Categories
กราฟิก เทคนิค

ทำไมต้องใช้ Adobe xd ?

ทำไมต้องใช้ Adobe xd ?

โปรแกรมที่ใช้ในการออกแบบบนคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คที่สามารถสร้างสรรค์แอพพลิเคชั่น เว็บไซต์ได้อย่างที่ใจคิด ซึ่งเหล่าสายกราฟฟิกที่ต้องการสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและทันใจ อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนงานจากที่เป็นแบบ Cpncept กลายเป็น Protrotype แสดงให้เห็นตัวอย่างของงานแบบมองเห็นภาพ ทำให้สามารถจบงานได้ง่ายและรวดเร็ว เรามีโปรแกรมที่มาแนะนำ คือ โปรแกรม Adobe Experience Design ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สามารถใช้งานได้ทั้งมือใหม่และมือโปร มีหลักการในการใช้งานที่ไม่ได้ยากจนเกินไป ถ้าเราฝึกทำเรื่อยๆและสร้างสรรค์ผลงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ยากเลยที่จะสร้างผลงานดีๆจากโปรแกรมนี้

Adobe xd คือ?

Adobe Experience Design หรือที่เรียกกันว่า adobe xd คือ โปรแกรมบน PC ที่สร้างมาเพื่อการใช้งานของ Digital Designer สามารถใช้ในการออกแบบเว็บไซต์ปละแอพพลิเคชั่นในหลากหลายอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น Web Design หรือจะเป็นบน Mobile App ก็ตาม ซึ่งฟังก์ชันหลัก ได้แก่ การออกแบบในส่วนของ Prototype ซึ่งเป็นเสมือนแบบจำลองเพื่อเก็บ Feedback จาก User ก่อนการสร้าง Product จริง และสามารถออกแบบ Graphic UI ได้อีกด้วยมาพร้อมกับฟังก์ชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่กราฟฟิก ไม่ว่าจะการแบ่งปันงาน หรือการ Export เป็นต้น 

การออกแบบเว็บด้วย Adobe xd

โปรแกรม Adobe Experience Design เป็นโปรแกรมที่ช่วยการออกแบบเว็บให้ได้ง่ายขึ้น ให้คุณได้หลงเข้าไปในโปรแกรมได้อย่างน่าทึ่งด้วยปลั๊กอินที่มีจำนวนมาก ฟังก์ชันที่สามารถเข้าใจและใช้งานได้อย่างง่าย ไม่ว่าจะมือใหม่ที่กำลังหาการทำกราฟฟิกหรือมือโปรที่อยากสร้างผลงานที่ทำราคาได้สูงหรือใช้เป็นโปรแกรมที่พัฒนาตนเองให้มีการออกแบบที่มีคุณภาพและน่าสนใจได้อีกด้วย โดยในปัจจุบันมีคอร์สเรียนของโปรแกรม Adobe Experience Design มากมาย แต่วันนี้เรามีวิธีการออกแบบต่างๆอย่างง่ายให้ได้ศึกษากัน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบแอพพลิเคชั่น การออกแบบ User Interface หรือการออกแบบหน้าเว็บ ข้อมูลมีดังนี้

ออกแบบแอพด้วย Adobe xd

ในการลิ้งก์แต่ละหน้าของแอพพลิเคชั่นเป็นสิ่งที่ถือว่าจำเป็นอย่างมากในการออกแบบแอพพลิเคชั่น ด้วย Adobe Experience Design ซึ่งการลิ้งก์หน้าเป้นการทำให้ชิ้นส่วนในการออกแบบนั้นสามารถกดแล้วไปที่หน้าอื่นๆต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม รูปภาพ รูปทรง เส้นตรง เส้นโค้ง หรือวัตถุอื่นๆ โดยขั้นตอนในการลิ้งห์หน้าทำได้โดย เลือกแท็บ Prototype ที่อยู่ในบริเวณด้านบนสุดของโปรแกรม adobe xd จากนั้นให้เลือกไอเท็มที่ต้องการใช้ในการลิ้งห์ไปหน้าอื่นๆ จากนั้นให้ทำการลิ้งก์ไอเท็ม โดยการลือกไอเท็มแล้วจะมีลูกศรสีฟ้าปรากฏที่ด้านขวามือของไอเท็ม ให้ลากลูกศรไปที่ Artboard ที่ต้องการ จากนั้นจึงตั้งค่าเกี่ยวกับลักษณะการเปลี่ยน Artboard หรือจะปล่อยไว้แบบ Default จากนั้นลองทดลองทำการกดดู

ออกแบบ user interface ด้วย Adobe xd

ในการออกแบบ user interfaceจะต้องมีไฟล์รูป UI ที่ผ่านการออกแบบไว้แล้วก่อน ซึ่งสามารถออกแบบจากโปรแกรมอื่นๆก่อนก็ได้ เช่น Microsoft Powerpoint, Adobe Photoshop, Adobe Illustrator เป็นต้น จากนั้นเปิดโปรแกรม adobe xd แล้วสร้างหน้าเปล่าขึ้นมา โดยจะต้องเลือกเทมเพลตที่เป็นแบบเดียวกับขนาดของไฟล์ UI ที่ออกแบบไว้แล้ว แล้วเลือก Tab ที่ Menu Bar จากนั้นนำไฟล์ UI ที่ออกแบบไว้แล้วมาวางที่หน้าเปล่าขยายให้เต็ม แล้วใช้ Artbord Tool ที่แถบด้านซ้าย กดรูป + ให้หน้าเท่ากับจำนวนไฟล์ UI จากนั้นเชื่อมทุกไฟล์เข้าด้วยกันด้วย Rectangle การตั้งให้การคลิกสี่เหลี่ยมล่องหนนี้ทำอะไร เราจะทำผ่าน Tab ที่2 ชื่อ Prototype จากแถบ Menu Bar ข้างบน 

Adobe xd ช่วยออกแบบหน้าเว็บ

เริ่มต้นที่ให้เราเลือกขนาดของงานที่เราต้องการที่จะทำก่อน ซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย เช่น ขนาดเท่า Ipad, Iphone, Desktop เป็นต้น ต่อไปเครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบหน้าเว็บมีทั้งหมด 7 อย่าง คือ Select ใช้สำหรับเลือกวัตถุหรือเคลื่อนย้ายวัตถุ Rectangle ใช้สำหรับสร้างวัตถุ รูปทรง Line ใช้สำหรับสร้างเส้นตรงเท่านั้น Pen ใช้สำหรับสร้างเส้นโค้งได้ Text ใช้สำหรับสร้างข้อความ Artboard ใช้สำหรับสร้างแผ่นกระดาษในการลงชิ้นงาน จากนั้นเลือกฟังก์ชันเสริมบริเวณด้านขวาของโปรแกรม ทั้งนี้สามารถเปลี่ยนโหมด Design หรือ Prototype ได้จากที่แถบเครื่องมือด้านซ้าย

แชร์งานด้วย Adobe xd 

ในการโปรแกรม Adobe Experience Design หรือที่เหล่าสายกราฟฟิกมักจะเรียกว่า design xd มีข้อโดดเด่นในการแชร์ผลงานได้สะดวก โดยการแชร์ Prototype จะเป็นการแบ่งปันในแบบให้ User ได้เห็นภาพ ทำให้ลูกค้าและกราฟฟิกสามารถสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น มีวิธี คือ เลือกเมนู Share แล้วเลือก Share for Review จากนั้นแก้ไขชื่อที่ช่อง Title กดปุ่ม Update แลวกดปุ่ม New Link เพื่อเป็นการสร้าง URL ใหม่ จากนั้นก็สามารถคัดลอกลิ้งก์ URL ส่งต่อให้ลูกค้าได้ทันที 

โปรแกรมออกแบบเว็บไซต์อย่าง Adobe xd

ในปัจจุบันในการทำงานออกแบบไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเว็บไซต์ การออกแบบแอพพลิเคชั่น หรือการออกแบบกราฟฟิกต่างๆ ทั้งนี้โปรแกรมออกแบบเว็บไซต์ที่ดีจนสายงานกราฟฟิกแนะนำให้ใช้งาน ได้แก่ WordPresss เป็นแพลตฟอร์มที่ยอดนิยมในนักพัฒนา Theme และปลั๊กอิน รองรับการทำ SEO และฟรีในการใช้งาน, Squarespace เป็นโปรแกรมที่เหมาะกับมือใหม่ เนื่องจากใช้งานง่าย มีเทมเพลทที่สวย, Wix นิยมในคนไทยมาก การใช้งานก็แสนง่ายเพียงลากแล้ววาง เหมาะทั้งมือใหม่และสายเทพ นักพัฒนาไม่สามารถสร้างปลั๊กอินหรือทำอะไรเพิ่มกับตัวแพลทฟอร์มได้, Weebly นิยมใช้เป็นเว็บขายสินค้าออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ โดยพิเศษที่ทำธุรกิจ สามารถจดโดเมนและใช้โฮสต์ที่ตัวของ Weebly ได้ และโปรแกรมนี้เป็นอีกทางเลือกที่ดีเช่นกัน

ข้อดีของ Adobe xd 

สำหรับสายกราฟฟิกหรือบุคคลทั่วไปที่สนใจอยากทำงานเกี่ยวกับการออกแบบนั้น โปรแกรม Adobe Experience Design จะเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ตอบโจทย์การทำงานอย่างแน่นอน เนื่องจากมีข้อดีที่หลากหลายจนน่าทึ่ง อย่างเช่น เป็นโปรแกรมที่มีขนาดไฟล์ที่เล็ก สามารถใช้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ต่อให้คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คที่สเปคไม่แรงก็ไม่มีค้างแต่อย่างใด มีฟังก์ชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งาน เช่น Share, Export เป็นต้น ส่วนนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานและลูกค้าได้สื่อสารและมองเห็นผลงานได้อย่างรวดเร็วและไฟล์งานมีความละเอียดที่แท้จริงอีกด้วย โปรแกรม Adobe Experience Design ยังมีการอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ๆอยู่เสมอ อย่างน้อย 1 เดือน/ครั้ง ทำให้เหล่ากราฟฟิกให้ชื่อว่าเป็นโปรแกรมที่ออกแบบหน้าเว็บสวยๆให้ลูกค้าเสมอ และทั้งนี้ก็ยังมี Plugins ให้ใช้งานมากกว่า 100 ตัว อีกด้วย

 

เว็บบอล

Categories
กราฟิก

เคล็ดลับการใช้งาน Adobe XD ใช้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน

เคล็ดลับการใช้งาน Adobe XD ใช้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน

Adobe XD หนึ่งในโปรแกรมที่จะช่วยให้คุณสามารถออกแบบเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น และผู้ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์ของตนเองไม่ควรพลาดโปรแกรมนี้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหากใครที่อยากลองใช้โปรแกรมนี้ วันนี้เราได้รวบรวมเคล็ดลับการใช้งานโปรแกรมนี้มาให้ทุกคนแล้ว ซึ่งเคล็ดลับต่าง ๆ ที่เราจะนำมาให้ทุกคนในวันนี้ล้วนเป็นวิธีที่ง่ายดาย และทุกคนสามารถทำตามได้ แบบไม่ต้องกังวลแม้ว่าคุณจะไม่มีพื้นฐานมาก่อน

Adobe XD คือโปรแกรมอะไร?

