Categories
กราฟิก

เคล็ดลับง่าย ๆ การใช้ Lightroom เพื่อแก้ไขภาพถ่ายทิวทัศน์ของคุณดูดึงดูดและสมจริงมากยิ่งขึ้น

ช่างภาพ และนักออกแบบกราฟิกหลายคนคงเคยใช้งาน หรือเคยได้ยินเกี่ยวกับโปรแกรม Lightroom กันมาแล้วบ้าง ซึ่งโปรแกรมนี้เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์จาก Adobe เช่นเดียวกันกับ Photoshop เป็นอีกหนึ่งบริการบนคลาวด์ที่ช่วยให้คุณสามารถแก้ไขรูปภาพได้ทุกที่ และแชร์รูปภาพของคุณได้ในทุกอุปกรณ์ Lightroom เป็นซอฟต์แวร์จัดการรูปภาพที่มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ของผู้ใช้เป็นหลัก และการแก้ไขภาพ การแต่งสีภาพ ด้วยการใช้วิธีการและเทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้ได้รูปภาพที่สวยงามตามความต้องการของคุณ

สำหรับวิธีการและเทคนิคการแก้ไขภาพถ่ายทิวทัศน์ ถือเป็นกระบวนการตัดต่อภาพถ่ายที่สำคัญ เนื่องจากในบางครั้งรูปภาพจากกล้องของคุณอาจจะมีจุดบกพร่องหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นแสงที่จ้าเกินไปหรือน้อยเกินไป สภาพแวดล้อมที่ไม่เข้ากับทิวทัศน์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นการแก้ไขภาพถ่ายทิวทัศน์ด้วย Lightroom เพื่อให้ได้ภาพถ่ายทิวทัศน์ที่สวยงาม ดึงดูดสายตาและมีความสมจริง ช่างภาพ หรือนักออกแบบกราฟิกจะต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวิธีการและเทคนิคการใช้เครื่องมือ Lightroom แก้ไขภาพถ่ายด้วย ซึ่งบทความนี้จะแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ เกี่ยวกับการแก้ไขภาพถ่ายทิวทัศน์ด้วยโปรแกรม Lightroom ส่วนจะมีเคล็ดลับอะไรบ้าง มาติดตามกันเลยค่ะ

เคล็ดลับการใช้ Lightroom แก้ไขภาพถ่ายทิวทัศน์

คุณเคยรู้สึกรำคาญเวลาเห็นรูปภาพทิวทัศน์ที่ถ่ายด้วยกล้องของคุณดูไม่โดดเด่นและไม่สมจริงหรือไม่? วันนี้ปัญหานี้จะหมดไปด้วยเคล็ดลับการแก้ไขภาพถ่ายทิวทัศน์ให้ดึงดูดสายตา และดูสมจริงมากขึ้นด้วยโปรแกรม Lightroom ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์แก้ไขภาพถ่ายที่จะช่วยยกระดับความคิดสร้างสรรค์ของคุณด้วยคุณสมบัติการแก้ไขภาพขั้นสูงทั้งเครื่องมือ ฟิลเตอร์ และการตั้งค่าที่เป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ที่ใช้งานง่ายที่สุดในโลก นอกจากนี้โปรแกรม Lightroom ยังสามารถใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็น PC, Mac และบนอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือทั้งระบบ Android และiOS ที่สำหรับคุณสามารถใช้งานโปรแกรมแบบออนไลน์ได้อีกด้วย ทำให้คุณสามารถแก้ไขภาพถ่ายได้ทุกที ส่วนเคล็ดลับการแก้ไขภาพถ่ายทิวทัศน์ด้วย Lightroom ก็มีรายละเอียด ดังนี้

การแก้ไขสมดุลแสงขาว

เราสามารถปรับสมดุลแสงขาวใน Lightroom ได้ เนื่องจากรูปภาพที่ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลจะมีสีที่แตกต่างกับสีที่สายตาเรามองเห็น ดังนั้นรูปภาพจึงต้องการรับการปรับแต่งสมดุลแสงขาว เพื่อให้ภาพดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยการปรับสมดุลแสงขาวใน Lightroom จะมีแถบเครื่องมือสองตัว นั่นคือ “Temperature” เป็นตัวกำหนดว่ารูปภาพจะดูอบอุ่นหรือเย็นเพียงใด (สีเหลืองหรือสีน้ำเงิน) และ “Tint” จะช่วยเพิ่มสีเขียวหรือสีม่วงแดง (โทนสีชมพู) เมื่อปรับทั้งสองอย่างนี้ให้เข้ากันแล้ว เราก็จะได้ภาพถ่ายทิวทัศน์ที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

