สเปคคอมเล่นเกม จัดได้ตามใจ อยากได้แบบไหน เลือกได้ตามความต้องการ

สเปคคอมเล่นเกมถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับเหล่านักเกมเมอร์ทั้งหลาย และยิ่งปัจจุบันมีตัวเลือกมากขึ้น ทั้งในเรื่องของ เมนบอร์ด CPU การ์ดจอ และองค์ประกอบที่สำคัญอื่น ๆ อีกมากมาย รวมทั้งราคาและเกรดคุณภาพต่าง ๆ ก็มีให้เลือกหลากหลาย สามารถทำให้เข้าถึงเกมได้ง่าย  ด้วยปัจจัยและเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ทำให้สายเกมเมอร์ ได้สัมผัสกับมิติใหม่ในการเล่นเกม ที่แตกต่างจากสมัยอดีตที่ผ่านมา

สเปคคอมเล่นเกม มีให้เลือกหลายแบบ หลายรุ่น เลือกได้ตามงบ

สำหรับสเปคคอมเล่นเกมนั้นมีหลายราคา และนี่ก็เป็นตัวอย่างการจัดสเปคคอมสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ

สเปค PENTIUM G4400 + GTX1060 3GB

• CPU: INTEL PENTIUM G4400 
• M/B: ASROCK H110M – DVS
• RAM: CORSAIR VENGEANCE DDR4 – 2400 4GB RED (4GB × 1) * แต่ถ้าจะให้ดีควรเลือกตัว 2GB ×2 เพื่อทำ DUAL CHANNEL ก็จะดีมาก ๆ 
• PSU: THERMALTAKE TR2 S 550W
• VAG: INNO3D GTX 1060 3GB 
• HDD: WD BLUE 1 TB
• CASE: NEOLUTION E – SPORT NEWTRON NEO – 1007 (BLACK / RED)

เป็นสเปคสำหรับเผื่อไว้อัพเกรดในอนาคต เซตนี้ราคาประมาณ 16,000 บาท

สเปค INTEL CORE I7 – 7700K + GTX1070 8 GB

• CPU: INTEL CORE I7 – 7700K
• M/B: ASUS ROG STRIX Z2700F GAMING
• RAM: CORSAIR VENGEANCE LED DDR4 – 3200 16 GB RED
• SSD: SAMSUNG 960 EVO M.2 250GB 
• VAG: INNO3D GTX1070 TWIN X2 8GB
• PSU: THERMALTAKE SMART PRO RGB 750W
• HDD: WD BLACK 2TB
• COLLING: COOLER MASTER SEIDON 120V V3 PLUS
• CASE: NZXT S340 ELITE BLACK – RED

เป็นคอมสเปคสูงที่ช่วยให้การเล่นเกมของคุณลื่นไหล ไม่สะดุด มาพร้อมกับราคาประมาณ 56,500 บาท

แนะนำ! สเปคคอม DIY สุดล้ำ คุ้มค่า ความลื่นไหลมาพร้อมกับเงินในกระเป๋า

สเปคคอมเล่นเกมแบบ DIY เป็นอีกทางเลือกสำหรับเหล่าเกมเมอร์ ที่อยากจะ DIY หรืออัพเกรดสเปคคอมพิวเตอร์ให้สูงขึ้น เราจึงมีสเปคคอม DIY มาแนะนำค่ะ

• CPU: INTEL CPU CORE I3 8300 3.7 GHZ
• เมนบอร์ด: GIGABYTE MAINBORAD H270 HD3 LGA1151
• RAM: APACER RAM PC DDR4 BLACK PANTHER RAGE D4 8/2400
• VGA: GALAX GEFORCE GTX 1050 TI OC 4GB
• PSW: THERMALTAKE POWER SUPPLY TR2 550W
• HDD: SEAGATE HDD 1 TB 7200 RPM

เคล็ดลับ! ง่าย ๆ สำหรับมือใหม่หัดจัดสเปคคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกม

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการสเปคคอมเล่นเกม แต่ยังเลือกไม่ค่อยเป็น เนื่องจากยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการดูสเปคคอม ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เราไปดูเทคนิคง่าย ๆ สำหรับมือใหม่กันเลยค่ะ

1. ให้เลือก CPU RYZEN / I5 ขึ้นไป
2. RAM เอาแบบพอประมาณขั้นต่ำเริ่มที่ 8GB แต่ให้เน้นความเร็ว
3. การ์ดจอ ให้เน้นที่ความเร็วในการส่งข้อมูล โดยใช้ความจำที่ 8GB ก็น่าจะเพียงพอ
4. เลือกไดรฟ์ SSD สำหรับลงเกม ไม่จำเป็นต้องใหญ่มาก หรือจะใช้ผสมกับ HHD ก็ทำได้

จัดสเปคคอมสตรีมเกม ยกระดับการเผยแพร่การเล่นเกมรูปแบบใหม่

การสตรีมเกมเป็นภาคต่อจากสเปคคอมเล่นเกม หลายคนเมื่อได้เล่นเกมที่ชื่นชอบก็อยากนำเสนอให้คนภายนอกได้รับรู้ นั่นก็คือการสตรีมเกมนั่นเอง ซึ่งสเปคก็จะแตกต่างกัน สำหรับมือใหม่หัดสตรีม เรามีสเปคคอมสำหรับสตรีมเกมมาแนะนำค่ะ