Adobe Experience Design หรือ Adobe XD คือ โปรแกรมที่ใช้สำหรับออกแบบเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน โดยโปรแกรมนี้จะช่วยให้ผู้ที่เป็น Digital Designer สามารถทำงานในการออกแบบเว็บไซต์สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น เนื่องจากโปรแกรมนี้สามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุมทั้งในส่วนของการออกแบบ (Design), UX/UI Design และ Developer ดังนั้นจึงทำให้ผู้ใช้งานสามารถ ออกแบบหน้าเว็บ และ ออกแบบแอพ ได้ครบ จบบนโปรแกรมนี้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลด หรือซื้อโปรแกรมอื่น ๆ มาใช้เพิ่มเติม

Adobe XD โปรแกรมฟรี และมีข้อเสียน้อย

Adobe XD เป็นโปรแกรมออกแบบเว็บไซต์ ที่คุณสามารถดาวน์โหลดใช้ได้ฟรี ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ เนื่องจากอย่างที่หลาย ๆ คนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า โปรแกรมที่ใช้สำหรับการตัดต่อ, กราฟิก หรือสำหรับการออกแบบเว็บ ส่วนใหญ่มักจะมีราคาที่ค่อนข้างแพง หรือมีค่าเช่าโปรแกรมต่อเดือนที่สูงเป็นอย่างมาก และที่สำคัญไปกว่านั้นคือข้อเสียของ design xd นั้นมีค่อนข้างน้อย ซึ่งเราได้คัดมาแล้วมีอยู่ 2 ข้อหลัก ๆ ได้แก่ Tools น้อยกว่า Photoshop และ Illustrator, ใช้ลูกเล่นกราฟิกได้ค่อนข้างน้อย ดังนั้นใครที่ต้องการการออกแบบที่สโคปใหญ่ และมีเนื้องานที่มีความละเอียดสูงอาจจะต้องใช้โปรแกรมอื่น ๆ เข้ามาช่วย

สอนใช้ Adobe XD สำหรับมือใหม่ 

สำหรับใครที่อยากออกแบบหน้าเว็บสวย ๆ โดยที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำเคล็ดลับการใช้ โปรแกรม XD แบบที่มือใหม่สามารถทำตามได้ โดยขั้นตอนในการสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเองมีขั้นตอน ดังนี้

1. เลือกขนาดโปรเจ็คต์ที่ต้องการใช้งาน

เมื่อดาวน์โหลด และติดตั้งโปรแกรมบนอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว โปรแกรมจะให้คุณเลือกขนาดของโปรเจ็คต์ ก่อนที่จะเริ่มออกแบบ user interface หรือขนาดงานที่ต้องการจะทำ โดยมีหลายขนาดให้เลือกตั้งแต่ขนาดของมือถือทั่วไป, ไอแพด, Web 1920 หรือ กำหนดด้วยตัวเอง ซึ่งโปรแกรมจะมีการอัปเดตให้เสมอ ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องของขนาดเว็บไซต์เท่าไรนัก

2. เข้าสู้หน้าโหมดโปรแกรม 

เมื่อเลือกหน้าโปรเจ็คต์เรียบร้อยแล้ว โปรแกรมจะพาคุณไปยังหน้าโหมดสำหรับออกแบบเว็บไซต์ โดยโปรแกรมจะแบ่งฟังก์ชันการใช้งานออกเป็น 3 ฟังก์ชัน ได้แก่ Design, Prototype และ Share โดยให้เราเลือกไปที่ Design เพื่อทำการออกแบบเว็บไซต์ของเรา ซึ่งการทำงานของโปรแกรมจะทำงานเป็นสเต็ป เช่นเมื่อออกแบบทำการออกแบบเรียบร้อยแล้ว ส่งต่อไปยัง Prototype และสามารถ Share ผลงานของคุณให้ผู้พัฒนาสามารถนำไปพัฒนาต่อไป

3. เครื่องมือ (Tools) มีทั้งหมด 7 ชิ้น

เครื่องมือ (Tools) ของ XD มีทั้งหมด 7 ชิ้น ซึ่งเป็นจำนวนที่ค่อนข้างน้อย แต่ก็สามารถทำงานออกแบบเว็บไซต์เบื้องต้นได้ 

Select Tool ใช้ในการจับวัตถุต่าง ๆ 

สี่เหลี่ยม, วงกลม, สามเหลี่ยม และ เส้น ใช้สร้างรูปทางเรขาคณิตแบบอัตโนมัติ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องใช้ปากกาวาด

Pen ใช้ในการสร้างเส้น หรือวัตถุตามรูปทรงที่ต้องการ โดยลากจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งได้อย่างแม่นยำ

Text สร้างตัวอักษร หรือพิมพ์ข้อความที่คุณต้องการ

Artboard เพิ่มหน้า Devices โดยจะแสดงขึ้นทางฝั่งขวามือ 

Zoom ซูมเข้าซูมออก หรือสามารถใช้คีย์ลัดได้

4. Export File บนโปรแกรม

การ Export File บนโปรแกรมสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการใช้คีย์ลัด Cmd or Ctrl + E เพื่อทำการเปิดคำสั่ง Export Selected หรือกดเลือกไปที่คำว่า “File” และกดไปที่คำว่า “Export” นอกจากนี้เรายังสามารถเลือกชนิดไฟล์ที่ต้องการนำไปใช้ ซึ่งความพิเศษของ Adobe XD คือเราสามารถ Export File ให้อยู่ในรูปแบบของ Devices อื่นได้ เช่น Web, iOS หรือ Android

Adobe XD มี Plugins ให้เลือกใช้เป็นจำนวนมาก

สำหรับใครที่ได้อ่านวิธีการใช้งานเบื้องต้นของโปรแกรมที่เราได้นำมาให้ทุกคนแล้ว แต่อาจจะยังรู้สึกว่า ความน่าสนใจ หรือความสามารถของโปรแกรมนั้นอาจจะมีไม่มากสักเท่าไร เมื่อเทียบกับโปรแกรมอื่น ๆ ที่เป็นประเภทเดียวกัน แต่เราอยากจะขออธิบายดังนี้ว่า XD เป็นโปรแกรมที่มี Plugins ให้เราเลือกใช้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นเราจึงสามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเอง ซึ่งการติดตั้ง Plugins เพิ่มเติมเข้าไปจะช่วยให้การใช้งานบนโปรแกรมของเราทั้งสะดวก และง่ายขึ้นด้วย

Adobe XD เป็นโปรแกรมที่สามารถเช่าได้

อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่า Adobe XD เป็นโปรแกรมที่สามารถดาวน์โหลดใช้ได้ฟรี แต่สำหรับคนที่ต้องการใช้งานในระดับมืออาชีพการใช้โปรแกรมฟรีอาจจะไม่ใช่สิ่งที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้สักเท่าไร ดังนั้นเราจึงแนะนำให้เลือกเป็นแพ็กเกจการเช่าโปรแกรมจาก Adobe ซึ่งมีหลายแพ็กเกจหลายให้เลือก ทั้งการเช่าแบบโปรแกรมเดียว และแบบ All App ซึ่งเราจะแนะนำให้เช่าแบบ All App เนื่องจากคุณจะสามารถใช้โปรแกรมทั้งหมดของ Adobe เช่น Photoshop, Illustrator, InDesign, Premiere Pro และ XD เป็นต้น และเมื่อเฉลี่ยแล้วจะมีราคาค่าเช่าที่ถูกกว่านั่นเอง

Adobe XD ไม่มีโปรแกรมแบบขายขาด

สำหรับใครที่อยากใช้งาน XD หรือโปรแกรมอื่น ๆ ของ Adobe และค้นหาโปรแกรมแท้ในอินเทอร์เน็ต แล้วพบว่ามีการประกาศขายโปรแกมของ Adobe แบบขายขาด ให้คุณสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่านั่นเอาจจะเป็นโปรแกรมเถื่อน เนื่องจาก Adobe ยกเลิกการขายโปรแกรมแบบขายขาดมาเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว ดังนั้นหากใครที่ต้องการใช้โปรแกรมของ Adobe นอกจากรูปแบบที่เปิดให้ใช้ฟรี เราแนะนำให้ทำการเช่าโปรแกรมผ่าน https://www.adobe.com/th_th/creativecloud.html ซึ่งเป็นเว็บไซต์ออฟฟิเชียลของ Adobe นั่นเอง

สรุป Adobe XD ยังเป็นโปรแกรมที่น่าใช้หรือไม่?

เมื่อได้ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับ XD ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะเห็นได้ว่าเคล็ดลับในการใช้โปรแกรมที่เรานำมาฝากนั้นจะเป็นการใช้โปรแกรมตัวฟรี ซึ่งมีขั้นตอนในการใช้งานแบบคร่าว ๆ ดังนั้นอาจจะทำให้หลายคนเกิดการตั้งคำถามขึ้นมาว่า สรุปแล้วโปรแกรม XD ยังเป็นโปรแกรมที่มีความน่าสนใจหรือไม่ ซึ่งการที่เราจะการันตีว่าโปรแกรมนั้นน่าใช้หรือไม่อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมนัก 

เนื่องจากความถนัดของการใช้โปรแกรมในแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกันออกไป แต่ด้วยคุณภาพของตัว Adobe เองก็พอจะทำให้เรามั่นใจได้ว่าการใช้งานบนโปรแกรมต่าง ๆ ของเขาค่อนข้างไร้ที่ติ นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งข้อดีสำหรับการทดลองใช้โปรแกรมฟรี นั่นคือเราจะได้ทราบถึงความถนัดของเราต่อตัวโปรแกรมนั้น ๆ ว่าควรจ่ายเงินเพื่อเช่า-ซื้อโปรแกรมนั้นหรือไม่นั่นเอง

 

เว็บบอล

Categories
เทคนิค

VR เกม น่าเล่นที่เกมเมอร์ไม่ควรปล่อยผ่าน 

VR เกม น่าเล่นที่เกมเมอร์ไม่ควรปล่อยผ่าน 

ในปัจจุบันนี้เราจะเห็นอาชีพใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ และอาชีพสตรีมเมอร์ก็เป็นอาชีพหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมในตอนนี้ เพราะได้ทำในสิ่งที่ชอบก็คือการได้เล่นเกมแถมยังมีรายได้จากสิ่งตนเองชอบนั่นเอง VR เกม ก็เป็นหนึ่งในเกมที่เหล่าสตรีมเมอร์นิยมนำมาสตรีมให้ผู้ชมได้ติดตาม เนื่องจากต้องมีอุปกรณ์อย่างแว่น VR และการแต่งตัวให้เข้ากับเกม ทำให้การรับชมน่าติดตาม เป็นภาพลักษณ์ที่สวยงามจนอาชีพสตรีมเมอร์กลายเป็นอาชีพหนึ่งที่เป็นอาชีพในฝันของเด็กรุ่นใหม่ ทำให้ VR เกมเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น บทความนี้เราจะแนะนำ VR เกมที่น่าสนใจมีอะไรบ้างที่เหล่าเกมเมอร์ไม่ควรพลาด

Half-Life : Alyx ที่สุดแห่ง VR เกม

เป็น VR เกมที่พัฒนาโดยทีมของ Valve ที่เหล่าเกมเมอร์จัดให้เป็นสุดยอดนักพัฒนาเกม VR น่าเล่น ความใส่ใจในทุกรายละเอียดสมกับเป็นภาคต่อของ เกม VR คือ Half-Life ทำให้ Half-Life : Alyx มีเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ทั้งความมันส์ในการสาดกระสุน หรือการแก้ไขปริศนาที่อยู่ในเกม มาพร้อมกับระบบเสียงที่เหมือนจริงจนคุณอินเข้าไปอยู่ในเกม เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดที่เหล่าเกมเมอร์ต้องบอกต่อ 

VR เกม Resident Evil 7 เกมชวนขนหัวลุกในตำนาน

เป็นอีกเกมที่มีชื่อเสียงอย่างมากถึงแม้เป็นคนที่ไม่เล่มก็รู้สึกคุ้นชื่อกับเกมนี้ จากความดังทำให้ได้ถูกพัฒนาเป็น VR เกม จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกม VR น่าเล่น เพราะช่วยสร้างอารมณ์สยองขวัญเหมือนอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง ๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบหาความตื่นเต้นจากความสยองขวัญ ที่ใช้แว่น VR เล่มเกม ได้ทั้งบน PC และ PS

มา Dance กันให้สุดด้วย VR เกม Beat Saber

เป็น VR เกม ที่เหล่าสตรีมเมอร์ชื่อดังในเมืองไทยนิยมนำมาเล่นสตรีมออนไลน์ให้ผู้ติดตามทางช่องทางออนไลน์ได้รับชมกัน เป็นเกม VR น่าเล่น อีกเกมเพราะว่าจะมีอุปกรณ์อย่างแว่น VR เล่นเกม และดาบที่จะกวัดแกว่งให้ได้ตามจังหวะเพลงที่อยู่ในเกม และสตรีมเมอร์ได้ทำให้การสตรีมเกม VR Beat Saber ดูสนุกมากขึ้นด้วยชุดที่น่ามองมาใส่เต้นที่มาพร้อมกับเพลงดังจากค่ายต่าง ๆ สำหรับคนที่ชอบการเต้นและอยากอินไปกับเสียง แนะนำเกม Beat Saber 

และนี่คือ VR เกมที่กำลังได้รับความนิยมจากเหล่าเกมเมอร์ และนักสตรีมเมอร์ หากเพื่อน ๆ สนใจอยากลองเล่นเกม อยากแนะนำให้ก็ลองหาข้อมูลอุปกรณ์ต่าง ๆ ก่อนนะคะ เพื่อช่วยให้แน่ใจได้ว่าอุปกรณ์ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น Hardware หรือ Software สามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี หวังว่าบทความนี้จะแนะนำเกม VR ได้ถูกใจเพื่อน ๆ นะคะ 

 

 

เว็บบอล

Categories
เทคนิค

แนะนำเทคนิคแต่งรูป LIGHTROOMโทนสียอดฮิต ที่คุณไม่ควรพลาด

เราเชื่อว่าสาว ๆ ที่ชอบถ่ายรูปหลายคนต้องมีแอพ แต่งรูป LIGHTROOM ติดไว้ในโทรศัพท์อย่างแน่นอน ซึ่งแอพนี้เป็นแอปแก้ไขภาพถ่ายฟรีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติที่มีประสิทธิภาพมากมาย เพื่อช่วยเนรมิตภาพถ่ายของคุณให้สวยงามได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยคุณสมบัติที่ดีงามเช่นนี้จึงทำให้แอพ LIGHTROOM มีผู้ใช้งานจากทั่วโลกจำนวนมาก และทำให้มันกลายเป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชันแต่งรูปที่ดีที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟนในยุคนี้ 

