทางแล้วค่ะ เพราะในบทความนี้เราได้คัดสรร 4 โปรแกรมออกแบบสไลด์ POWERPOINT ที่มีประโยชน์ตั้งแต่เครื่องมือการออกแบบ POWERPOINT ไปจนถึงการนำเสนอ ซึ่งโปรแกรมออกแบบ POWERPOINT ที่ดีที่สุดควรมีเทมเพลตที่ดูเป็นมืออาชีพและน่าดึงดูดความสนใจ สามารถแบ่งปันและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้จากระยะไกล และเทมเพลตสามารถปรับแต่งได้ตามที่คุณต้องการ และนี่คือ 4 โปรแกรมออกแบบ POWERPOINT ออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุด 

GOOGLE SLIDES (WEB, iOS, ANDROID) 

GOOGLE SLIDES โปรแกรมออกแบบ POWERPOINT ที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานร่วมกัน
เป็นหนึ่งในกลุ่มแอป GOOGLE WORKSPACE เป็นโปรแกรม POWERPOINT แบบดั้งเดิมที่มีวิธีทํา POWERPOINT แบบมืออาชีพ โดยคุณสามารถออกแบบสไลด์ร่วมกับผู้อื่นได้ ส่วนเครื่องมือการใช้งานก็เหมือนกับ POWERPOINT ทั่วไป เพียงแต่ GOOGLE SLIDES ทำงานในเบราว์เซอร์ของคุณได้ฟรีเท่านั้น คุณสามารถเลือกธีมสำหรับสไลด์โชว์ จากนั้นเพิ่มเค้าโครงสไลด์และแทรกข้อความ กราฟิก และการเปลี่ยนสไลด์จากเมนูได้ง่าย ๆ 

CANVA (WEB, WINDOWS, MAC, ANDROID, iOS) 

CANVA โปรแกรมออกแบบ POWERPOINT ฟรีที่ดีที่สุด คุณสามารถสร้างงานนำเสนอได้ในไม่กี่วินาที คุณสามารถโหลดเทมเพลต POWERPOINT ฟรีได้เกือบทั้งหมด รวมถึงเทมเพลตที่ออกแบบมาเพื่อการศึกษาหรือการใช้งานทางธุรกิจโดยเฉพาะ นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกใช้แอนิเมชั่นที่ตั้งไว้ล่วงหน้าบางรายการได้ เพื่อเพิ่มชีวิตชีวาให้กับงานนำเสนอของคุณ หรือเรียกดูไลบรารีของไฟล์เสียงและวิดีโอที่มีให้เพิ่มได้

LUDUS (WEB) 

LUDUS โปรแกรมออกแบบ POWERPOINT ที่ดีที่สุดสำหรับสายครีเอเตอร์ เหมาะกับคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่ต้องการสไลด์โชว์แนวผลงานศิลปะ หรือคนที่ต้องการทำ PRESENTATION สวย ๆ โดยจุดเด่นของโปรแกรมนี้อยู่ที่การผสมผสานการทำงานกับแอปบุคคลที่สามตั้งแต่ YOUTUBE และ GIPHY ไปจนถึง GOOGLE FONTS และ FIGMA ทำให้คุณสามารถดึงเนื้อหาจากแหล่งอื่น ๆ เพื่อสร้างงานนำเสนอที่น่าทึ่งได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถแก้ไขและแยกไฟล์ SVG เพื่ออัปโหลดไฟล์ฟอนต์ของคุณเอง หรือแม้แต่คัดลอกและวางไฟล์จาก SKETCH และ ADOBE ILLUSTRATOR ได้อย่างง่ายดาย แต่น่าเสียดายที่คุณสามารถทดลองใช้ LUDUS ฟรีได้ 30 วัน หลังจากนั้นคุณต้องเสียค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 512.09 บาท/เดือน 

POWTOON (WEB, iOS, ANDROID) 