• CPU: AMD RYZEN 7 3700X
• เมนบอร์ด: GIGABYTE X570 UD
• RAM: TEAMGROUP T – FORCE DARK Z DDR4 32GB 3200 GRAY
• กราฟิกการ์ด: ASUS RTX 3070 DUAL 8GN
• พาวเวอร์ซัพพลาย:  COUGAR GEX850
• STORAGE: SAMSUNG 970 EVO 1TB M.2 NVME
• เคส: THERMALTAKE LEVEL 20 MT ARGB

แนะนำ! หน้าจอคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกม น่าใช้ ไหลลื่น คอเกมต้องจัด

ปัจจุบันสเปคคอมเล่นเกมได้พัฒนาไปในทุก ๆ ด้าน รวมถึงเทคโนโลยีของหน้าจอแสดงผลก็เช่นกัน ได้ถูกจัดทำขึ้นสำหรับการใช้งานของแต่ละประเภท ในที่นี้จะขอกล่าวถึงหน้าจอของคอมเล่นเกม ไปดูกันเลยค่ะว่ามีรุ่นไหนบ้าง

1. ZOWIE 24″ XL2411P ราคา 7,750 บาท

• จอมอนิเตอร์ TN ขนาด 24 “
• เทคโนโลยี FLICKER FREE
• อัตราการตอบสนอง 1 MS
• โหมด BLACK EQUALIZER
• ความละเอียดสูงสุดของหน้าจอ 1920 × 1080

2. VIEWSONIC 24″ VX2458 ราคา 4,990 บาท

• จอมอนิเตอร์ VA แบบโค้ง ขนาด 24″
• เทคโนโลยี AMD FREESYNC
• อัตราการตอบสนอง 1 MS
• ระบบลำโพงในตัว จำนวน 2 ตัว
• ความละเอียดสูงสุดของหน้าจอ 1920 × 1080

นอกเหนือจากที่แนะนำไปนี้ ยังมีรุ่นอื่น ๆ อีกมากมายสามารถไปเลือกซื้อกันได้ตามสเปคที่ต้องการ

อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่สายเกมเมอร์ควรมี เพื่อประสิทธิภาพที่ดี ในการเล่นเกม

นอกเหนือจากสเปคคอมเล่นเกมแล้ว อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับเล่นเกมก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การเล่นของคุณได้อรรถรสและสนุกยิ่งขึ้น ไปดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง

1. เมาส์ ( MOUSE ) 
2. แผ่นรองเมาส์ ( MOUSEPAD )
3. คีย์บอร์ด ( KEYBOARD )
4. ไมโครโฟน ( MICROPHONE )
5. ชุดหูฟัง ( HEADSET )
6. จอมอนิเตอร์ ( MONITOR )
7. จอยคอนโทรลเลอร์ ( JOY – CON )

เคล็ดลับ! ข้อควรรู้ก่อนจัดสเปคคอมพิวเตอร์

ก่อนจัดสเปคคอมเล่นเกม หรือคอมสำหรับใช้ทำงานด้านใดก็ตาม จะต้องมีการเปรียบเทียบสเปคคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน ซึ่งโดยปกติแล้ว ซีพียู ของ RYZEN สเปคจะต่ำกว่า INTLE เพียงเล็กน้อย เนื่องจาก RYZEN จะถูกออกแบบมาให้ทำงานทำงานได้หลายคอร์ ส่งผลให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ INTLE หรืออาจจะแรงกว่า ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการจะซื้อ ซีพียู RYZEN มาใช้เอง ต้องเลือกเมนบอร์ด ที่สามารถรองรับซีพียูได้มากกว่า 1 ตัว

วิธีการดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ เพื่อยืดเวลาให้ใช้งานได้นานขึ้น

หากคุณมีสเปคคอมเล่นเกมที่ดี และได้คุณภาพ แต่ถ้าขาดซึ่งการดูแลรักษาเอาใจใส่แล้วละก็ สเปคคอมแรงๆก็อาจพังเสียหายได้ในไม่ช้า เพราะฉะนั้นถ้าอยากยืดอายุการใช้งานของคอมพิวเตอร์ให้ใช้นานขึ้น ควรปฎิบัติตามข้อต่อไปนี้

• ทำความสะอาดอยู่สม่ำเสมอ
• เลือกโต๊ะและสถานที่จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม
• จัดการลบไฟล์ที่ไม่จำเป็น หรือไฟล์ที่ไม่ใช่แล้วออกจากเครื่อง
• ลบโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้งานแล้วออกจากเครื่อง
• ควรมีการกำจัด หรือสแกนไวร้สในคอมพิวเตอร์อย่างสม่ำเสมอ
• จัดระเบียบหน้าจอ หรือโฟลเดอร์ต่าง ๆ 
• หมั่นศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับหลักการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างถูกต้อง
• ตรวจเช็คภายในตัวเครื่องสม่ำเสมอ ( กรณีที่ผู้ใช้ไม่ถนัดก็สามารถนำเครื่องไปตรวจเช็คที่ศูนย์บริการใกล้บ้านได้ )