หากคุณต้องการเปลี่ยนโทนสีของรูปภาพด้วยแอพ LIGHTROOM คุณจะทำอย่างไร? โดยทั่วไปแอพนี้จะแตกต่างจาก ADOBE LIGHTROOM บนเดสก์ท็อปตรงที่ไม่มีแผงการปรับ HSL แต่คุณสามารถใช้คุณสมบัติ COLOR MIX ที่อยู่ภายในแอพ LIGHTROOM เพื่อเปลี่ยนโทนสีของรูปภาพแทนได้ เนื่องจากเครื่องมือชนิดนี้มีกระบวนการทำงานในลักษณะเดียวกันกับการปรับ HSL ซึ่งในบทความนี้เราจะพาคุณไปกับเทคนิคการเปลี่ยนโทนสีรูปภาพด้วยแอพ LIGHTROOM กันค่ะ

ไอเดียแต่งรูป LIGHTROOMโทนต่าง ๆ ที่กำลังมาแรง

แต่งรูป LIGHTROOM

แอปพลิเคชัน แต่งรูป LIGHTROOM เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดย ADOBE INC. บริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลก โดยแอพ LIGHTROOM และสามารถใช้งานได้บนสมาร์ทโฟนทั้งระบบ IOS และ ANDROID ซึ่งหลักการใช้งานของแอพนี้โดยทั่วไป มีดังนี้

  • การแก้ไขรูปภาพบนสมาร์ทโฟนด้วยเครื่องมือ ฟิลเตอร์ และการตั้งค่าที่เป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ ทำให้คุณสามารถ แต่งรูป LIGHTROOM ง่าย ๆ เพื่อรูปภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยมีมา นอกจากนี้แอพ แต่งรูป LIGHTROOM ยังสามารถรองรับไฟล์ภาพ RAW ช่วยทำให้คุณปรับแต่งการตั้งค่า การรับแสง และสีของรูปภาพได้อย่างเต็มที่
  • คุณสามารถแก้ไขรูปภาพได้เร็วขึ้นด้วยการตั้งค่าการ แต่งรูป LIGHTROOM ล่วงหน้าฟรี โดยมันจะช่วยทำให้คุณสามารถแก้ไขรูปภาพได้ง่ายขึ้น และประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น 
  • คุณสามารถเข้าถึงไลบรารีที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ของคุณจากอุปกรณ์ใดก็ได้ ทำให้ง่ายต่อการเริ่มแก้ไขรูปภาพที่ค้างไว้บนคอมพิวเตอร์ของคุณได้ และคุณยังสามารถเข้าถึง LIGHTROOM จากเบราว์เซอร์ได้ ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพื่อใช้แอพ
  • คุณสามารถแบ่งปันรูปภาพแต่ละรูปหรือหลายรูปภาพไปยังเว็บอื่น ๆ ได้ เช่น GOOGLE PHOTOS หรือ FLICKR 
  • แอพ แต่งรูปLIGHTROOM ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสำหรับการแก้ไขรูปภาพเท่านั้น แต่มันยังเป็นศูนย์กลางการจัดระเบียบรูปภาพเช่นเดียวกับการจัดระเบียบรูปภาพในโฟลเดอร์และอัลบั้มของสมาร์ทโฟน
แต่งรูป LIGHTROOM

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและอยากคุมโทนรูปภาพไว้อัพลงไอจี ขอบอกเลยค่ะว่ามันไม่ใช่เรื่องยากค่ะ เพียงแค่คุณมีแอพ แต่งรูป LIGHTROOM บนสมาร์ทโฟน ก็สามารถแต่งโทนสีรูปภาพให้สวยงามได้แล้ว แต่สำหรับบางคนการ แต่งรูป LIGHTROOM หรือการแต่งโทนสีของรูปภาพด้วยแอพ LIGHTROOM อาจจะเป็นเรื่องยาก โชคดีที่วันนี้เราได้รวบรวม โทนแต่งรูป LIGHTROOM ยอดฮิตมาแนะนำทุกคน ซึ่งมันจะช่วยทำให้การปรับแต่งโทนสีรูปภาพของคุณง่ายดายมากขึ้น ดังนี้

การแต่งรูปโทนสดใสในแอพ LIGHTROOM

คุณสามารถแต่งรูป LIGHTROOM สดใส หรือ แต่งรูป LIGHTROOM โทนคาเฟ่ สดใสได้ง่าย ๆ ด้วยเครื่องมือ COLOR MIX ที่อยู่ในแอพแต่งรูป LIGHTROOM โดยทั่วไปโทนสีธรรมชาติสดใสมักจะเน้นไปที่สีฟ้าและสีเขียว เพราะสีทั้งสองสีนี้เป็นโทนสีที่สบายตา จึงเหมาะสำหรับใช้แต่งรูปภาพโทนสีธรรมชาติสดใสหรือโทนคาเฟ่ ซึ่งส่วนใหญ่เรานิยมแต่งรูปโทนสดใสกับภาพถ่ายของคนกับธรรมชาติ แต่หากมีแสงแดดด้วยก็ยิ่งจะทำให้รูปภาพดูสวยงามมากยิ่งขึ้น และนี่คือวิธี แต่งรูป LIGHTROOM โทนธรรมชาติสดใส

1. ไปที่เมนู สี > ปรับความสดของสี +40

2. เลือก มิกซ์สี (COLOR MIX) แล้วปรับแต่งสี ดังนี้

  • สีแดง (เฉดสี -30, ความอิ่มของสี +16, ความสว่าง +23)
  • สีส้ม (เฉดสี -10, ความอิ่มของสี -20, ความสว่าง +20)
  • สีเหลือง (เฉดสี -30)
  • สีฟ้า (เฉดสี -20)
  • สีเขียว (เฉดสี +45, ความอิ่มของสี +20)
  • สีน้ำเงิน (เฉดสี -25)
  • สีม่วง (เฉดสี -25)
  • สีชมพู (เฉดสี +30)

3. เลือกเมนู เอฟเฟ็กต์ > ปรับความชัด -25

4. เลือกเมนู แสง > เคิร์ฟ > กดปุ่ม RGB > ปรับเส้นเคิร์ฟ 2 จุด ตามความเหมาะสม

5. เลือกเมนู แสง > การรับแสง ปรับตามความเหมาะสม > คอนทราสต์ -20 > ไฮไลต์ -50 > เงา +51 > สีขาว +20 > สีดำ -20 

แต่งรูป LIGHTROOM

การแต่งรูปโทนดาร์กในแอพ LIGHTROOM 

นอกจากคุณจะสามารถแต่งรูปโทนสดใสบนแอพ แต่งรูป LIGHTROOM ได้แล้ว คุณยังสามารถแต่งรูป LIGHTROOM โทนดาร์กได้ง่าย ๆ อีกด้วย โดยรูปภาพโทนดาร์กจะให้ความรู้สึกที่ดูลึกลับน่าค้นหา ในขณะเดียวกันก็ทำให้รูปภาพดูหรูหราด้วย แล่คือวิธี แต่งรูป LIGHTROOM โทนดาร์ก

1. ไปที่เมนู แสง > การรับแสง +0.42 หรือปรับตามความมืดสว่างของรูป > คอนทราสต์ +32 > ไฮไลต์ -100 > เงา +49
2. เลือกเมนู สี > อุณหภูมิ +14
3. เลือก มิกซ์สี (COLOR MIX) แล้วปรับแต่งสี ดังนี้

  • สีแดง (ความอิ่มของสี +41)
  • สีส้ม (เฉดสี -27, ความสว่าง +10)
  • สีเหลือง (เฉดสี -80, ความอิ่มของสี -100)
  • สีเขียว (ความอิ่มของสี -100)
  • สีฟ้า (เฉดสี +100)
  • สีน้ำเงิน (เฉดสี -70, ความอิ่มของสี -68)

4. เลือกเมนู เอฟเฟ็กต์ > ลบหมอกควัน +29 > VIGNETTE -16 > จุดกึ่งกลาง +50 > FEATHER +53

5. เลือกเมนู รายละเอียด > ลดจุดลบกวน +28

แต่งรูป LIGHTROOM

การแต่งรูปโทนฟิล์มกรองแสงใน LIGHTROOM

หากพูดถึงโทน แต่งรูป LIGHTROOM 2022 ยอดฮิตอีกหนึ่งโทนหลายคนคงนึกถึงโทนฟิล์มกรองแสง หรือการ แต่งรูป LIGHTROOM โทนสว่าง ซึ่งคุณสามารถใช้แอพ แต่งรูป LIGHTROOM แต่งรูปถ่ายของคุณให้มีโทนสีแบบฟิล์มกรองแสงสว่างได้ง่าย ๆ ซึ่งรูปภาพโทนนี้จะทำให้รูปภาพของคุณดูเบาสบายน่ามอง เหมาะสำหรับใช้แต่งรูปภาพกลางแจ้ง ถ้ามีแสงแดดเล็กน้อยก็จะยิ่งดี และนี่คือวิธี แต่งรูป LIGHTROOM ไอโฟน โทนฟิล์มกรองแสงสว่าง

1. ไปที่เมนู สี > เลือก มิกซ์สี (COLOR MIX) > แล้วปรับแต่งสี ดังนี้

  • สีแดง (ความอิ่มของสี +19, ความสว่าง +21)
  • สีส้ม (ความอิ่มของสี -30, ความสว่าง +19)

2. เลือกเมนู เอฟเฟ็กต์ > ปรับค่า ความชัด -20

3. เลือกเมนู แสง > เคิร์ฟ > ปรับเส้นเคิร์ฟทั้งหมด 3 จุด ตามความเหมาะสม

4. เลือกเมนู แสง > ปรับค่า ไฮไลต์ -50 > เงา +40 > สีขาว -50 > การรับแสง ปรับตามความเหมาะสม

แต่งรูป LIGHTROOM

การแต่งรูปโทนสี MOOD & TONE ใน LIGHTROOM

สุดท้ายการ แต่งรูป LIGHTROOM โทนสียอดฮิตที่สายคาแฟ่ไม่ควรพลาด นั่นก็คือการ แต่งรูป LIGHTROOM โทนคาเฟ่คลีน ๆ หรือที่เรียกสั้น ๆ แต่งรูปโทนสี MOOD & TONE โดยทั่วไปโทนสีนี้จะเน้นในเรื่องของแสงและเงา ซึ่งหากมีแสงและเงาที่ตัดกันพอดีก็จะยิ่งทำให้วัตถุที่อยู่ในรูปภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น และโทนสี MOOD & TONE ยังให้ความรู้สึกคลีน ๆ สบายตาอีกด้วย และนี่คือวิธีการแต่งรูปโทนสี MOOD & TONE บนแอพแต่งรูป LIGHTROOM

1. ไปที่เมนู แสง แล้วปรับค่าดังนี้

  • การรับแสง 0.37EV
  • คอนทราสต์ +40
  • ไฮไลต์ -55
  • เงา -55
  • สีขาว +30
  • สีดำ -26

2. เลือกเมนู สี > ความสดของสี +10 > ความอิ่มของสี -5

3. เลือกเมนู เอฟเฟ็กต์ > พื้นผิว -25 > ลบหมอกควัน -14

แต่งรูป LIGHTROOM

ผู้สนับสนุน: HILO-88 คาสิโนออนไลน์เว็บตรง บริการ ไฮโลไทย บาคาร่า สล็อต และอื่น ๆ อีกมากมาย รับรองความมั่นคง ปลอดภัย 100%

Categories
กราฟิก

วิธีการออกแบบโลโก้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ที่ใครๆก็ทำได้

คุณรู้หรือไม่? สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนจดจำภาพสินค้าหรือแบรนด์ของคุณได้นั้น คือโลโก้ เนื่องจากโลโก้เป็นภาพที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดบนผลิตภัณฑ์สินค้า ซึ่งคุณสามารถ ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง ได้ง่าย ๆ โดยทั่วไปโลโก้เปรียบเสมือนองค์ประกอบหลักที่ถูกกำหนดให้เป็นภาพลักษณ์ของธุรกิจทั้งองค์กรขนาดใหญ่และองค์กรขนาดเล็ก

โดยเป้าหมายของการ ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง ก็คือการสร้างสรรค์สัญลักษณ์ที่ช่วยทำให้แบรนด์ของคุณถูกยกระดับอีกขั้น ทำให้เป็นที่จดจำและดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เช่น โลโก้นกสีฟ้าของ TWITTER และโลโก้แอปเปิ้ลที่ถูกกินไปแล้วหนึ่งคำของ APPLE แน่นอนว่าโลโก้เหล่านี้ได้ใช้เทคนิคการออกแบบกราฟิกที่สร้างสรรค์จึงทำให้มันกลายเป็นโลโก้ที่ดูดีและทั่วโลกจดจำได้ 

ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง

ในปัจจุบันมีบริษัทที่รับจ้างออกแบบโลโก้ สำหรับใครที่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง หรือกำลังคิดที่จะสร้างแบรนด์สินค้า แต่หากคุณมีงบจำกัด คุณสามารถ ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง ง่าย ๆ ด้วยเทคนิคที่เราได้นำมาแนะนำกันในบทความนี้ ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น สามารถติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ 

5 ขั้นตอนการออกแบบโลโก้ด้วยตัวเองง่าย ๆ 

ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง

ในโลกของการแข่งขันในปัจจุบัน ต้องยอมรับเลยว่าโลโก้เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ ที่นักออกแบบโลโก้จะต้องมีวิธีการ ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง แบบคิดนอกกรอบและใช้ วิธีออกแบบโลโก้ ใหม่ ๆ เพื่อสร้างผลงานการออกโลโก้ที่สมบูรณ์แบบที่สุด 

ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง

หากคุณต้องการที่จะ ออกแบบ LOGO เอง เราขอแนะนำให้เลือกใช้ วิธีออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง แบบสมัยใหม่ควบคู่กับเทคนิคการออกแบบโลโก้ในปัจจุบัน โดยทั่วไปการ ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง ง่าย ๆ สามารถเริ่มต้นได้ด้วย วิธีสร้างโลโก้ด้วยตัวเอง โดยมีทั้งหมด 5 ขั้นตอนพื้นฐาน ดังนี้ 

ขั้นตอนที่ 1 การรู้จักแบรนด์ของตัวเอง

ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง

ขั้นแรกของการ ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง นั้นก็คือการทำความเข้าใจว่าแบรนด์ต้องการจะสื่อถึงอะไร และเป้าหมายของธุรกิจเป็นอย่างไร ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่าโลโก้นั้นเปรียบเสมือนตัวแทนของธุรกิจ ดังนั้น วิธีสร้างโลโก้ด้วยตัวเอง จะง่ายมากขึ้น หากคุณรู้ก่อนว่าแบรนด์ตั้งเป้าสร้างความประทับใจในรูปแบบใด เพียงตั้งคำถามทั่วไป ได้แก่ 

  • ทำไมถึงต้องการออกแบบโลโก้? คุณกำลังพยายามแก้ปัญหาอะไร?
  • คุณจะใช้คำคุณศัพท์อะไรอธิบายแบรนด์ของคุณ?
  • ชื่อเสียงแบรนด์ของคุณคืออะไร? 
  • ปัจจัยที่สำคัญต่อแบรนด์ของคุณ
  • เอกลักษณ์แบรนด์ของคุณคืออะไร?
  • คุณต้องการใช้ลูกค้าพูดถึงแบรนด์ของคุณอย่างไร? 

ขั้นตอนที่ 2 การวิเคราะห์ตลาดคู่แข่งขัน

ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง

ไม่มีธุรกิจไหนที่สามารถลอยตัวอยู่ได้ เนื่องจากทุกบริษัทต้องแข่งขันกับมาตรฐานอุตสาหกรรมของตนเอง ดังนั้นขั้นตอนต่อไปที่สำคัญของการ ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง ก็คือการวิเคราะห์การออกแบบโลโก้บริษัทคู่แข่ง โดยมีหลักการ วิเคราะห์โลโก้ คู่แข่งในอุตสาหกรรมของคุณ ดังนี้

  • ลักษณะของโลโก้แบบไหนที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ เช่น สีของแบรนด์หรือรูปทรงของโลโก้
  • โลโก้แบบไหนที่ถูกใช้เยอะจนไม่มีความเป็นออริจินัล
  • โลโก้แบบไหนที่ไม่มีจุดที่โดดเด่น
  • กลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายของคู่แข่ง

ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์ตำแหน่งที่จะใช้โลโก้

ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง

ขั้นตอนต่อไปสำหรับการ ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง ก็คือการวิเคราะห์ตำแหน่งที่จะใช้โลโก้ โดยการวางแผนล่วงหน้าไว้ว่าคุณจะนำโลโก้ไปใช้อย่างไรและใช้ที่ไหนบ้าง ซึ่ง งานออกแบบโลโก้ ที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณจะต้องรู้จักกำหนดรูปแบบของสี และรูปร่างของโลโก้ โดยลักษณะและรายละเอียดของโลโก้จะต้องเข้ากันได้กับตำแหน่งหรือสภาพแวดล้อม ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการให้โลโก้ของคุณอยู่บนป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ คุณจะต้องออกแบบโลโก้ที่มีรายละเอียดสูงและมีขนาดใหญ่ขึ้น หรือหากคุณต้องการวางโลโก้ไว้ที่มุมของแอพบนมือถือ คุณควรเลือกใช้โลโก้แบบเรียบง่ายและมีขนาดเล็ก 

ขั้นตอนที่ 4 การร่างรูปแบบของโลโก้ที่หลากหลาย 

ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง

การ ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง คุณควรออกแบบโลโก้หลาย ๆ แบบ เพื่อนำไปคัดเลือกโลโก้ที่ดีที่สุด ซึ่งก่อนที่คุณจะเริ่มสร้างโลโก้ใน โปรแกรมออกแบบโลโก้ คุณควรเริ่มต้นร่างไอเดียลงบนกระดาษก่อน การร่างแบบภาพโลโก้ไว้ก่อนนั้นจะช่วยทำให้การสร้างโลโก้ของคุณในโปรแกรมออกแบบนั้นง่ายขึ้นและรวดเร็วอีกด้วย 

ซึ่งการร่างแบบภาพโลโก้มากมาย จะช่วยทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานให้ออกมาดียิ่งขึ้นและทำให้คุณได้เห็นถึงโลโก้ที่สามารถใช้งานได้และโลโก้ที่ไม่สามารถใช้งานได้ คุณสามารถจับคู่องค์ประกอบต่าง ๆ ของโลโก้อื่น ๆ ให้เข้ากันได้ หรือจนกว่าคุณจะเลือกชุดโลโก้ที่สมบูรณ์แบบ 

ขั้นตอนที่ 5 การสร้างโลโก้ด้วยโปรแกรมออกแบบเวกเตอร์

ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง

หลังจากที่คุณได้ทำการ ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง โดยการสเก็ตช์ภาพโลโก้หลาย ๆ แบบ ซึ่งคุณควรเลือกรูปแบบของโลโก้ จากภาพสเก็ตช์ประมาณ 3 แบบมาสร้างใหม่ในโปรแกรมออกแบบเวกเตอร์ สำหรับใครที่ไม่รู้ว่า ออกแบบโลโก้ใช้โปรแกรมอะไร? เราขอแนะนำ โปรแกรมออกแบบโลโก้ AI หรือหากคุณต้องการรูปแบบ โลโก้เท่ ๆ ฟรี แนะนำให้ใช้เว็บไซต์ออกแบบออนไลน์ เช่น CANVAS, FOTOJET, VISME.CO เป็นต้น 

ขั้นตอนนี้เป็นกระบวนการ ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง ที่ต้องใช้เทคนิคและความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมที่ใช้ออกแบบ หากคุณไม่มีความรู้เกี่ยวกับการใช้โปรแกรมนั้น ๆ คุณสามารถจ้างบริษัทหรือฟรีแลนซ์ที่มีความเชี่ยวชาญให้สร้างโลโก้จากภาพสเก็ตช์โลโก้ของคุณได้ เมื่อโลโก้ของคุณเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาส่งไฟล์ให้กับโรงพิมพ์ โดยทั่วไปคุณจะต้องส่งสิ่งเหล่านี้ให้กับโรงพิมพ์ ได้แก่

  • ไฟล์ VECTOR ต้นแบบเลเยอร์ เช่น AI
  • ไฟล์ EPS/PDF แบบเลเยอร์ (กรณีใช้โปรแกรมเวกเตอร์ ๆ)
  • ไฟล์ RASTER ความละเอียดสูงสำหรับเว็บ รวมถึง PNG ที่พื้นหลังโปร่งใส

อย่าลืมใส่รูปแบบพื้นฐานของโลโก้ด้วย เช่น สีล้วน สีดำ สีขาว และขาวดำ หากคุณใช้แบบตัวอักษรมาตรฐาน คุณควรฝังฟอนต์ในไฟล์ออกแบบโลโก้ด้วย มิฉะนั้น ฟอนต์ตัวอักษรจะเปลี่ยนบนคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้ติดตั้ง อย่างไรก็ตาม คุณควรตรวจสอบลิขสิทธิ์แบบอักษรตัวที่ใช้ด้วย สิ่งนี้จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าโลโก้ของคุณจะถูกใช้อย่างถูกต้องและใช้ได้นาน ๆ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อวิสัยทัศน์แบรนด์ของคุณ

เพียงเท่านี้คุณก็จะได้โลโก้ที่ออกแบบเอง ซึ่งรายละเอียดแต่ละอย่างของโลโก้ ไม่ว่าจะเป็นสี ฟอนต์ ขนาด รูปร่าง และส่วนอื่น ๆ สามารถส่งต่อความประทับใจที่ลูกค้าได้รับ หรือหากโลโก้ของคุณยังไม่เป็นที่จดจำของลูกค้า แต่กระบวนการออกแบบโลโก้ที่มีประสิทธิภาพก็สามารถเพิ่มโอกาสที่ดีที่สุดในอนาคตที่จะวิสัยทัศน์แบรนด์ของคุณเป็นจริงได้

Categories
เทคนิค

แนะนำโปรแกรมปรับภาพให้ชัด เปลี่ยนเบลอให้คมชัดสุด ๆ ในพริบตาเดียว

คุณรู้หรือไม่? การปรับภาพถ่ายดิจิทัลด้วยการเพิ่มความคมชัดสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดต่าง ๆ ของภาพถ่ายได้ไม่ว่าจะเป็นการเบลอจากการเคลื่อนไหว ความนุ่มนวลของเลนส์ และการสั่นของกล้อง ซึ่งแน่นอนว่าการ ปรับภาพให้ชัด ด้วยโปรแกรมแต่งรูปถือเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่ช่างภาพทุกคนต้องรู้ โดยเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับปรับความคมชัดจะช่วยลดความเบลอของภาพถ่ายไปพร้อม ๆ กับการปรับปรุงรายละเอียดเฉพาะ และการลดความหมองคล้ำให้กับภาพ 

ในปัจจุบันมีโปรแกรมที่สามารถ ปรับภาพให้ชัด สองประเภท นั่นคือ โปรแกรมสำหรับปรับความคมชัดของภาพถ่ายโดยเฉพาะ และโปรแกรมแต่งรูปภาพทั่วไปที่มีเครืองมือเพิ่มความคมชัด ซึ่งหากใครที่กำลังต้องการปรับภาพถ่ายให้คมชัด คุณสามารถเลือกใช้เครื่องมือจากโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งจากทั้งสองประเภทนี้ก็ได้ แต่ถ้าหากคุณไม่รู้ว่าจะใช้โปรแกรมอะไรดี? วันนี้เราก็มี 7 โปรแกรมที่ยอดเยี่ยมสำหรับการปรับภาพให้ชัดมาแนะนำทุกคน ซึ่งจะมีโปรแกรมอะไรบ้างนั้น สามารถติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ

ปรับภาพให้ชัด

7 โปรแกรมปรับภาพให้ชัดแบบง่ายที่ใคร ๆ ก็ทำได้

ปรับภาพให้ชัด

คุณเคยรู้รำคาญเวลาถ่ายรูปแล้วภาพถ่ายดูเบลอหรือไม่? ซึ่งคุณสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดนี้ได้โดยวิธีการ ปรับภาพให้ชัด ด้วยเครื่องมือจาก โปรแกรมปรับภาพเบลอให้ชัด หรือโปรแกรมแต่งรูปทั่วไป การปรับความคมชัดของภาพถ่ายนั้นเป็นขั้นตอนการแก้ไขภาพถ่ายที่ไม่อยู่ในจุดโฟกัส และแก้ไขความเสียของภาพถ่ายจากการสั่นของกล้องหรือความเบลอจากการเคลื่อนไหว 

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการ ปรับภาพให้ชัด ในโปรแกรมแต่งรูปมักจำเป็นต้องใช้ เทคนิคปรับภาพให้ชัด บางประการที่ช่างภาพทุกคนควรรู้ ซึ่งเทคนิคการปรับภาพให้ชัดของแต่ละโปรแกรมนั้นก็จะแตกต่างกันไป ดังนั้นเราจึงได้รวบรวม 7 โปรแกรมที่สามารถช่วยให้คุณปรับภาพให้คมชัดได้ง่าย ๆ ดังนี้