POWTOON โปรแกรมออกแบบ POWERPOINT ที่ดีที่สุดสำหรับการนำเสนอสไลด์วิดีโอ ทำให้คุณสามารถออกแบบ POWERPOINT สวย ๆ ที่เป็นวิดีโอการนำเสนอที่น่าสนใจได้ง่าย ๆ โดยการวางตัวแก้ไขไว้รอบ ๆ สไลด์ให้ความรู้สึกเหมือนกับการแก้ไขงานนำเสนอทั่วไป เมื่อเสร็จ คุณก็จะได้วิดีโอนำเสนอผลงานระดับมืออาชีพ และคุณสามารถแก้ไขสไลด์ของคุณได้ทุกเมื่อ เนื้อหาบนสไลด์ POWTOON จะคำนวณเวลาโดยอัตโนมัติ โดยคุณสามารถดูได้ที่ด้านล่างขวาของตัวแก้ไขว่าเวลาที่ใช้บนสไลด์ปัจจุบันของคุณเป็นอย่างไร นอกจากนี้ POWTOON ยังมีความสามารถในการจัดแนววิดีโอ โดยคุณสามารถเลือกการวางแนวนอน (เช่นการนำเสนอปกติ) หรือเลือกใช้แนวตั้ง (สำหรับมือถือ) หรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส (สำหรับโซเชียลมีเดีย) ได้ ทำให้คุณสามารถเผยแพร่สไลด์โดยตรงไปยัง YOUTUBE, WISTIA, โฆษณา FACEBOOK และที่อื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย

 

 

 

 

เว็บบอล

แนะนำ 4 โปรแกรมออกแบบกราฟิกออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุด 

หากพูดถึงเบื้องหลังความสำเร็จของผลงานการออกแบบกราฟิกที่สวยงามและสมบูรณ์แบบ คงต้องยกให้กับเทคนิคการออกแบบของนักออกแบบและโปรแกรมออกแบบกราฟิกที่ดี ซึ่งการเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในการออกแบบจะช่วยทำให้คุณสามารถออกแบบผลงานกราฟิกออกมาได้อย่างที่สวยงามและสมบูรณ์แบบสำหรับโซเชียลมีเดีย โดยทั่วไปโปรแกรมออกแบบกราฟิกที่ยอดเยี่ยมมักจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่อย่างไรก็ตามยังมีโปรแกรมออกแบบกราฟิกฟรีที่มีเครื่องมือการออกแบบขั้นพื้นฐานให้คุณได้เลือกใช้งานมากมาย แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าโปรแกรมออกแบบกราฟิกออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุด คืออะไร? วันนี้เราจะพาคุณมาไขข้อสงสัยนี้ไปพร้อม ๆ กันด้วย 4 โปรแกรมออกแบบกราฟิกออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุด ซึ่งจะมีโปรแกรมอะไรบ้างนั้น ติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ 

โปรแกรมออกแบบกราฟิกออนไลน์ฟรีที่นักออกแบบกราฟิกไม่ควรพลาด

อย่างที่เราทราบกันดีการออกแบบกราฟิกให้ออกมาสวยงามและสมบูรณ์แบบ หนึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ โปรแกรมออกแบบกราฟิก ซึ่งในยุคดิจิทัลการออกแบบกราฟิก คือ การสร้างสรรค์เนื้อหาภาพ เพื่อสื่อสารข้อความไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยทั่วไปการออกแบบกราฟิกเบื้องต้นจะมีองค์ประกอบพื้นฐานได้แก่ เส้น รูปร่าง สี พื้นผิว ตัวอักษร พื้นที่และรูปภาพ หากโปรแกรมออกแบบกราฟิกฟรีที่มีเครื่องมือสำหรับสร้างองค์ประกอบเหล่านี้ก็ถือว่าใช้งานได้แล้ว และนี่คือ 4 โปรแกรมออกแบบกราฟิกออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุดที่นักออกแบบกราฟิกไม่ควรพลาด 

4 โปรแกรมออกแบบกราฟิกออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุด

1. CANVA

 หนึ่งในโปรแกรมออกแบบกราฟิกฟรีที่จะช่วยบทำให้การออกแบบกราฟิกของคุณเป็นเรื่องง่ายไม่ว่าคุณจะต้องการสร้าง EBOOK, อินโฟกราฟิก, นามบัตร หรือ POWERPOINT ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่นาที เนื่องจาก CANVA มีเทมเพลตระดับมืออาชีพที่สามารถปรับแต่งได้ ช่วยทำให้กระบวนการออกแบบกราฟิกของคุณง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ว่า CANVA เวอร์ชันฟรีจะเหมาะสำหรับนักออกแบบมือใหม่ แต่หากคุณต้องการเข้าถึงเครื่องมือและคุณสมบัติ ที่ซับซ้อนมากขึ้น คุณอาจต้องลงทุนในเวอร์ชันที่ต้องชำระเงิน

2. BLENDER

เป็นโปรแกรมการออกแบบที่มีชุดเครื่องมือสำหรับสร้างกราฟิก 3 มิติแบบโอเพนซอร์ซที่ช่วยทำให้นักออกแบบกราฟิกสามารถสร้างทุกอย่างได้ตั้งแต่การออกแบบกราฟิกง่าย ๆ ไปจนถึงการสร้างแอนิเมชั่น อย่างไรก็ตาม BLENDER เป็นเครื่องมือการออกแบบที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่เหมาะสำหรับนักออกแบบมือใหม่ เนื่องจากเมนูที่ความซับซ้อนและตัวเลือกการออกแบบจำนวนมาก หากคุณต้องการใช้งานโปรแกรมนี้คุณจำเป็นต้องรู้วิธีการเบื้องต้นเกี่ยวกับการออกแบบกราฟิกให้ดีเสียก่อน

3. GIMP 

หนึ่งในเครื่องมือออกแบบโอเพนซอร์ซที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมันเป็นเครื่องมือออกแบบฟรีที่สามารถรองรับไฟล์ได้ทุกรูปแบบ รีทัชดิจิทัลได้ง่าย ๆ และมีความสามารถในการสร้างงานออกแบบใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่เริ่มต้น นอกจากนี้ GIMP ยังมีอินเทอร์เฟซที่สามารถปรับแต่งได้ 

4. ADOBE SPARK 

ทางเลือกออกแบบฟรี สำหรับ ADOBE ILLUSTRATOR ที่ได้รับความนิยม ถึงแม้ว่า SPARK จะไม่ได้มีคุณสมบัติที่ครบถ้วน แต่มันก็รองรับการทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์ ADOBE อื่น ๆ และใช้งานง่าย มาพร้อมกับเทมเพลตฟรีอีกมากมาย หากคุณต้องการสร้างโปสเตอร์หรือวิดีโอ สำหรับแคมเปญโฆษณา SPARK ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี

 

 

 

 

เว็บบอล

แนะนำ ฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ อ่านง่าย โดนใจสายจดเลคเชอร์สุด ๆ

ฟอนต์ที่อ่านง่าย ไม่ลายตา ถือเป็นฟอนต์ที่ดีที่ช่วยทำให้ผู้อ่านสามารถอ่านเนื้อหานั้นได้อย่างเข้าใจ และดึงดูดสายตาผู้อ่านได้ดี ซึ่งการที่เราจะสื่อสารอะไรออกไปซักอย่างนั้นทางที่ดีควรประกอบด้วยภาพ และตัวหนังสือที่อ่านแล้วสบายตา ยิ่งจะทำให้ผู้อ่านอยากที่จะอ่านเนื้อหาในนั้นมากขึ้น วันนี้เราจึงมี ฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ แบบลายมือสุดคิ้วท์มากแนะนำทุกคน ขอบอกเลยว่าฟอนต์ไทยที่เราได้คัดเลือกมาไว้ในบทความนี้จะช่วยทำให้งานออกแบบของคุณออกแนวน่ารัก สบายตาสุด ๆ เลยล่ะคะ

ฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ อ่านง่าย ที่สายจดเลคเชอร์ไม่ควรพลาด