สรุป

เนื่องจากสเปคคอมเล่นเกม มีปัจจัยสำคัญหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง เพราะฉะนั้นคุณจะต้องศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนจัดสเปคคอม โดยเฉพาะมือใหม่ หากความรู้ยังไม่แน่นก็ให้ผู้ที่มีความชำนาญเป็นผู้ช่วยดูแล จากนั้นก็ค่อย ๆ เรียนรู้ไป เพราะเชื่อว่าในอนาคตความก้าวล้ำของเทคโนโลยีจะต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด รวมถึงสเปคคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกมก็เช่นกัน เพราะฉะนั้นหวังว่าเคล็ดลับและเทคนิคต่าง ๆ ที่เรานำมาฝากนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับใครหลายคน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจได้

 

 

 

 

เว็บบอล

เทคนิคการ ตัดเสียงรบกวน ด้วยโปรแกรม TECHSMITH AUDIATE

เสียงในวีดีโอ ถือเป็นตัวสื่อสารที่ดี เพราะมันช่วยกระตุ้นความรู้สึกและอารมณ์ให้แก่ผู้รับชม ทำให้ผู้ชมเข้าใจถึงสิ่งที่วิดีโอกำลังพยายามจะสื่อสารโดยเฉพาะเสียงพูด เสียงดนตรี หรือเสียงเอฟเฟกต์ แต่บ่อยครั้งเวลาที่คุณถ่ายวีดีโอ หรือบันทึกเสียงมักจะมีเสียงที่คุณไม่ต้องการหรือเสียงรบกวนเข้ามาอยู่ในไฟล์วีดีโอ หรือไฟล์เสียงด้วย โชคดีที่คุณสามารถ ตัดเสียงรบกวน นี้ได้ด้วยโปรแกรมตัดต่อเสียงยอดฮิตอย่าง TECHSMITH AUDIATE โปรแกรมที่ช่วยบันทึกเสียงและแก้ไขไฟล์เสียง มีสมบัติการแก้ไขเสียงขั้นสูงที่ทำให้กระบวนการลบเสียงรบกวนง่ายขึ้น 

วิธี ตัดเสียงรบกวน ด้วยโปรแกรม TECHSMITH AUDIATE

การ ตัดเสียงรบกวน ถือเป็นกระบวนการทำงานที่นักตัดต่อเสียงและวีดีโอควรรู้ โดยทั่วไปเสียงรบกวนมักจะเป็นเสียงพื้นหลังที่คุณไม่ต้องการ เช่น เสียงลม เสียงบุคคลอื่น เสียงรถยนต์ที่ขับผ่าน เสียงกระหึ่มจากสายสัญญาณเสียงที่ผิดพลาด หรือเสียงรอบข้างที่ไม่ควรอยู่ในวีดีโอของคุณ ซึ่งคุณสามารถทำการตัดเสียงรบกวนเหล่านี้ได้ด้วยวิธีการตัดเสียงรบกวนโดยใช้โปรแกรมตัดเสียงรบกวนอย่าง TECHSMITH AUDIATE โปรแกรมแก้ไขเสียงฟรีที่มีเครื่องมือการใช้งานที่ไม่ค่อยซับซ้อน ใครที่ไม่เคยตัดเสียงรบกวนในวีดีโอก็สามารถใช้ได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการตัดเสียงรบกวน ดังนี้

1. เปิดวิดีโอของคุณใน CAMTASIA แล้วทำการแยกเสียงและวิดีโอ โดยคลิกขวาที่วิดีโอของคุณในไทม์ไลน์ของ CAMTASIA แล้วเลือก “SEPARATE VIDEO AND AUDIO” ตอนนี้เสียงของคุณจะปรากฏบนแทร็กยกต่างหากบนไทม์ไลน์ของ CAMTASIA
2. ใช้เอฟเฟกต์เสียงลบเสียงรบกวน โดยคลิก AUDIO EFFECTS แล้วลากเอฟเฟกต์ REMOVE NOISE ไปที่แทร็กเสียงบนไทม์ไลน์ของคุณ 

3. คุณสามารถปรับความละเอียดของเอฟเฟกต์การลดสัญญาณเสียงรบกวนได้ด้วยแถบเลื่อนความไวและลดปริมาณเสียงรบกวนที่จะลบด้วยแถบเลื่อนการลด

ข้อดีการใช้โปรแกรม TECHSMITH AUDIATE บันทึกเสียงและแก้ไขไฟล์เสียง

นอกจากความสามารถในการ ตัดเสียงรบกวน แล้วโปรแกรม TECHSMITH AUDIATE ยังมีคุณสมบัติอีกมากมาย เพราะมันไม่เพียงตัดเสียงรบกวน VIDEO เท่านั้น แต่โปรแกรมนี้เวอร์ชันดาวน์โหลดฟรียังสามารถบันทึกเสียงผ่านไมโครโฟนของคุณได้อย่างราบรื่นและชัดเจน ช่วยทำให้คุณสามารถบันทึกเสียงโดยปราศจากข้อผิดพลาดได้ตั้งแต่เริ่มจนจบ อีกทั้งคุณยังสามารถนำเข้าไฟล์เสียงหรือบันทึกเสียงของคุณ เพื่อแปลงเป็นเอกสารข้อความที่แก้ไขได้ โปรแกรมตัดเสียง รบกวนวิดีโอนี้ยังช่วยลบสัญญาณรบกวนดิจิตอลออกจากไฟล์เสียงได้ และมีตัวแก้ไขรูปคลื่นในตัว ทำให้สามารถดูระดับและรูปแบบของเสียงได้ เพื่อช่วยให้คุณสามารถปรับระดับเสียงได้ตามต้องการ โดยตัวปรับระดับเสียงนี้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างระดับเสียงที่สม่ำเสมอตลอดการบันทึกทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