โปรแกรมแต่งรูป LUMINAR 4

เริ่มกันที่โปรแกรม ปรับภาพให้ชัด อย่าง LUMINAR 4 เป็นโปรแกรมแต่งรูปที่มีเครื่องมือเจ๋ง ๆ มากมาย และหนึ่งในนั้นคือเครื่องมือ เพิ่มความชัดของภาพ ด้วยฟีเจอร์และเอฟเฟกต์ โดย LUMINAR 4 มี วิธีปรับภาพให้ชัด อย่างน้อย 3 วิธี ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ นั่นก็คือวิธีสุดคลาสสิกอย่างการใช้ฟีเจอร์ SHARPENING ที่ช่วยเพิ่มความคมชัดของขอบรูปภาพ อีกทั้งยังมีฟิเจอร์อื่น ๆ ที่มีประโยชน์อีกมากมาย 

ปรับภาพให้ชัด

โปรแกรม LUMINAR 4 เป็นโปรแกรมเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ช่วยปรับปรุงรายละเอียดของภาพถ่ายและเพิ่มความคมชัดได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับเปลี่ยนความคมชัดได้ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม โปรแกรมนี้สามารถใช้งานได้บน WINDOWS และ MAC เป็นโปรแกรมเสียเงินซื้อในราคาเริ่มประมาณ 1,680 บาท

โปรแกรมแต่งรูป UNSHAKE 

มาต่อกันที่โปรแกรม ปรับภาพให้ชัด ฟรีอย่าง UNSHAKE เป็นโปรแกรมสำหรับปรับความคมชัดของภาพโดยเฉพาะ เป็นโปรแกรมที่ใช้งานและค่อนข้างไม่ซับซ้อน สามารถช่วยให้คุณ ปรับรูปให้ชัด ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่อม โดย UNSHAKE ทำงานได้ดีสำหรับรูปภาพเว็บไซต์ที่มีความละเอียดต่ำและมีการประมวลผลแบบกลุ่ม แต่ต้องใช้เวลาสักครู่ในการประมวลผลภาพขนาดใหญ่ โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการใช้เครื่องมือง่าย ๆ และสามารถใช้งานได้บน WINDOWS, MAC และ LINUX 

ปรับภาพให้ชัด

โปรแกรมแต่งรูป MOVAVI PHOTO EDITOR

โปรแกรม ปรับภาพให้ชัด ด้วยฟังก์ชัน AI อย่าง MOVAVI PHOTO EDITOR เป็นโปรแกรมแต่งรูปที่ซับซ้อนพร้อมกับฟังก์ชัน AI ที่ช่วยเพิ่มรายละเอียดและ ปรับความชัดของรูป ได้อย่างอัจฉริยะ อีกทั้งยังสามารถปรับปรุงพื้นที่เฉพาะของรูปภาพได้ รวมถึงพื้นที่คุณภาพต่ำหรือเปลี่ยนแปลงสีของวัตถุ 

นอกจากนี้โปรแกรมแต่งรูป MOVAVI PHOTO EDITOR ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ฟีเจอร์การปรับสีและคอนทราสต์ ตลอดจนการลบวัตถุที่ไม่ต้องการในรูปภาพออก และมีเครื่องมือสำหรับกู้คืนรูปภาพเก่า โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับช่างภาพมือสมัครเล่นและคนทั่วไป เป็นโปรแกรมเสียเงินซื้อราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 บาทต่อปี และสามารถใช้งานได้บน WINDOWS และ MAC 

โปรแกรมแต่งรูป GIMP 

อีกหนึ่งโปรแกรม ปรับภาพให้ชัด ฟรี GIMP เป็นโปรแกรมแต่งรูปแบบโอเพนซอร์ส (OPEN SOURCE) ที่มีคุณสมบัติคล้ายกับโปรแกรม PHOTOSHOP ซึ่งโปรแกรมนี้มีเครื่องมือปรับแต่งรูปภาพที่ยอดเยี่ยม พร้อมกับองค์ประกอบสำหรับการออกแบบกราฟิก และเครื่องมือที่จำเป็นต่อการสร้างงานศิลปะ หากคุณรู้วิธี การปรับความคมชัดของภาพ ใน PHOTOSHOP แล้ว คุณจะไม่มีปัญหาในการใช้โปรแกรม GIMP เลย 

ปรับภาพให้ชัด

ในการปรับความคมชัดของรูปภาพโปรแกรม GIMP จะมีตัวกรองที่มีชื่อว่า SHARPAN พร้อมกับพารามิเตอร์สามตัว (RADIUS, AMOUNT และ THRESHOLD) และตัวกรอง HIGH PASS ซึ่งมีขั้นตอนการปรับภาพให้คมชัดคล้ายกับ PHOTOSHOP โดยการใช้เลเยอร์และมาสก์ในการปรับสี คอนทราสต์ และโทนสี GIMP เป็นโปรแกรมฟรีที่สามารถใช้งานได้บน WINDOWS, MAC และ LINUX

โปรแกรมแต่งรูป FOCUS MAGIC

โปรแกรม ปรับภาพให้ชัด อย่าง FOCUS MAGIC เป็นโปรแกรมร์เพิ่มความคมชัดของรูปภาพโดยเฉพาะ ด้วยการใช้เทคโนโลยี DECONVOLUTION ด้านนิติวิทยาศาสตร์ขั้นสูงสำหรับการแก้ไขภาพเบลอให้ชัด แต่ขอแนะนำให้ใช้แก้ไขกับรูปภาพที่ไม่อยู่ในโฟกัส ภาพไม่ชัด และภาพเก่า โปรแกรมนี้สามารถจัดการกับปัญหาของภาพที่เบลอและปัญหากล้องสั่นได้ดี นอกจากนี้ FOCUS MAGIC ยังถือเป็นเครื่องมือเหลาภาพที่มีประสิทธิยอดเยี่ยมที่ถูกใช้โดยหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย กองทัพ หน่วยข่าวกรอง NASA และองค์กรขนาดใหญ่

โปรแกรมแต่งรูป LIGHTROOM

อีกหนึ่งโปรแกรม ปรับภาพให้ชัด ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้อย่าง LIGHTROOM เป็นโปรแกรมแต่งรูปยอดนิยมที่สามารถปรับความคมชัดของภาพได้ โดยโปรแกรมนี้สามารถเปลี่ยนโฟกัสและปรับรูปภาพของคุณให้คมชัดมากยิ่งขึ้นได้ แถมยังช่วยเน้นวัตถุหรือลดความผิดเพี้ยนในรูปภาพได้ด้วยเครื่องมือการลดนอยส์ สำหรับ การปรับภาพให้ชัด LIGHTROOM สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยสุดยอดเครื่องมืออย่าง ADJUSTMENT BRUSH ที่สามารถปรับแต่งรูปภาพเฉพาะจุด ตั้งแต่แต่งสี ปรับแสงสี หรือทำให้ภาพบางส่วนที่เบลอให้คมชัดมากขึ้น 

ปรับภาพให้ชัด

นอกจากนี้โปรแกรม LIGHTROOM ยังมีเครื่องมือการตั้งค่าที่ล้ำสมัยสำหรับการปรับแต่งรูปภาพ พร้อมกับฟิลเตอร์อีกมากมายที่ช่วยทำให้รูปภาพของคุณสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น LIGHTROOM เป็นโปรแกรมเสียเงินซื้อในราคาเริ่มต้น 380.92 บาทต่อเดือน และสามารถใช้งานได้บน WINDOWS และ MAC 

โปรแกรมแต่งรูป PHOTOSHOP

สุดท้ายอีกหนึ่งโปรแกรม ปรับภาพให้ชัด ที่ช่างภาพทุกคนต้องเคยใช้อย่าง PHOTOSHOP เป็นโปรแกรมแต่งรูปที่มีเครื่องมือสำหรับเพิ่มความคมชัดที่หลากหลาย อย่างเช่นเครื่องมือ AI SMART SHARPEN เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับการปรับความคมชัดโดยอัตโนมัติ โดยใช้เทคโนโลยี AI เพื่อทำให้ภาพถ่ายของคุณนั้นมีความคมชัดขึ้นโดยอัตโนมัติ

ปรับภาพให้ชัด

 เมื่อคุณเปิดใช้งาน เครื่องมือนี้จะปรับใช้ตัวกรองทันที คุณจึงสามารถดูตัวอย่างภาพได้อย่างรวดเร็ว หากคุณรู้สึกว่าความคมชัดมันมากเกินไปก็สามารถเปลี่ยนพารามิเตอร์ได้อย่างง่ายดาย PHOTOSHOP เป็นโปรแกรมเสียเงินซื้อในราคาเริ่มต้น 800.36 บาทต่อเดือน และสามารถใช้งานได้ ในคอม ทั้งWINDOWS และ MAC 

ผู้สนับสนุน:

sagame บาคาร่า เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ เครดิตฟรี

Categories
มือใหม่

แนะนำเคล็ดลับถ่ายวิดีโอยังไงให้ดูเป็นมืออาชีพและน่าสนใจ ยอดไลค์กระจาย

หากคุณประกอบอาชีพผู้ผลิตสื่อวิดีโอ คุณคงจะทราบดีว่าการ ถ่ายวิดีโอ ให้สวยงามและน่าสนใจนั้นเป็นเรื่องยากมาก เพราะการถ่ายวิดีโอให้ดูสวยงามและดูมีความเป็นมืออาชีพนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้อุปกรณ์ถ่ายวิดีโอราคาแพงเท่านั้น แต่มันต้องอาศัยองค์ประกอบที่สำคัญหลายอย่าง เช่น มุมกล้อง แสง สี เสียง การตั้งค่ากล้อง และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย 

ถ่ายวิดีโอ

ผู้ผลิตวิดีโอที่ดีทุกคนจำเป็นต้องใส่ใจในรายละเอียดขององค์ประกอบเหล่านี้ รวมไปจนถึงการเรียนรู้เกี่ยวกับเคล็ดลับการ ถ่ายวิดีโอ ให้ดูสวยงามและน่าสนใจ เนื่องจากเคล็ดลับการถ่ายวิดีโอนั้นมีประโยชน์อย่างมากในการช่วยทำให้วิดีโอของคุณนั้นสมบูรณ์แบบและทำให้กระบวนการถ่ายวิดีโอของคุณง่ายยิ่งขึ้น ดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมเคล็ดลับถ่ายวิดีโอยังไงให้ดูเป็นมืออาชีพและน่าสนใจมาแนะนำทุกคน เรารับรองได้เลยว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยทำให้ยอดวิวและยอดไลค์ของวิดีโอคุณพุ่งกระฉูดแน่นอนค่ะ แต่จะมีเคล็ดลับอะไรบ้างนั้น ติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ 

เคล็ดลับถ่ายวิดีโอยังไงให้ดูมีความเป็นมืออาชีพและน่าสนใจ 

ถ่ายวิดีโอ

เราเชื่อว่าการ ถ่ายวิดีโอ ให้ดูสมบูรณ์แบบและดูมีความเป็นมืออาชีพนั้นเป็นเรื่องมากสำหรับมือใหม่ ซึ่งการถ่ายวิดีโอให้ดูสวยงามและน่าสนใจจำเป็นต้องใช้ทั้ง เทคนิคถ่ายวิดีโอ เพื่อช่วยทำให้ภาพในวิดีโอนั้นดูดีที่สุด และ เทคนิคมุมกล้องถ่ายวิดีโอ เพื่อช่วยทำให้ภาพในวิดีโอนั้นดูสวยงามและสามารถดึงดูดความสนใจของผู้รับชมได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้การเลือกใช้ โปรแกรมถ่ายวิดีโอ ที่ดีก็ยังมีส่วนทำให้การถ่ายวิดีโอของคุณนั้นเป็นเรื่องง่ายขึ้นอีกด้วย เนื่องจากโปรแกรมเหล่านั้นจะช่วยปรับปรุงคุณภาพของวิดีโอให้ดีขึ้น และนี่คือเคล็ดลับถ่ายวิดีโอให้ดูสวยงามและน่าสนใจที่ผู้ผลิตวิดีโออาชีพและมือใหม่ไม่ควรพลาด

การใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายวิดีโอ

ถ่ายวิดีโอ

ในปัจจุบันถือว่าโชคดีอย่างมากที่คุณได้อยู่ในยุคที่สามารถ ถ่ายวิดีโอ ได้ด้วยกล้องดิจิทัลคุณภาพสูง แต่กล้องบางตัวอาจจะมีราคาที่แพงเกินไปสำหรับมือใหม่ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะคุณสามารถใช้กล้อง ถ่ายวิดีโอด้วยโทรศัพท์ ได้ง่าย ๆ โดยพิจารณาจาก เทคนิคถ่ายวิดีโอ iPhone หรือ Android ของคุณ ดังนี้

  • เลือกใช้กล้องหลังจะทำให้การ ถ่ายวิดีโอ iPhone ชัดขึ้น และทำให้ได้ภาพที่มีสมบูรณ์แบบมากกว่ากล้องหน้า
  • การถ่ายวิดีโอในโหมดแนวนอนจะทำให้ได้ดูภาพมีมุมมองที่กว้างขึ้น
  • หากคุณมีงบประมาณ แนะนำให้ซื้อกล้องที่มีระบบกันสั่นหรือใช้ขาตั้งกล้องในการถ่ายวิดีโอ