การปรับความสั่นสะเทือนและความอิ่มตัวของสี

การปรับความสั่นสะเทือนและความอิ่มตัวของสีของภาพถ่ายทิวทัศน์ด้วย Lightroom จะสามารถช่วยให้รูปภาพของเราดูโดดเด่นขึ้น โดยการเพิ่มสีสันด้วยแถบเครื่องมือ Vibrance และ Saturation เราสามารถปรับระดับได้ตามความชอบขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนตัว แต่ระวังอย่าปรับแต่งความอิ่มตัวของสีมากเกินไป เพราะมันจะทำให้ภาพดูปลอม

การปรับแต่งความคมชัด

หากพบว่าภาพดูแบน ๆ ขาดมิติ เราสามารถปรับแต่งความคมชัดใน Lightroom ได้ง่าย ๆ ด้วยการการปรับคอนทราสต์ โดยไปที่แถบเครื่องมือ Clarity มันจะคล้ายๆ กับ Contrast แต่จะคุมโทนส่วนมืดและส่วนสว่างได้ดีกว่า เพียงแค่เราเลื่อนตัวเลื่อนไปทางขวาเพื่อเพิ่ม (หรือซ้ายเพื่อลด) ความคมชัดของภาพ แต่หากคุณต้องการการควบคุมมากขึ้นให้ไปที่ส่วน Tone Curve แล้วเลื่อนแถบเลื่อนหรือเส้นบนกราฟไปยังจุดต่าง ๆ เพื่อสร้างระดับคอนทราสต์ที่คุณต้องการ

การเพิ่ม-ลดแสงเฉพาะจุดในรูปภาพ

หากพบว่ารูปภาพมีจุดที่สว่างหรือมืดเกินไป เราสามารถเพิ่ม-ลดแสงเฉพาะจุดในรูปภาพได้ใน Lightroom ได้ โดยการไปที่แถบเครื่องมือ Adjustment Brush (กด K บนแป้นพิมพ์เพื่อเปิดใช้งาน) เราก็จะสามารถ ปรับ Dodge (ทำให้จางลง) และ Burn (มืดลง) เฉพาะจุดที่ต้องการปรับได้ โดยการการตั้งค่าแปรงให้หมายเลขแปรงขนนกสูงเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมชาติมากขึ้น และความทึบของแปรงให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อให้การแก้ไขค่อยเป็นค่อยไป จากนั้นปรับแปรงให้มีขนาดที่คุณต้องการ และคลิกเมาส์ลากแปลงไปยังบริเวณที่คุณต้องการเพิ่มความสว่างหรือต้องการให้มืดลงด้วยการคลิกเมาส์

Lightroom กับ Photoshop แตกต่างกันอย่างไร

ถึงแม้ว่าโปรแกรม Lightroom กับ Photoshop จะเป็นซอฟต์แวร์แก้ไขภาพเหมือนกัน แต่มันก็ยังคงมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันอยู่บ้าง ซึ่ง Lightroom จะสามารถแก้ไขภาพได้แบบไม่ทำลายภาพต้นฉบับ นั่นคือจะแยกภาพต้นฉบับออกจากการแก้ไขในโปรแกรม โดยจะบันทึกภาพที่แก้ไขแล้วในไฟล์ใหม่ และจะมุ่งเน้นไปที่การจัดระเบียบและประมวลผลภาพถ่าย ในขณะที่ Photoshop จะมุ่งเน้นไปที่การปรับแต่ง การสร้าง และการปรับปรุงภาพ มีเครื่องมือการแก้ไขที่กว้างขวางยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ทำให้ภาพบางภาพดูไร้ที่ติ