 

 

 

 

เว็บบอล

ปัจจุบันรายการพอดแคสต์นับว่าเป็น สื่อความบันเทิงอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก ๆ และหลัง ๆ เราจะเริ่มเห็นช่อง YOUTUBE หลาย ๆ ช่องของไทยเริ่มหันมาผลิตสื่อประเภทนี้มากขึ้น และเราเชื่อว่าก็มีเพื่อน ๆ หลายคนที่อยากลองหันมาทำพอดแคสต์ แต่ถ้าจะให้ซื้อโปรแกมบันทึกเสียงแพง ๆ ก็อาจจะเป็นการลงทุนที่สูงเกินไป ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำให้รู้จักกับ AUDACITY หนึ่งในโปรแกรมบันทึกเสียง ที่นอกจากจะฟรีแล้ว ยังดีสุด ๆ อีกด้วย

ทำความรู้จักกับ AUDACITY โปรแกรมบันทึกเสียง ตำนาน 23 ปี

หากพูดถึงโปรแกรมบันทึกเสียงฟรีที่มีคุณภาพ เราเชื่อว่าสายเทคคงต้องแนะนำAUDACITYให้กับเพื่อน ๆ อย่างแน่นอน โดย AUDACITYคือ ซอฟต์แวร์ตัวหนึ่งที่ใช้สำหรับงานด้านเสียงทั้ง บันทึกเสียง, ตัดต่อเสียง, ตัดเสียงรบกวน, แต่งเสียง และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่เริ่มพัฒนาครั้งแรกในช่วงปี พ.ศ. 2543 หรือเมื่อประมาณ 23 ปีที่แล้ว ซึ่งความพิเศษของโปรแกรมนี้คือนอกจากจะเป็นโปรแกรมฟรีที่รองรับหลายระบบปฏิบัติการแล้ว ยังสามารถ EXPORT ได้ทั้ง MP3, OGG VORBIS และ WAV ซึ่งเป็นไฟล์มาตรฐานที่ใช้กันในปัจจุบัน

แต่จุดด้อยของโปรแกรมนี้ก็มีเช่นกันเนื่องจากโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมฟรี ความสามารถของมันจึงมีขอบเขต และข้อจำกันอยู่เหมือนกัน ซึ่งใครที่คาดหวังว่ามันจะสามารถเทียบเท่าโปรแกรมแพง ๆ อันนั้นก็คงไม่ใช่ เช่นถ้าจะนำไปใช้ทำเพลง คืออาจจะทำได้แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นไปตามศักยภาพของโปรแกรมนั่นเอง

บันทึกเสียง

วิธีใช้AUDACITY ในการบันทึกเสียงสามารถทำได้ง่ายมาก ๆ เมื่อคุณเปิดเข้าไปในโปรแกรม AUDIO TRACK 1 ก็จะถูกเปิดมาให้โดยอัตโนมัติ และเมื่อคุณต้องการเริ่มบันทึกเสียงให้กดปุ่ม RECORD (ปุ่มสีแดง) หรือกด R ที่แป้นพิมพ์ และกด SHIFT + R เมื่อต้องการ RECORD NEW TRACK และเมื่อต้องการหยุดระหว่างการบันทึกเสียงให้คุณกด PAUSE และกด STOP เมื่อสิ้นสุดการบันทุกเสียง 

ตัดเสียงรบกวน

AUDACITYตัดเสียงรบกวน ได้หลายวิธี แต่สำหรับวิธีพื้นฐานที่สุดคือให้ทำตามวิธีดังต่อไปนี้ โดยให้ไฮไลท์ WAVEFORM ที่เป็นเส้นตรง (เสียงเงียบ) > EFFECT > NOISE REMOVAL AND REPAIR > NOISE REDUCTION > เซ็ตตัวเลข NOISE REDUCTION: 10, SENSITIVITY : 6.00, FREQUENCY SMOOTHING (BANDS) : 3 > GET NOISE PROFILE > CTRL + A > EFFECT > REPEAT NOISE REDUCTION 

ทั้งนี้ค่าการเซตตัวเลขดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามที่เราต้องการ แต่ถ้าอยากให้มีความละเอียดมากขึ้นเพื่อน ๆ ก็เพียงแค่ทำการไฮไลท์จุดที่ต้องการดัดเสียงรบกวน แล้วให้กด CTRL + L เท่านี้เมื่อคุณนำไปไฟล์เสียงไปเพิ่มเสียงก็จะไม่มีเสียงรบกวนมากวนใจแล้ว

วิธีเพิ่มเสียง

ถ้าต้องการใช้ AUDACITYเพิ่มเสียง เราแนะนำให้เพื่อน ๆ ทำการตัดเสียงรบกวนก่อน เพื่อไม่ให้มีเสียงรบกวนเกิดขึ้นเมื่อเราเพิ่มเสียง ซึ่งจะทำให้เราต้องมาปวดหัวกับการแก้เสียงรบกวนอีกครั้ง และสำหรับการเพิ่ม เสียงก็ทำได้ไม่ยาก โดยให้เพื่อน ๆ CTRL + A > VOLUME AND COMPRESSION > AMPLIFY > เซ็ตค่าเสียง NEW PEAK AMPLITUDE : – 8 (ค่าเสียงนี้ยิ่งติดลบมากยิ่งดังมาก) > OK เพียงเท่านี้ไฟล์เสียงของคุณก็จะดังขึ้นแล้ว แต่ถ้าหากเราต้องการลดเสียงที่บันทึกลงก็ให้ทำวิธีเดิมเพียงแค่คุณจะต้องเซ็ตตัวเลขที่มีการติดลงที่ต่ำลง 