การวางแผนสำหรับการถ่ายวิดีโอ

หากคุณกำลังจะ ถ่ายวิดีโอ เช่น ถ่ายวิดีโอสินค้า หรือ ถ่ายวิดีโอหนังสั้น คุณจะมีอิสระมากขึ้นในการวางแผนการวิดีโอแบบเต็มตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งหากคุณต้องการให้ทุกอย่างดูมีความเป็นมืออาชีพ เราขอแนะนำให้สร้าง Storyboard ของวิดีโอพร้อมภาพประกอบฉากต่าง ๆ ตามลำดับก่อน เนื่องจากการสร้าง Storyboard จะช่วยทำให้คุณเห็นภาพฟุตเทจสุดท้ายล่วงหน้าและรูปแบบของวิดีโอที่คุณต้องการ โดย Storyboard จะทำหน้าที่เป็นแนวทางระหว่างการถ่ายวิดีโอและการตัดต่อวิดีโอ แถมยังช่วยให้คุณสามารถกำหนดระยะเวลาในการถ่ายทำได้และช่วยทำให้ค้นหาสถานที่ที่คุณต้องการได้ง่ายขึ้น พร้อมกับการเตรียมกล้องที่เหมาะสมที่จะใช้สำหรับถ่ายทำได้อีกด้วย

การถ่ายวิดีโอที่มีแสงสว่างเพียงพอ

ถ่ายวิดีโอ

อีกหนึ่งเคล็ดลับที่สำคัญสำหรับการ ถ่ายวิดีโอ ให้สวยงามและดูเป็นมืออาชีพที่ไม่ว่าคุณจะทำการ ถ่ายวิดีโอด้วยมือถือ หรือกล้องดิจิทัลคุณภาพสูง ก็ไม่ควรมองข้ามสิ่งนี้ นั่นก็คือการจัดการกับแสงสว่างให้เพียงพอ โดยการกำหนดประเภทของไฟที่คุณต้องการและตำแหน่งที่คุณจะจัดวางไฟ เพื่อทำให้ผลลัพธ์ของภาพวิดีโอเป็นไปตามความต้องการของคุณ หรือหากคุณมีงบที่จำกัดแนะนำให้เลือกใช้แสงจากโคมไฟและดวงอาทิตย์

การตั้งค่าสมดุลแสงขาวของกล้อง

อีกหนึ่งความท้าทายของผู้ผลิตวิดีโอมืออาชีพหลายคนที่ต้องเจอ นั่นก็คือการแก้ไขอุณหภูมิและสีของภาพ ถ่ายวิดีโอ ซึ่งหากคุณใช้กล้องมากกว่าหนึ่งตัวก็จะสังเกตเห็นว่า กล้องแต่ละยี่ห้อหรือยี่ห้อเดียวกันมักจะมีอุณหภูมิสีเริ่มต้นที่แตกต่างกัน เช่น Sony และ Canon ดังนั้นก่อนเริ่มถ่ายวิดีโอคุณควร ตั้งค่าถ่ายวิดีโอ ให้เรียบร้อยก่อน เพื่อทำให้สีของภาพในวิดีโอดูเป็นมืออาชีพและสม่ำเสมอยิ่งขึ้น แถมยังช่วยเร่งกระบวนการแก้ไขและลดต้นทุนหลังการผลิตในอนาคตได้

การจับเวลาถ่ายวิดีโอเป็นช็อต

ถ่ายวิดีโอ

นี่คือเคล็ดลับการ ถ่ายวิดีโอ ระดับมืออาชีพที่คุณอาจจะยังไม่รู้ นั่นคือการจับเวลา ถ่ายวิดีโอเป็นช็อต โดยทั่วไปการถ่ายเป็นช็อตไม่ควรปล่อยให้หนึ่งช็อตนั้นยืดยาวเกิน 5-10 วินาที หากหนึ่งช็อตยืดยาวเกินไปจะลดความสนใจของผู้ชม ในขณะเดียวกันการถ่ายภาพนิ่งควรเป็นเวลาอย่างน้อย 10 วินาที และไม่ห้ามแพนหรือซูมก่อนเวลา ซึ่งการจับเวลาเหล่านี้จะช่วยลดการเคลื่อนไหวของกล้อง และลดเวลาในการบันทึกวิดีโอ

การเปิดรับแสงกล้อง

ถ่ายวิดีโอ

อีกหนึ่งปัญหาของการ ถ่ายวิดีโอ ที่มักเกิดขึ้นจากการใช้กล้องวิดีโอหลายตัวในการถ่ายทำฉากหนึ่ง ๆ ก็คือสีของวิดีโอที่ไม่สม่ำเสมอในแง่ของ การเปิดรับแสง ดังนั้นก่อนถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหลายตัวควรตั้งค่าการรับแสงแบบเดียวกันก่อน เช่น อัตราเฟรม ระดับ ISO และรูรับแสง สำหรับมือใหม่การตั้งค่าเหล่านี้อาจจะเป็นเรื่องยาก แต่คุณสามารถควบคุมปัญหานี้ได้โดยการใช้แสงที่เท่ากัน และใช้กล้องตัวเดียวกันโดยล็อคค่าแสงไว้ แต่อาจจะใช้เวลาในการบันทึกนานกว่าปกติ 

การใช้เทคนิคมุมกล้องแบบภาพยนตร์

ถ่ายวิดีโอ

การ ถ่ายวิดีโอ ด้วยเทคนิคมุมกล้องแบบภาพยนตร์เป็นการถ่ายวิดีโอที่ผสมผสานการเคลื่อนไหวของกล้องจะช่วยทำให้เนื้อหาและภาพในวิดีโอดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้มากขึ้น หากคุณอยาก ถ่ายวิดีโอสวย ๆ หรือยกระดับการถ่ายวิดีโอของคุณ เพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้ชม คุณอาจจะต้องการใช้เทคนิคการถ่ายทำภาพยนตร์


อย่างเช่น การถ่ายวิดีโอแบบภาพมุมดัตช์ โดยการหมุนกล้องไปด้านใดด้านหนึ่งแบบเอียงแนวตั้ง ซึ่งช็อตนี้จะแสดงให้เห็นถึงสภาวะทางอารมณ์หรือจิตใจที่ไม่มั่นคงของตัวละคร และการแพนกล้องจะเป็นการถ่ายวิดีโอแบบเอียงในแนวนอน เพื่อแสดงสภาพแวดล้อมโดยรอบ

การเลือกกล้องที่มีคุณภาพสำหรับถ่ายวิดีโอ

ถ่ายวิดีโอ

สุดท้ายการเลือกกล้อง ถ่ายวิดีโอ ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ คือ กล้องถ่ายวิดีโอ ที่คุณรู้จักการใช้งาน ถึงแม้ว่าคุณจะอยากใช้งานกล้องที่มีคุณภาพและราคาแพง แต่ในตลาดกล้องก็เต็มไปด้วยกล้อง DSLR และกล้องมิเรอร์เลสที่สามารถถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงได้เช่นกัน


หากคุณต้องการเลือกกล้องระดับพื้นฐาน เราขอแนะนำให้พิจารณาแบรนด์ที่มีเลนส์ให้เลือกมากมาย มีชื่อเสียงที่ดี ละข้อมูลจำเพาะที่สามารถแข่งขันกับยี่ห้ออื่น ๆ ได้ เช่น Canon, Sony และ Nikon เนื่องจากทั้ง 3 แบรนด์เป็นแบรนด์ชั้นนำที่ควรคู่ต่อการได้รับการพิจารณา

Categories
เสียง

แนะนำ 5 แอพทำเพลงฟรียอดนิยม ใช้งานง่าย คนทำเพลงไม่เป็นก็ใช้ได้

ใครที่ทำงานเกี่ยวกับการผลิตเพลง หรือคนที่สนใจอยากที่จะผลิตเพลง ต้องไม่พลาดกับ 5 แอพทำเพลง ยอดนิยมที่ช่วยให้กระบวนการทำเพลงของคุณง่ายขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาบนโทรศัพท์มือถือของคุณ ซึ่งในปัจจุบันนักร้องหรือผู้ผลิตผลงานเพลงหลายคนมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินทาง เช่น การเดินทางไปงานร้องเพลงหรือเดินทางไปต่างจังหวัดและต่างประเทศ บางครั้งต้องเข้าสตูดิโอ แต่เครื่องมือทำเพลงไม่พร้อมใช้งาน 

ในกรณีเช่นนี้โชคดีที่เกิดขึ้นในยุคของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ช่วยทำให้คุณเข้าถึงแอพทำเพลงได้อย่างง่ายดาย โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมามีผู้ใช้บันทึกแทร็กเพลงบนแอพทำเพลงจำนวนมาก ดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวม 5 แอพทำเพลง ฟรียอดนิยมที่ใช้งานง่ายมาแนะนำทุกคน ซึ่งจะมีแอพไหนที่น่าสนใจบ้างนั้น สามารถติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ 

สุดยอด 5 แอพทำเพลงฟรียอดนิยมที่ใช้งานง่าย

5 แอพทำเพลง

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้เกิดการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับผลิตผลงานเพลงที่มีประสิทธิภาพมากมาย ซึ่ง 5 แอพทำเพลง ที่เราได้รวบรวมมาไว้ในบทความนี้ก็ล้วนเป็น โปรแกรมทำเพลง ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยเครื่องมือสำหรับการผลิตเพลงให้เลือกใช้งานมากมายและใช้งานง่าย แถมยังเป็น แอพทำเพลงฟรี ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง 

5 แอพทำเพลง

โดยทั่วไปนักแต่งเพลงมืออาชีพส่วนใหญ่มักจะใช้ แอพทำเพลง PC ที่มีคุณสมบัติที่หลากหลาย แต่สำหรับมือใหม่นั้นมันคงเป็นเรื่องยากที่จะใช้เครื่องมือที่ซับซ้อน โชคดีที่ตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถทำเพลงเองได้ง่าย ๆ ด้วยแอพทำเพลงที่มีเครื่องมือที่ครอบคลุมและใช้งานง่ายให้เลือก นั่นจึงไม่แปลกที่นักทำเพลงมืออาชีพหลายคนชื่นชอบ 5 แอพทำเพลง เหล่านี้ อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ใช้มือใหม่อีกด้วย โดยมีทั้ง แอพทำเพลง ANDROID และ แอพทำเพลง IOS ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดแอพเหล่านี้ได้ง่าย ๆ ในร้านค้า APP STORE และ GOOGLE PLAY และนี่คือ 5 แอพทำเพลงฟรียอดนิยมที่ใช้งานง่าย 

GARAGEBAND

5 แอพทำเพลง

เริ่มต้นกันที่หนึ่งใน 5 แอพทำเพลง ยอดนิยมที่มีชื่อเรียกว่า GARAGEBAND เป็น แอพทำเพลงในคอม และโทรศัพท์ที่สามารถใช้งานได้บน MAC และ IOS แอพนี้เป็นอีกหนึ่งแอพฟรีที่เป็นตัวเลือกที่ดีสุด โดยคุณสามารถดาวน์โหลด GARAGEBAND ได้ง่าย ๆ ใน APP STORE ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็นนักทำเพลงมืออาชีพ หรือนักทำเพลงมือใหม่ก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายด้วยเครื่องมือที่ยอดเยี่ยม และไม่ซับซ้อน 

GARAGEBAND เป็นหนึ่งใน 5 แอพทำเพลง ที่ง่ายที่สุดสำหรับการทำเพลง ถึงแม้ว่ามันจะดูเรียบง่าย แต่มันก็มีคุณสมบัติที่น่าทึ่งมากมาย เช่น การเล่นเพลง การบันทึกเสียง และการแชร์เพลง ซึ่งไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนการทำเพลงของคุณก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย เนื่องจากแอพนี้มีเครื่องดนตรีเสมือนจริงหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งาน และคุณยังสามารถสร้างเพลงได้มากถึง 255 แทร็ก อีกทั้งยังมีคลังเสียงใหม่ ๆ อีกมากมาย ทำให้คุณเลือกหาและดาวน์โหลดเสียง ลูป และSAMPLING ฟรีได้ง่าย ๆ จากคอลเลกชันที่สร้างขึ้นด้วยโปรดิวเซอร์ชื่อดังระดับโลก

BANDLAB

5 แอพทำเพลง

มาต่อกันที่หนึ่งใน 5 แอพทำเพลง ยอดนิยมที่มีชื่อเรียกว่า BANDLAB เป็น แอพทำเพลงในโทรศัพท์ฟรี โดยสามารถใช้งานได้ทั้งระบบ ANDROID และ IOS แอพนี้จะเปลี่ยนโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณให้เป็นสตูดิโอที่มีเครื่องมือสำหรับใช้ทำเพลงระดับมืออาชีพถึง 120 ชิ้น ทำให้คุณสามารถบันทึกเพลง มิกซ์เพลง และทำให้กระบวนการทำเพลงของคุณนั้นเป็นไปได้อย่างง่ายดายตั้งแต่ต้นจนจบด้วย MIX EDITOR ที่ดีที่สุด นอกจากนี้แอพ BANDLAB ยังสามารถใช้เป็นแอพทำเพลง PC ฟรีบนเดสก์ท็อป (DESKTOP) ทำให้คุณสามารถทำเพลงได้ทุกที่ทุกเวลาและสามารถใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ 