สำหรับใครที่กำลังมองหา ฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ คุณมาถูกทางแล้วค่าา เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ สไตล์เกาหลีทั้งแบบฟอนต์ไทย และฟอนต์ไทย-อังกฤษมาแนะนำทุกคน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจดเลคเชอร์ลายมือแนวน่ารักหวาน ๆ  คิ้วท์ ๆ สไตล์เกาหลี ไม่ว่าคุณจะโหลดเก็บไว้สำหรับทำสไลด์ จดบันทึก หรือไว้พรีเซนต์งานก็ได้  โดยฟอนต์ไทยน่ารักๆ ลายมือเหล่านี้สามารถดึงดูดสายตาของผู้อ่านได้เป็นอย่างดี และทำให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาที่อ่านได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญทำให้เกิดการจดจำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย และด้านล่างนี่ก็คือฟอนต์ภาษาไทยน่ารัก ๆ ที่นักออกแบบไม่ควรพลาด

ฟอนต์ ทาโฮโมะ (TAHOMO)

ฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ โดย CRAFTY FONT เป็นฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ ฟรีที่ผู้ออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากฟอนต์ TAHOMA และฟอนต์ DEFAULT ซึ่งลักษณะของฟอนต์จะมีความนุ้บนิ้บ แต่ก็ยังมีความเป็นทางการนิด ๆ สามารถใช้ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยมีให้เลือกใช้ 3 รูปแบบ ได้แก่ ตัวปกติ ตัวหนา และตัวเอียง เหมาะกับการใช้จดเลคเชอร์สำหรับนักเรียนและนักศึกษาสุด ๆ 

ฟอนต์ เอฟซี พาเลท (FC PALETTE)

ฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ โดย FONTCRAFT เป็น FONT ไทยน่ารัก แบบลายมือที่ละมุนสุด ๆ ซึ่งฟอนต์นี้เป็นผลงานที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง FONTCRAFT และ @IXLOGO ลักษณะของฟอนต์มีสีสันและลายเส้นที่น่ารักสดใส สามารถใช้ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยฟอนต์นี้มีให้คุณได้เลือกใช้ถึง 2 รูปแบบ 4 สไตล์ 8 ไฟล์ฟอนต์ ได้แก่ ตัวปกติ ตัวหนา ตัวเอียง และตัวมีสีสันสดใส ขอบอกเลยว่าฟอนต์สไตล์นี้โดนใจสายจดเลคเชอร์สุด ๆ เลยค่ะ

ฟอนต์ PLUEMPLUEM (ปลื้มปลื้ม)

ฟอนต์ไทยน่ารักโดย FONTCRAFT เป็นฟอนต์ภาษาไทยที่ทำจากลายมือของผู้ออกแบบเอง ซึ่งลักษณะของฟอนต์จะให้ความรู้สึกละมุนสุด ๆ โดยมุมของตัวอักษรจะเป็นแบบโค้งมนอวบ ๆ คิ้วท์ ๆ ดูสบายตา อ่านง่าย มีให้เลือกใช้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยเวอร์ชันฟรีที่สามารถนำไปใช้ในงานทั่ว ๆ ไปพิมพ์ ‘ญ’ ‘ฐ’ ตัดเชิงไม่ได้ แต่ถ้าหากอยากใช้แบบตัดเชิงได้หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ก็เสียเงินซื้อได้ในราคาชุดละ  269 บาทเท่านั้น

ฟอนต์ เอฟซี แคนดี้ (FC CANDY)

โดย FONTCRAFT ที่ได้ยินแค่ชื่อก็รู้แล้วว่าต้องน่ารักมาก แน่ ๆ เป็นฟอนต์ไทยน่ารักที่ตัวฟอนต์มีลักษณะแบบลายมืออวบ ๆ อ้วน ๆ ตัวกลมปุ๊กปิ๊ก โดยฟอนต์นี้ได้รับการต่อยอดมาจากฟอนต์เอฟซี มัฟฟิน (FC MUFFIN) ฟอนต์ลายมือแบบกลมโต ซึ่งฟอนต์เอฟซี แคนดี้มีให้คุณได้เลือกใช้ถึง 2 รูปแบบ 4 สไตล์ 8 ไฟล์ฟอนต์ ได้แก่ ตัวปกติ ตัวหนา ตัวเอียง และตัวมีสีสันสดใส เหมาะกับการใช้จดเลคเชอร์สำหรับนักเรียนและนักศึกษา เพื่อจดจำเนื้อหาบทเรียนสูด ๆ เลยค่ะ

 

 

 

เว็บบอล