AUDACITY ดาวน์โหลดง่าย ๆ รองรับทั้ง WINDOWS, MAC OS และ LINUX

สำหรับใครที่อยากลองใช้AUDACITYนอกจากคุณจะสามารถ ดาวน์โหลด AUDACITY ได้ฟรีแล้ว โปรแกรมนี้ยังรองรับทั้ง WINDOWS, MAC OS และ LINUX สำหรับ WINDOWS 4 เวอร์ชัน ได้แก่ 64 BIT INSTALLER (RECOMMENDED), 64 BIT ZIP FILE, 32 BIT INSTALLER และ 32 BIT ZIP FILE สำหรับ MAC OS 3 เวอร์ชัน ได้แก่ UNIVERSAL DMG (RECOMMENDED), ARM 64 DMG (APPLE SILICON) และ X86_64 DMG (INTEL) และสำหรับ LINUX อีกหนึ่งเวอร์ชันคือ APPLMAGE

นอกจากนี้คุณยังสามารถดาวน์โหลด PLUGINS และออปชั่นเสริมอื่น ๆ มาไว้ใช้งานร่วมด้วยก็ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงนับว่า โปรแกรมAUDACITY เป็นโปรแกรมบันทึกเสียงฟรีที่คุ้มค่า และสำหรับใครที่อยากทำงานเกี่ยวกับเสียง เช่นพอดแคสต์แต่ยังไม่มีทุนซื้อโปรแกรมแพง ๆ ออแดซิตี ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว

ดาวน์โหลดโปรแกรม: https://www.audacityteam.org/download/

อ่านบทความอื่นๆ:

• ตัดเสียงรบกวน AUDACITY ตำนานโปรแกรมบันทึกเสียงฟรีที่ยังมีลมหายใจ
• มาทำความรู้จักกับโปรแกรม Audacity โปรแกรมตัดต่อเสียง

เคล็ดลับการ แต่งรูป LIGHTROOM ด้วยการปรับโทนสีง่าย ๆ ที่คุณไม่ควรพลาด

สำหรับใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปต้องรู้จักกับโปรแกรม แต่งรูป LIGHTROOM ซึ่งเป็นเครื่องมือแก้ไขรูปถ่ายที่เหล่าช่างภาพระดับมืออาชีพเลือกใช้งาน โดยโปรแกรมLIGHTROOMนั้นค่อนข้างใช้งานง่าย และมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมายที่จะช่วยทำให้ภาพถ่ายของคุณดูมีชีวิตชีวาและสวยงามมากยิ่งขึ้น แม้ถึงว่าช่วงแรกองค์ประกอบของเครื่องมือจะดูใช้งานยาก แต่เมื่อคุณได้ลองใช้จนเกิดความคุ้นเคย คุณจะพบว่าเครื่องมือเหล่านี้ใช้งานง่ายมาก ไม่เพียงเท่านั้นโปรแกรม LIGHTROOM ยังมีฟีเจอร์การตั้งค่าล่วงหน้าและการปรับค่าแสง/สีด้วยคุณสมบัติขั้นสูงที่อาจจะต้องใช้เวลาเรียนรู้เพิ่มเติมกับผู้เชี่ยวชาญ แต่สำหรับใครที่อยากปรับแต่งโทนสีรูปภาพ วันนี้เราก็มีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถปรับโทนสีรูปภาพได้อย่างง่าย ๆ ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นติดตามในบทความนี้ได้เลย 

เคล็ดลับการปรับโทนสีรูปภาพด้วยโปรแกรมแต่งรูป LIGHTROOM 

บางครั้งสีของรูปภาพที่ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลหรือกล้องโทรศัพท์อาจผิดเพี้ยนไปบ้าง คุณอาจจะพบว่าภาพถ่ายของคุณนั้นสีเข้มหรือสีอ่อนมากเกินไป ทำให้รูปภาพดูไม่สวยและดูไม่สมจริง แต่คุณสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยวิธีการปรับโทนสีรูปภาพด้วยโปรแกรมแต่งรูป LIGHTROOM ไม่ว่าคุณจะอยากแต่งรูป LIGHTROOM สว่าง , แต่งรูป LIGHTROOM สดใส หรืออยากแต่งรูป LIGHTROOM โทนดาร์ก ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้วิธีปรับสีภาพถ่ายโดยการใช้เส้นโค้งของโทนสี เพื่อปรับแต่งสีรูปภาพทั้งหมดให้เป็นโทนสีที่คุณต้องการ ด้วยวิธีด้านล่างนี้ 

วิธีการปรับโทนสีของรูปภาพโดยการใช้เส้นโค้งของโทนสี

ไม่ว่าคุณจะเป็นช่างภาพระดับมืออาชีพ หรือมือใหม่ก็สามารถปรับโทนสีรูปภาพด้วยโปรแกรมแต่งรูป LIGHTROOM ได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้วิธีปรับสีภาพถ่ายโดยการใช้เส้นโค้งของโทนสี ซึ่งเครื่องมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของ TONE CURVE PANEL ที่จะช่วยให้คุณแต่งรูป LIGHTROOM ง่าย ๆ  และคุณจะสามารถปรับโทนสีในรูปภาพได้ทั้งหมดภายในระยะเวลาสั้น ๆ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