BEATMAKER 3

5 แอพทำเพลง

อีกหนึ่ง 5 แอพทำเพลง ยอดนิยมที่มีชื่อเรียกว่า BEATMAKER 3 เป็น แอพสร้างบีท ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดี ทำให้คุณสามารถทำเพลงได้อย่างง่ายดายบนโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณ โดยแอพนี้มีคุณสมบัติสำหรับการทำเพลงมากมาย เช่น ซีเควนเซอร์ (MUSIC SEQUENCER) มาตรฐานแบบแป้นพิมพ์ คลังเสียง และเอฟเฟกต์ที่น่าทึ่งมากมายด้วยการสนับสนุน AUV3 และ IAA อย่างเต็มรูปแบบ

BEATMAKER 3 มีเวิร์กโฟลว์ที่เรียบง่ายที่ช่วยทำให้กระบวนการทำเพลงของคุณเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยแอพนี้มีเครื่องมือที่ช่วยทำให้คุณสร้างบีทได้อย่างง่ายดาย เช่น การเล่นซ้ำ การบันทึก สเกลคีย์&คอร์ด และการควบคุมมาโคร ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ของคุณได้ถึง 10 เท่า และทำให้คุณควบคุมทุกอย่างด้วยอุปกรณ์ MIDI อัจฉริยะ นอกจากนี้ BEATMAKER 3 ยังมีระบบมอดูเลตและการจัดเลเยอร์เต็มรูปแบบด้วย ELASTIQUE LIVE STRETCH และ PITCH SHIFT ของ ZPLANE ทำให้คุณสามารถปรับลูปและเครื่องดนตรีให้เข้ากับจังหวะ 

KORG GADGET 2 LE

5 แอพทำเพลง

มาต่อกันที่อีกหนึ่งใน 5 แอพทำเพลง ยอดนิยมที่มีชื่อเรียกว่า KORG GADGET 2 LE เป็นโปรแกรมทำเพลง IOS ที่น่าประทับใจพอ ๆ กับแอพทำเพลงฟรีข้างต้น GADGET คือ เวิร์กสเตชันของเสียงที่ครบครัน โดยแอพนี้มีเครื่องมือสังเคราะห์เสียง (SYNTHESIZER) แบบลีดและเบส มีดรัมแมชชีน (DRUM MACHINE) แบบแอนะล็อกและแบบแซมปลิง และมีแซมเพลอร์ (SAMPLER) สำหรับการบันทึกเสียงภายนอก 

KORG GADGET 2 LE มีซีเควนเซอร์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการจัดลำดับดนตรีทั้งหมดของคุณให้เข้าด้วยระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบและรองรับ MIDI นอกจากนี้แอพนี้ยังมีชุมชนในตัวที่ทำให้คุณสามารถแชร์ผลงานเพลงของคุณและรับฟังผลงานเพลงของคนอื่นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจได้ KORG GADGET 2 LE เป็นเวิร์กสเตชันเพลงสำหรับ IPHONE และ IPAD ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและฟรีอีกด้วย

N-TRACK STUDIO DAW

5 แอพทำเพลง

สุดท้ายแอพหนึ่งใน 5 แอพทำเพลง ยอดนิยมที่มีชื่อเรียกว่า N-TRACK STUDIO DAW เป็นแอพทำเพลง ANDROID ฟรีโดยการใช้ไมโครโฟนในตัวหรือการ์ดเสียงภายนอกเพื่อบันทึกเสียงและจัดเลเยอร์ด้วยการใช้แป้นพิมพ์และเครื่องมือภายในของแอป ซึ่งแอพนี้ในเวอร์ชันฟรีประกอบด้วยแทร็กมากถึง 11 แทร็กพร้อมตัวเลือกที่ต้องซื้อถึงจะเปลี่ยนให้ใช้งานได้ไม่จำกัด พร้อมกับเอฟเฟกต์อีกมากมาย 

N-TRACK STUDIO เป็นแอพทำเพลงแบบพกพาที่ทำให้โทรศัพท์ ANDROID ของคุณกลายเป็นสตูดิโอบันทึกเสียงและ BEAT MAKER ที่สมบูรณ์แบบ โดยแอพนี้มีคุณสมบัติหลักที่ยอดเยี่ยมมากมาย เช่น การบันทึกแทร็กเสียงสเตอริโอและโมโน ตัวสร้างจังหวะลำดับขั้น และแทร็ก MIDI ใน SYNTHS เป็นต้น นอกจากนี้คุณยังสามารถแชร์เพลงออนไลน์ในชุมชน SONGTREE เพื่อทำงานร่วมกับศิลปินคนอื่น ๆ ได้อีกด้วย

สนับสนุนโดย

PAPERINDUSTRYMAG.COM

sagame

Categories
มือใหม่

แนะนำ 10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ ทำคลิปเจ๋ง ๆ ได้ง่าย ๆ ฟรีไม่ต้องเสียเงิน

คุณรู้หรือไม่? เมื่อก่อนวิดีโอยอดนิยมที่คุณดูบน YOUTUBE มักผ่านกระบวนการตัดต่อบนพีซีขนาดใหญ่มาแล้ว แต่ตอนนี้คุณสามารถตัดต่อวิดีโอได้ง่าย ๆ ด้วย 10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ สุดเจ๋งทั้ง ANDROID และ IPHONE ที่เราได้รวบรวมมาไว้ในบทความนี้ ในปัจจุบันแอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือได้รับความนิยมอย่างมาก สังเกตได้จากจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากแอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือมีเครื่องมือการตัดต่อวิดีโอที่มีความสามารถมากมาย สร้างความน่าประทับใจให้แก่ผู้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย

10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ

แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือพบางตัวเป็นแบบใช้เทมเพลตที่สามารถเลือกรูปภาพและวิดีโอของคุณ เพื่อสร้างวิดีโอโซเชียลสุดเจ๋งที่น่าสนใจ พร้อมกับคุณสมบัติส่วนอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้คุณสามารถควบคุมการตัดต่อวิดีโอได้เกือบเท่ากับโปรแกรมตัดต่อวิดีโอบนเดสก์ท็อปที่มีความซับซ้อน นอกจากนี้แอพตัดต่อวิดีโอที่เรารวบรวมมาไว้ในบทความนี้ยังใช้งานง่ายกว่าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอบนเดสก์ท็อปทำให้แอพเหล่านี้ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับมือใหม่และมือสมัครเล่น แถมยังฟรีไม่เสียเงินอีกด้วย แต่จะมีแอพอะไรบ้างนั้น สามารถติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ

10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือสุดเจ๋งที่ควรมีติดเครื่องไว้

10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ

คุณกำลังมองหาแอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือใช่หรือไม่? ในปัจจุบันมีแอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือใน PLAY STORE และ APP STORE เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้าคุณไม่รู้จะใช้แอพไหนดี? เราขอแนะนำ 10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ สุดเจ๋งที่เหมาะสำหรับทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต โดยแอพด้านล่างนี้เป็น แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือฟรี ที่มีทั้งสามารถใช้งานได้กับระบบ IOS และ ANDROID พร้อมทั้งมีเครื่องมือที่ล้ำสมัยและชาญฉลาดมากมาย อีกทั้งยังเป็นแอพยอดนิยมที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก และนี่คือรายชื่อของแอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ ได้แก่

1. แอพ CAPCUT

10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ

เริ่มต้นกันที่หนึ่งใน 10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ สุดเจ๋งอย่าง แอพตัดต่อวิดีโอ CAPCUT เป็น โปรแกรมตัดต่อวิดีโอบนมือถือ สำหรับ ANDROID ที่จะช่วยทำให้การตัดต่อวิดีโอภาพและเสียงของคุณง่ายขึ้น แอพนี้สามารถเพิ่มคลิป ตัดคลิป และเพิ่มเสียงจากไลบรารี่เพลงและเสียงที่ใหญ่มากเข้าไปในวิดีโอของคุณได้ รวมถึงสติ๊กเกอร์และฟอนต์อื่น ๆ อีกมากมาย เมื่อคุณตัดวิดีโอเสร็จแล้ว ยังสามารถแชร์วิดีโอของคุณบนโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่น ๆ ได้อีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ CAPCUT ยังมีฟีเจอร์ที่จำเป็นสำหรับการตัดต่อวิดีโอและใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน

2. แอพ ADOBE PREMIERE RUSH FOR VIDEO

10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ

อีกหนึ่งใน 10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ สุดเจ๋งอย่างแอพ ADOBE PREMIERE RUSH FOR VIDEO เป็นแอพตัดต่อวิดีโอออนไลน์บนมือถือและเดสก์ท็อปฟรีทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ทุกที่ทุกเวลา โดยแอพนี้สามารถถ่ายทำวิดีโอ ตัดต่อคลิป และแชร์วิดีโอคุณภาพสูงได้ตั้งแต่โทรศัพท์ไปจนถึงคอมพิวเตอร์ มาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษ เช่น การเพิ่มการเปลี่ยนวิดีโอ มีเทมเพลตให้เลือกหลากหลาย การปรับปรุงสีสันวิดีโอ การนำเข้าและปรับเสียง และสามารถแชร์วิดีโอของคุณได้ทุกที่

3. แอพ VN

10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ

มาต่อกันที่แอพหนึ่งใน 10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ สุดเจ๋งอย่างแอพ VN เป็น แอปตัดต่อวิดีโอลง TIKTOK ยอดฮิตสำหรับคนที่ชื่นชอบการตัดต่อวิดีโอที่มี EFFECT ให้เลือกมากมายและใช้งานง่าย โดยเครื่องมือการใช้งานจะคล้าย ๆ กับแอพ CAPCUT แต่แอพ VN มี EFFECT ที่ดูลื่นไหลกว่า แอพนี้สามารถแบ่งเลเยอร์ของคลิปและภาพได้และที่สำคัญสามารถใช้ FONT ภาษาไทยได้ด้วยค่ะ

4. แอพ VLLO

10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ

อีกหนึ่งใน 10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ สุดเจ๋งอย่างแอพ VLLO เป็น แอพตัดต่อวิดีโอ ไม่มีลายน้ำ โดยแอพนี้มีคุณสมบัติพิเศษมากมายไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มและเรียบเรียงวิดีโอ การปรับความเร็ว และการเบลอภาพ อีกทั้งยังสามารถใส่เสียงเพลงประกอบและใส่ข้อความได้อีกด้วย มาพร้อมกับฟีเจอร์สุดปังอีกมากมาย แถมยังใช้งานง่ายและสามารถใช้งานได้ทั้งบนระบบ IOS และ ANDROID

5. แอพ INSHOT

10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ

มาต่อกันที่อีกหนึ่งใน 10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ สุดเจ๋งอย่างแอพ INSHOT เป็น APP สำหรับตัดต่อวิดีโอ ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยคุณสมบัติพิเศษอย่างมืออาชีพ โดยแอพนี้สามารถเพิ่มเพลงลงในวิดีโอและเพิ่มข้อความได้ อีกทั้งยังสามารถปรับเคลื่อนไหวเร็วหรือช้าได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถครอบตัดวิดีโอได้อย่างง่ายดายและส่งออกวิดีโอได้โดยไม่สูญเสียคุณภาพพร้อมกับแชร์วิดีโอของคุณไปยัง INSTAGRAM, YOUTUBE และ TIKTOK ได้อย่างง่ายดาย 

6. แอพ KINEMASTER

10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ

อีกหนึ่งใน 10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ สุดเจ๋งอย่างแอพ KINEMASTER เป็น แอพตัดต่อวิดีโออย่างง่าย ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่เริ่มต้นตัดต่อวีดีโอ ตัดต่อหนังสั้นก็สามารถใช้งานได้ง่าย ๆ ด้วยเครื่องมือตัดต่อวีดีโอระดับเหนือชั้นที่ครอบคลุมไปด้วย เทคนิคพิเศษต่าง ๆ มากมาย เช่น การเรียบเรียงวิดีโอ การเพิ่มเสียง และอื่น ๆ อีกมากมาย เมื่อตัดต่อวิดีโอเสร็จ คุณสามารถบันทึกวิดีโอลงในสมาร์ทโฟน หรือแชร์วิดีโอไปบนโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่น ๆ ได้อีกด้วย

7. แอพ FILMORAGO

10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ

มาต่อกันที่อีกหนึ่งใน 10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ สุดเจ๋งอย่างแอพ FILMORAGO เป็น แอพตัดต่อบนมือถือ ที่สามารถตัดต่อวิดีโอและไฟล์มีเดียได้อย่างง่ายดาย โดยแอพนี้มีเครื่องมือพิเศษมากมาย เช่น การตัดคลิป รวมคลิป ครอปคลิป หรือหมุนคลิป ก็สามารถทำได้ รวมไปจนถึงการเพิ่มเสียงเพลง FILMORAGO เป็นอีกหนึ่งแอพที่สามารถเลือกใช้งานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก

8. แอพ QUIK

10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ

อีกหนึ่งใน 10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ สุดเจ๋งอย่างแอพ QUIK เป็น แอพตัดต่อวิดีโอ ANDROID และ IOS ที่ทำให้คุณสร้างวิดีโอเจ๋ง ๆ ได้ง่าย ๆ โดยการเลือกรูปภาพและคลิปวิดีโอที่ต้องการแก้ไข สามารถใส่เอฟเฟ็กต์สวย ๆ แล้วซิงค์ทุกอย่างให้เข้ากับจังหวะเพลงได้อย่างง่ายดายและมีฟีเจอร์ฟังก์ชันครบครัน เหมาะสำหรับมือใหม่หรือผู้ใช้งานทั่วไป

9. แอพ WEVIDEO

10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ

มาต่อกันที่อีกหนึ่งใน 10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ สุดเจ๋งอย่างแอพ WEVIDEO เป็นแอพตัดต่อวิดีโอฟรีที่มีคุณสมบัติพิเศษระดับมืออาชีพ โดยคุณสามารถเลือกวิดีโอหรือภาพมาจากอัลบั้มของคุณหรือถ่ายแบบสด ๆ ได้เลย และสามารถแก้ไขปรับแต่ง ใส่ข้อความ คำบรรยาย เสียงต่าง ๆ ได้เหมือนแอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือทั่วไปและใช้งานได้ง่าย

10. แอพ IMOVIE

10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ

สุดท้ายหนึ่งใน 10 แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือ สุดเจ๋งอย่างแอพ IMOVIE เป็น แอพตัดต่อวิดีโอ IOS ฟรี ที่ไม่เหมือนใครและมีรูปแบบการใช้งานที่ง่ายมาก ๆ ใครที่ใช้ IPHONE และ IPAD คงจะรู้จักกับแอพนี้ดี ถึงแม้แอพนี้จะมีเครื่องมือเมนูไม่กี่ชิ้นแต่มันก็สามารถช่วยให้คุณตัดต่อวิดีโอเจ๋ง ๆ ได้ง่าย ๆ อีกทั้งยังสามารถแทรกเสียง ซาวด์เอฟเฟ็กต์หรือเพลงจากเครื่องของคุณได้อีกด้วย แถมยังมีธีมต่าง ๆ ให้เลือกอีกมากมาย

 

ภาพจาก:

https://dividedcities.com/archives/2674
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.wondershare.filmorago&hl=en_US&gl=US

ผู้สนับสนุน: sa gaming เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเยอะที่สุด

Categories
เสียง

แนะนำ 5 แอพตัดต่อเสียงบนมือถือ Android / iPhone ใช้งานง่าย ที่ไม่ควรพลาด

คุณภาพของเสียงที่ดี ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญที่ทำให้วิดีโอหรือภาพยนตร์ของคุณสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ดีมากขึ้น โดยทั่วไปนักตัดต่อวิดีโอ หรือผู้ผลิตเพลงระดับมืออาชีพมักจะใช้โปรแกรมตัดต่อเสียงในคอม แต่หากมือใหม่หรือบุคคลทั่วไปต้องการที่จะตัดต่อเสียงด้วยเอง คุณสามารถใช้แอพ ตัดต่อเสียงบนมือถือ ได้ง่าย ๆ 

ซึ่งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะมีคุณสมบัติช่วยที่ทำให้คุณบันทึกเสียงได้ง่าย ๆ ทุกที่ทุกเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่ Android ไม่มีก็คือเครื่องมือการแก้ไขเสียงของคุณ จนบางครั้งคุณอาจจะต้องตัดคลิปหรือจัดเรียงส่วนของเสียงใหม่ ดังนั้นวันนี้เราจึงรวบรวม 5 แอพ ตัดต่อเสียงบนมือถือ Android / iPhone ที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แถมยังใช้งานได้ง่าย มาแนะนำทุกคน แต่จะมีโปรแกรมอะไรบ้างนั้น ติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ

5 แอพตัดต่อเสียงบนมือถือ Android / iPhone ที่ดีที่สุด แถมยังใช้งานได้ง่าย

ตัดต่อเสียงบนมือถือ

โดยทั่วไปการ ตัดต่อเสียงบนมือถือ มักจะใช้หลายแทร็ก ซึ่งถ้าให้ดีแทร็กเสียงจำเป็นต้องมีสิ่งต่าง ๆ รวมอยู่ด้วย เช่น ความสมดุลของเสียง และอื่น ๆ เป็นต้น เพื่อคุณภาพเสียงที่ดีและมีประสิทธิภาพ โดยส่วนใหญ่ผู้ผลิตเพลงหรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการตัดต่อเสียงมักใช้โปรแกรม ตัดต่อเสียงในคอม  แต่สำหรับมือใหม่หรือบุคคลทั่วไปอาจจะติดปัญหาการใช้งาน เนื่องจากโปรแกรมตัดต่อเสียงมืออาชีพส่วนใหญ่มักมีเครื่องมือการใช้งานที่ค่อนข้างซับซ้อน

ตัดต่อเสียงบนมือถือ

แต่วันนี้คุณไม่จำเป็นต้องมีคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรม การตัดต่อเสียง ที่มีคุณสมบัติเมรูปแบบก็สามารถ ตัดต่อเสียง เองได้ง่าย ๆ โดยการใช้ เทคนิคการตัดต่อเสียง บนแอพ ตัดต่อเสียงบนมือ ถือ Android / iPhone แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าแอพตัดต่อเสียงบนมือถือแอพไหนดีที่สุด? วันนี้เราก็มีคำตอบมาให้กับทุกคน และนี่ก็คือ 5 แอพ ตัดต่อเสียงดีที่สุด บนมือถือ 

Lexis Audio Editor

ตัดต่อเสียงบนมือถือ

เริ่มต้นด้วยแอพ ตัดต่อเสียงบนมือถือ ที่มีชื่อว่า Lexis Audio Editor เป็น แอพตัดต่อเสียงในโทรศัพท์ ที่ช่วยทำให้คุณสามารถแก้ไขหรือบันทึกเสียงพูดคุยและเพลงของคุณได้อย่างง่ายดาย โดยแอพนี้มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเครื่องมือตัดต่อที่หลากหลาย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการใช้เครื่องมือตัดต่อที่ไม่ซับซ้อน

แอพ Lexis เป็น ตัดต่อเสียงบนมือถือ ที่มีคุณสมบัติการตัดต่อเสียงที่ยอดเยี่ยมมากมาย เช่น การคัดลอก, การตัดซาวด์, การวาง, การควบคุมระดับเสียง, มีตัวลดเสียงรบกวน, มีเครื่องมือมิกเซอร์ และมีเอฟเฟกต์ให้เลือกใช้งานอีกมากมาย โดยคุณสามารถปรับแต่งเพลงและเสียงของคุณด้วยแอพนี้ได้ง่าย ๆ อย่างรวดเร็วบนอุปกรณ์ Android ของคุณ พร้อมกับมีรูปแบบไฟล์เสียง ได้แก่ WAV, M4A, AAC, FLAC และ WMA ส่วนรูปแบบไฟล์วิดีโอ คือ mp4, 3gp และ 3g2 ซึ่งแอพนี้เป็นฟรี แต่หากต้องการเปิดใช้งานเครื่องมือสุดพิเศษและลบโฆษณาคุณอาจจะต้องเสียเงิน เพื่อเปิดการใช้งาน

WavePad Audio Editor

ตัดต่อเสียงบนมือถือ

มาต่อกันที่แอพ ตัดต่อเสียงบนมือถือ ที่มีชื่อว่า WavePad Audio Editor เป็นแอพ ตัดต่อไฟล์เสียง ต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติระดับมืออาชีพที่หลากหลายสำหรับตัดต่อเสียงและสร้างเพลงของคุณได้ง่าย ๆ โดยแอพนี้มีคุณสมบัติที่น่าทึ่งมากมายไม่ว่าจะเป็น การตัดเสียง, ปรับแต่งผสานเสียง, คัดลอก วาง ลบ และเปลี่ยนเครื่องมือเอฟเฟกต์ เช่น การบีบอัด การทำให้เสียงเป็นมาตรฐานเดียวกัน การขยายเสียง การลดสัญญาณรบกวน เป็นต้น 

นอกจากนี้แอพนี้ยังสามารถบันทึกเสียงได้โดยตรงในแอพ และยังอนุญาตให้แก้ไขรูปแบบไฟล์เสียงต่าง ๆ ได้ รวมไปจนถึงแทร็กเสียงทั้งหมดของคุณอีกด้วย Wavepad Audio Editor มีเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานฟรีมากมาย แต่หากต้องการเปิดใช้งานเครื่องมือสุดพิเศษเพิ่มเติมคุณอาจจะต้องเสียเงิน เพื่อเปิดการใช้งาน

Voice Pro

ตัดต่อเสียงบนมือถือ

อีกหนึ่งแอพ ตัดต่อเสียงบนมือถือ ที่ยอดเยี่ยมอย่าง Voice Pro เป็น โปรแกรมตัดต่อเสียง iOS / Android ที่ถูกยกให้เป็นสุดยอดคุณสมบัติการตัดต่อเสียงที่มีคุณภาพ โดยแอพนี้มีฟีเจอร์ต่าง ๆ และมีคุณลักษณะมากมายที่ครอบคลุมความต้องการต่อการตัดต่อเสียงของคุณ เช่น การแก้ไข ตัด ปรับ เปลี่ยนเอฟเฟกต์ (Effects) และมีตัวลดสัญญาณรบกวน 

นอกจากนี้ Voice Pro ยังได้รับการออกแบบให้มีอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน ทำให้กระบวนการตัดต่อเสียงของคุณเสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีคุณสมบัติการแปลงเสียงเป็นข้อความถึง 40 ภาษาที่แตกต่างกันและอนุญาตให้จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ได้อีกด้วย Voice Pro เป็นแอพตัดต่อเสียงบนมือถือที่ต้องเสียเงินซื้อมาใช้งาน โดยระบบ Android ราคา 400.71 บาท ส่วนระบบ ios ราคา 333.87 บาท

Audio Evolution Mobile Studio

ตัดต่อเสียงบนมือถือ

มาต่อกันที่แอพ ตัดต่อเสียงบนมือถือ ที่มีชื่อว่า Audio Evolution Mobile Studio เป็นแอพตัดต่อเสียง iPhone / Android ที่ครอบคลุมทั้งการตัดต่อเสียงขั้นพื้นฐานและขั้นสูงอย่างมืออาชีพด้วยฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมมากมายสำหรับการแก้ไขและการบันทึกแทร็กเสียงของคุณ อีกทั้งยังสามารถสร้างสรรค์ผลงานเพลงได้ด้วยเครื่องดนตรีภายนอกหรือเครื่องดนตรีเสมือนจริง เช่น กีตาร์ เปียโน และอื่น ๆ นอกจากนี้แอพนี้ยังอนุญาตให้เชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์ภายนอกมากกว่า 250 รายการได้อีกด้วย พร้อมกับการจัดระเบียบอย่างดีและมีการใช้งานที่เรียบง่าย สามารถนำเข้าและส่งออกไฟล์ในรูปแบบต่าง ๆ Audio Evolution Mobile Studio เป็นแอพตัดต่อเสียงบนมือถือที่มีเวอร์ชันฟรีบนอุปกรณ์ Android ส่วน iphone คุณอาจจะต้องเสียเงินซื้อมาใช้งานในราคา 249 บาท

Video Voice Editor & Effects

ตัดต่อเสียงบนมือถือ

สุดท้ายแอพ ตัดต่อเสียงบนมือถือ ที่มีชื่อว่า Video Voice Editor & Effects เป็นแอพ ตัดต่อเสียงวิดีโอ ที่สามารถแปลงไฟล์วิดีโอและไฟล์เสียงได้เกือบทุกชนิด พร้อมกับ วิธีการตัดต่อเสียง ที่เรียบง่ายด้วยคุณลักษณะที่สามารถทำได้มากกว่าการตัดต่อเสียงเพียงอย่างเดียว เพราะแอพนี้ยังสามารถแปลงเสียงและแก้ไขรูปแบบวิดีโอได้อีกด้วย เนื่องจากมันมีเครื่องเล่นวิดีโอสากลในตัวที่สามารถเล่นเสียงและวิดีโอรูปแบบได้หลายรูปแบบ อีกทั้งยังสามารถสร้างเสียงเรียกเข้าจากเพลงของคุณได้ ซึ่งแอพนี้มีเครื่องมือสำหรับใช้ตัดต่อเสียงที่สามารถใช้งานได้ฟรีมากมาย

สนับสนุนโดย

PAPERINDUSTRYMAG.COM

sagame