Categories
เทคนิค

เทคนิคพื้นฐานการตัดต่อภาพถ่าย ยังไงให้ได้รูปสวย ๆ เรียกยอดไลค์เยอะ

ขณะนี้เทคโนโลยีได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการถ่ายภาพให้ได้รูปสวย ๆ หลายนิยมใช้โปรแกรมตัดต่อภาพถ่ายไว้แต่งรูป เพื่อโพสต์ลงแพลตฟอร์มโซเชียลของตนเอง แต่การจะแต่งรูปให้ได้รูปสวย ๆ สมบูรณ์แบบระดับมืออาชีพนั้น เราควรต้องรู้จักเทคนิคพื้นฐานของการตัดต่อภาพถ่ายที่อยู่ในโปรแกรมแต่งรูปง่าย ๆ เสียก่อน โดยแต่ละเทคนิคจะช่วยปรับปรุงรูปภาพของเราให้ดูดีมากขึ้น หากนำไปโพสต์ลงแพลตฟอร์มโซเชียลก็จะสามารถเรียกยอดแชร์และยอดไลค์ได้มากมาย ซึ่งวันนี้ผู้เขียนก็ได้รวบรวมเทคนิคพื้นฐานของการตัดต่อภาพถ่ายมาแนะนำทุกคน คุณไม่จำเป็นต้องทำตามขั้นตอนการแก้ไขพื้นฐานทั้งหมดก็ได้ แต่ให้เลือกทำตามขั้นตอนที่คุณต้องการปรับปรุงส่วนเสียของรูปภาพ

6 เทคนิคพื้นฐานสำหรับการตัดต่อภาพถ่ายให้ได้รูปสวย ๆ

เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะได้รูปสวย ๆ ไว้ตั้งโปรไฟล์บนแพลตฟอร์มโซเชียลของตนเอง และแน่นอนว่าเครื่องมือที่ช่วยปรับแต่งรูปถ่ายของคุณที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นโปรแกรมแต่งรูป โดยโปรแกรมเหล่านั้นมีทั้งแบบง่าย ๆ และแบบซับซ้อน แต่สิ่งที่โปรแกรมเหล่านี้มีเหมือน ๆกัน ก็คือเครื่องแก้ไขรูปภาพพื้นฐาน ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปเรียนรู้เทคนิคตัดต่อภาพถ่ายด้วยเครื่องมือพื้นฐานเหล่านั้น
การครอบตัดและปรับรูปภาพ

  • การปรับภาพให้ตรง : การปรับรูปภาพให้ตรง โดยเฉพาะรูปที่มีขอบฟ้า จะช่วยให้ได้รูปสวย ๆ และเพิ่มความน่าสนใจให้รูปภาพมากยิ่งขึ้น
  • การครอบตัดรูปภาพ : การครอบตัดรูปภาพ เป็นการปรับปรุงรายละเอียดองค์ประกอบเล็กน้อยของภาพ เช่น การตัดองค์ประกอบที่ทำให้ภาพเสียที่ขอบเฟรมหรือจัดตำแหน่งวัตถุใหม่เล็กน้อย
  • รูปภาพที่เรียบง่ายเฉพาะจุด : รูปภาพกลางแจ้งที่เป็นสถานที่มีฝุ่นมาก และองค์ประกอบที่หยาบกร้านของธรรมชาติ นอกจากการปรับเลนส์กล้องของคุณแล้ว คุณยังสามารถใช้เครื่องมือลบเฉพาะจุดได้ ให้คุณเปลี่ยนมุมมองของภาพถ่ายเพื่อเน้นตำแหน่งของจุดต่าง ๆ ในรูปภาพของคุณ จนกว่าคุณจะได้ภาพที่ปราศจากจุดบกพร่อง

การปรับสมดุลแสงขาว

การปรับสมดุลแสงสีขาวจะเป็นการระดับสี ไม่ใช่ปรับระดับแสง หากรูปภาพของคุณมีโทนสีโดยรวมที่คุณไม่พึงพอใจหรือไม่เป็นธรรมชาติ คุณสามารถปรับสมดุลแสงขาว เพื่อให้ได้รูปสวย ๆ ได้ แต่ต้องรู้ไว้ว่าไฟล์ JPG จะสามารถบันทึกข้อมูลดิจิทัลได้น้อยกว่าไฟล์ RAW จึงมีการปรับสมดุลแสงขาวได้น้อย

โปรแกรมตัดต่อรูปภาพส่วนใหญ่จะมีให้คุณเลือกจากโหมดที่ตั้งไว้ล่วงหน้า เช่น flash, daylight หรือ cloudy เพื่อปรับเทียบสภาพแสงได้ดีขึ้น หลายๆ โปรแกรมยังมีทั้งแถบเลื่อน temperature และ tint ที่คุณสามารถใช้เพื่อปรับแต่งแสงโดยรวมของรูปภาพได้