1. เปิดแผง TONE CURVES คุณจะพบช่อง RGB เส้นโค้งโทนสีนี้ช่วยให้คุณทำการเปลี่ยนแปลงโทนสีได้อย่างง่ายดาย

2. ในการแก้ไขสี คุณต้องเลือกสีที่จะแก้ไข โดยคลิกที่ไอคอนที่มุมล่างขวา
3. จากนั้นคลิกที่”ช่อง” ทางด้านขวาข้างล่างของเส้นโค้ง แล้วเลือกสี (แดง เขียว หรือน้ำเงิน) ที่คุณต้องการแก้ไข
4. เส้นโค้งคือเส้นทแยงมุมที่แสดงโทนสีในภาพทั้งหมด โทนสีจะถูกจัดเรียงจากมืดที่สุดไปหาสว่างที่สุดจากล่างซ้ายไปขวาบน

5. เส้นโค้งของโทนสีสามารถแบ่งออกได้เป็นพื้นที่ตามโทนสี คือ เงา, โทนสีกลางที่มืดและสว่าง, ไฮไลท์
6. หากต้องการปรับความสว่างต่าง ๆ ของรูปภาพให้ลากเส้นทแยงมุมขึ้นหรือลงตามต้องการ หากคุณย้ายเส้นเหนือตำแหน่งเริ่มต้น แสดงว่าคุณต้องการทำให้รูปภาพสว่างขึ้น แต่หากเลื่อนไปด้านล่างจะสีของรูปภาพจะมืดลง

 

 

 

 

เว็บบอล

แนะนำ 6 แอพแต่งรูป ยอดฮิตในหมู่วัยรุ่น ฉบับประจำปี 2022 ที่ควรมีติดเครื่องไว้

ทุกวันนี้ไม่ว่าใครก็มีสมาร์ทโฟนที่มีกล้องสำหรับถ่ายรูปติดตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่ว่าคุณจะถ่ายรูปออกมาสวยหรือไม่สวย สิ่งที่สำคัญที่จะช่วยทำให้รูปถ่ายของคุณดูดีและสมบูรณ์แบบนั้นก็คือความสามารถในการแต่งรูป แม้ถึงว่าตอนนี้จะมี แอพแต่งรูป มากมายทั้ง iOS และ ANDROID ที่ค่อนข้างดีสำหรับการปรับแต่งรูปภาพขั้นพื้นฐาน แต่ก็มีแอพแต่งรูปอีกมากมายที่ทำให้คุณสามารถแต่งรูปได้อย่างสร้างสรรค์มากขึ้น ซึ่งวันนี้เราก็มี 6 แอพแต่งรูปยอดฮิตในหมู่วัยรุ่น ฉบับประจำปี 2022 ที่ควรมีติดเครื่องไว้มาแนะนำทุกคน แต่จะมีแอพอะไรบ้างนั้น ติดตามได้ในบทความนี้เลย

6 แอพแต่งรูป ยอดฮิตในหมู่วัยรุ่นที่ควรมีติดเครื่องไว้

สำหรับใครที่กำลังมองหา แอพแต่งรูป ที่ดีที่สุดในปี 2022 คุณมาถูกทางแล้ว เพราะวันนี้เรามี 6 แอพแต่งรูปยอดฮิตในหมู่วัยรุ่นมาแนะนำทุกคน ซึ่งแอพแต่งรูป 2022 ที่เราได้คัดเลือกมาไว้ในบนความนี้ล้วนเป็นแอพแต่งรูปฟรีที่ดีที่สุด แถมยังเป็นแอพแต่งรูปง่าย ๆ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถใช้ได้ โดยภายในแอพเหล่านี้จะมีเครื่องมือแต่งรูปที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็นการปรับการรับแสง การปรับโทนสี ครอบตัด ปรับความคมชัด และอื่น ๆ อีกมากมาย แอพเหล่านี้จะช่วยทำให้รูปภาพของคุณนั้นสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และด้านล่างนี่คือแอพแต่งรูปยอดฮิตที่เราได้ทำการคัดสรรมาเป็นอย่างดี อย่ารอช้ามาดูกันเลย 

1. SNAPSEED

รองรับระบบปฏิบัติการ: iOS และ ANDROID
แอพ SNAPSEED เป็น แอพแต่งรูป ที่ได้รับความนิยมที่สุดในตอนนี้ แอพแต่งรูปล่าสุดที่มีระบบการใช้งานที่ง่ายมาก เหมาะสำหรับทุกคนไม่ว่าคุณจะเคยแต่งรูปมาแล้วหรือไม่เคยแต่งรูปเลยก็สามารถใช้ได้ คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งนั้น เพราะ SNAPSEED ไม่มีการอัปเกรดในแอพ 

2. LIGHTROOM

รองรับระบบปฏิบัติการ: iOS และ ANDROID
แอพ LIGHTROOM เวอร์ชันฟรีเป็น แอพแต่งรูป ที่จะช่วยทำให้คุณแต่งรูปได้หลากหลายรูปแบบ และคุณยังสามารถเข้าถึงการสร้างพรีเซ็ตได้ โดยทั่วไปวัยรุ่นมักใช้ LIGHTROOM เป็นแอพแต่งรูปคุมโทน เพราะมันมีเครื่องมือให้ปรับโทนสีของรูปที่สะดวกและสามารถตั้งค่าล่วงหน้าไว้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลามาปรับแต่งสีใหม่ 

3. PHOTOSHOP EXPRESS

รองรับระบบปฏิบัติการ: iOS และ ANDROID
แอพ PHOTOSHOP EXPRESS เป็น แอพแต่งรูป ที่มีเครื่องมือขั้นพื้นฐานมากมาย มีตัวเลือกการแก้ไขอัตโนมัติและตัวกรอง อีกทั้งยังเป็น APP แต่งรูปสวย ๆ ฟรีที่สามารถรีทัชรูปภาพได้ง่าย ๆ และอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์สนุก ๆ มากมาย เช่น สติกเกอร์และภาพปะติด

4. MEITU

รองรับระบบปฏิบัติการ: iOS และ ANDROID
แอพ MEITU สามารถปรับแต่งให้รูปร่างของคุณสวยได้ตามที่ต้องการ เป็นแอพแต่งรูปให้ผอมที่สามารถบีบหน้าเรียว กระชับขา เพิ่มความสูง และอื่น ๆ อีกมากมาย เป็นหนึ่งให้แอพแต่งรูปจีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไทย นอกจากนี้แอพยังมีฟีลเตอร์สวย ๆ ให้เล่นใช้มากมาย ช่วยสร้างสีสันให้กับรูปถ่ายของคุณได้เป็นอย่างดี และถึงแม้คุณจะหน้าสดแค่ไหน แอพนี้ก็สามารเติมเครื่องสำอางให้คุณได้อย่างง่ายดาย

5. PHOTOSHOP MIX

รองรับระบบปฏิบัติการ: ANDROID
แอพ PHOTOSHOP MIX ที่คุณสามารถสร้างเลเยอร์เพื่อแก้ไขรูปภาพได้ และเป็นแอปแต่งรูป ANDROID ที่คุณสามารถทำการซ้อนทับพื้นผิว ได้ด้วยใช้โหมดการผสมที่แตกต่างกันของ PHOTOSHOP MIX เช่นเดียวกับแอป ADOBE อื่นๆ

6. FOODIE

รองรับระบบปฏิบัติการ: iOS และ ANDROID
แอพ FOODIE นิยมนำมาใช้เป็นแอพแต่งรูปขายของ หรือแต่งรูปอาหาร เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า มีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้มากมาย คุณสามารถสร้างภาพโดยใช้สมาร์ทกริด สำหรับภาพเรียบได้ แต่ FOODIE ยังขาดคุณสมบัติการแก้ไขภาพที่สำคัญเพียงอย่างเดียว นั้นคือคุณสมบัติการครอบตัดรูปภาพ แต่ในเรื่องของการจัดองค์ประกอบภาพยังถือว่าทำได้ดี

 

 

 

 

เว็บบอล

เทคนิค ตัดต่อภาพ ใน PHOTOSHOP ด้วยวิธีการครอบตัดรูปภาพเพื่อเพิ่มองค์ประกอบให้กับรูปภาพ

ใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูป หรือเป็นช่างภาพคงทราบกันดีกว่า PHOTOSHOP เป็นโปรแกรมตกแต่ง แก้ไข หรือ ตัดต่อภาพ เมื่อคุณถ่ายภาพแล้วขั้นตอนต่อไปคุณต้องทำให้ภาพถ่ายเหล่านั้นสมบูรณ์แบบตามที่ต้องการ ซึ่งแน่นอนว่าคุณจำเป็นต้องใช้โปรแกรม PHOTOSHOP ในการแก้ไขภาพถ่ายซึ่งขั้นตอนนี้ถือเป็นส่วนสำคัญของการถ่ายภาพดิจิทัล แม้ว่าคุณจะถ่ายรูปออกมาดูสมบูรณ์แบบแค่ไหน แต่มันก็ยังต้องผ่านกระบวนการตัดต่อ หรือแก้ไขภาพเล็กน้อย เพื่อยกระดับให้รูปภาพนั้นสมบูรณ์แบบขึ้นไปอีกระดับ ดังนั้นในบทความเราจึงมีเทคนิคตัดต่อภาพใน PHOTOSHOP ขั้นพื้นฐานมาแนะนำทุกคน อย่างการครอบตัดรูปภาพเพื่อเพิ่มองค์ประกอบให้กับรูปภาพ สำหรับนักตัดต่อมือใหม่ 

วิธี ตัดต่อภาพ ขั้นพื้นฐานด้วยการครอบตัดรูปภาพโดยใช้ PHOTOSHOP สำหรับนักตัดต่อมือใหม่ 

PHOTOSHOP เป็นโปรแกรมแก้ไขภาพที่ยอดเยี่ยม และเครื่องมือสำหรับ ตัดต่อภาพ มากมาย โดยทั่วไปช่างภาพส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นการตัดต่อภาพใน PHOTOSHOP ด้วยเครื่องมือขั้นพื้นฐาน สำหรับตัดต่อภาพพื้นหลัง หรือตัดต่อภาพแบบง่ายต่าง ๆ ซึ่งเครื่องมือขั้นพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถดึงเอาสิ่งที่ดีที่สุดในภาพออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ และด้านล่างนี้ก็คือเทคนิคตัดต่อภาพสำหรับมือใหม่ ซึ่งเป็นวิธีการตัดต่อภาพด้วย PHOTOSHOP ที่ช่างภาพหรือนักตัดต่อทุกคนควรรู้ นั่นก็คือการครอบตัดรูปภาพเพื่อเพิ่มองค์ประกอบของรูปภาพ 