การปรับค่าแสงและคอนทราสต์

การแต่งรูปสวย ๆ ด้วยการปรับค่าแสง เป็นกระบวนการในการทำให้รูปภาพสว่างหรือมืดได้ตามความต้องการของคุณ บางครั้งเมื่อคุณเพิ่มความสว่างของรูปภาพมากเกินไป อาจจะทำให้เกิด “แสงรบกวน” ลักษณะเป็นรอยด่าง ดังนั้นคุณควรเพิ่มความสว่างให้สมดุลกับองค์ประกอบของรูปภาพด้วย

การปรับคอนทราสต์ คือการปรับช่วงของโทนมืดถึงสว่าง เมื่อคุณปรับคอนทราสต์สูงที่สุด คุณจะได้ภาพที่ดูไม่สดใส แต่เมื่อปรับคอนทราสต์ต่ำที่สุด คุณจะได้ภาพที่ดูแบนไม่มีองค์ประกอบในเฟรมที่โดดเด่น ดังนั้นคุณควรปรับคอนทราสต์ให้อยู่ในระดับกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านั้น

การปรับความสดและความอิ่มตัวของสี

เทคนิคการแต่งภาพถ่ายให้ได้รูปสวย ๆ ด้วยการปรับความสดและความอิ่มตัวของสี เมื่อปรับ White Balance หรือความสมดุลแสงสีขาวแล้ว คุณสามารถปรับแต่งสีในภาพถ่ายของคุณเพิ่มเติมได้ ด้วยการควบคุมความสดและความอิ่มตัวของสี โดยความแตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้ คือ การเพิ่มความสดจะช่วยเพิ่มความเข้มของสีในโทนสีที่เป็นกลาง และรักษาความเข้มของสีในสีที่สว่างกว่า ส่วนการเพิ่มความอิ่มตัวจะทำให้ทุกสีทั่วทั้งเฟรมมีความคมชัดมากขึ้น เมื่อสีสันสดใสขึ้น ก็จะทำให้ภาพดูมีมิติมากขึ้น

การปรับความคมชัด

การแต่งรูปสวย ๆ ด้วยการเพิ่มความคมชัดให้กับภาพ จะทำให้ภาพดูคมชัดและสะอาดตายิ่งขึ้น หลายโปรแกรมมีเครื่องมือปรับความคมชัดหลายแบบ เริ่มต้นด้วยการปรับปริมาณความคมชัดโดยรวม (ในระดับตั้งแต่ 0 ถึง 100%) ให้เริ่มต้นที่ 50% จากนั้นค่อย ๆ ปรับระดับขึ้นหรือลงต้องความต้องการของคุณ นอกจากนี้การปรับ ความชัดเจน” หรือ “โครงสร้าง” จะทำให้ขอบของวัตถุในภาพดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ทำให้ภาพรวมดูคมชัดยิ่งขึ้น

การเพิ่มความคมชัดให้กับภาพไม่สามารถเปลี่ยนภาพที่หลุดโฟกัสให้เป็นภาพที่อยู่ในโฟกัส และไม่มีเครื่องมือแก้ไขใดที่สามารถทำได้ นอกจากนี้หากคุณปรับความคมชัดของภาพมากเกินไป คุณสามารถสร้างเอฟเฟกต์รัศมีที่ไม่เป็นธรรมชาติรอบๆ วัตถุในเฟรมให้ได้ความคมชัดที่คุณต้องการได้

ตรวจสอบรูปภาพก่อนแบ่งปันภาพถ่ายของคุณ

หลังจากที่คุณปรับแต่งภาพ จนได้รูปสวย ๆ แล้ว ให้ทำการเปรียบเทียบรูปภาพว่าคุณพอใจแล้วหรือไม่ หากไม่เป็นเช่นนั้น ให้ทำการแก้ไขเพิ่มเติมตามความจำเป็น แต่ก่อนจะแบ่งปันภาพถ่ายของคุณให้แปลงไฟล์ RAW เป็นไฟล์ JPG ก่อนที่คุณจะส่งอีเมล โพสต์ แชร์ หรือส่งรูปภาพในแชท เนื่องจากไฟล์ RAW มีขนาดใหญ่มาก นอกจากนี้คุณควรบันทึกรูปภาพเวอร์ชันที่แก้ไขขั้นสุดท้ายทั้งหมดแล้วควบคู่ไปกับรูปภาพต้นฉบับ

บาคาร่า วอเลท