วิธีการครอบตัดรูปภาพเพื่อเพิ่มองค์ประกอบของรูปภาพ

บางครั้งการครอบตัดแบบง่ายๆ ก็สามารถสร้างความแตกต่างให้กับรูปภาพของคุณได้ จากเทคนิคการ ตัดต่อภาพ ที่มีอยู่ทั้งหมด การครอบตัดแบบพื้นฐานเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่สามารถทำให้รูปภาพของคุณสมบูรณ์ ไม่ว่าจะการตัดต่อภาพและวิดีโอการครอบตัดรูปภาพถือเป็นเทคนิคการตัดต่อที่นักตัดต่อทุกคนต้องรู้ ซึ่งวิธีตัดต่อภาพในคอมนี้จะช่วยให้คุณสามารถลบองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นได้ง่าย และโฟกัสที่วัตถุมากขึ้น 

วิธีใช้เครื่องมือครอบตัดใน ADOBE PHOTOSHOP:

1. เลือกเครื่องมือครอบตัดจากกล่องเครื่องมือ

2. เลือกอัตราส่วนภาพที่คุณต้องการโดยคลิกที่เมนูแบบเลื่อนลง (ใกล้มุมบนขวา) และเลือกจาก UNCONSTRAINED, ORIGINAL RATIO หรือตัวเลือก PRESET อื่น ๆ โดยคุณยังสามารถป้อนขนาดที่คุณต้องการในช่องข้อความข้างเมนูได้
3. ลากมุมหรือขอบของรูปภาพเพื่อให้ได้ครอบตัดที่คุณต้องการ
4. กด ENTER หรือคลิกไอคอนตรวจสอบ เพื่อสิ้นสุดการครอบตัด

คุณจะเห็นว่าการครอบตัดพื้นหลังส่วนใหญ่จะช่วยให้สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของรูปภาพดูโดดเด่นยิ่งขึ้น เช่น ผิวหน้าของนางแบบ และดวงตาที่สดใสของนางแบบ ซึ่งการครอบตัดเป็นขั้นตอนที่เรียบง่ายและดูเหมือนไม่สำคัญในกระบวนการแก้ไขภาพ แต่มันก็สามารถสร้างองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบให้กับรูปภาพได้เป็นอย่างดี

สนับสนุนโดย

PAPERINDUSTRYMAG.COM

เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเยอะที่สุด

แนะนำ ฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ อ่านง่าย โดนใจสายจดเลคเชอร์สุด ๆ

ฟอนต์ที่อ่านง่าย ไม่ลายตา ถือเป็นฟอนต์ที่ดีที่ช่วยทำให้ผู้อ่านสามารถอ่านเนื้อหานั้นได้อย่างเข้าใจ และดึงดูดสายตาผู้อ่านได้ดี ซึ่งการที่เราจะสื่อสารอะไรออกไปซักอย่างนั้นทางที่ดีควรประกอบด้วยภาพ และตัวหนังสือที่อ่านแล้วสบายตา ยิ่งจะทำให้ผู้อ่านอยากที่จะอ่านเนื้อหาในนั้นมากขึ้น วันนี้เราจึงมี ฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ แบบลายมือสุดคิ้วท์มากแนะนำทุกคน ขอบอกเลยว่าฟอนต์ไทยที่เราได้คัดเลือกมาไว้ในบทความนี้จะช่วยทำให้งานออกแบบของคุณออกแนวน่ารัก สบายตาสุด ๆ เลยล่ะคะ

ฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ อ่านง่าย ที่สายจดเลคเชอร์ไม่ควรพลาด

สำหรับใครที่กำลังมองหา ฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ คุณมาถูกทางแล้วค่าา เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ สไตล์เกาหลีทั้งแบบฟอนต์ไทย และฟอนต์ไทย-อังกฤษมาแนะนำทุกคน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจดเลคเชอร์ลายมือแนวน่ารักหวาน ๆ  คิ้วท์ ๆ สไตล์เกาหลี ไม่ว่าคุณจะโหลดเก็บไว้สำหรับทำสไลด์ จดบันทึก หรือไว้พรีเซนต์งานก็ได้  โดยฟอนต์ไทยน่ารักๆ ลายมือเหล่านี้สามารถดึงดูดสายตาของผู้อ่านได้เป็นอย่างดี และทำให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาที่อ่านได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญทำให้เกิดการจดจำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย และด้านล่างนี่ก็คือฟอนต์ภาษาไทยน่ารัก ๆ ที่นักออกแบบไม่ควรพลาด

ฟอนต์ ทาโฮโมะ (TAHOMO)

ฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ โดย CRAFTY FONT เป็นฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ ฟรีที่ผู้ออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากฟอนต์ TAHOMA และฟอนต์ DEFAULT ซึ่งลักษณะของฟอนต์จะมีความนุ้บนิ้บ แต่ก็ยังมีความเป็นทางการนิด ๆ สามารถใช้ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยมีให้เลือกใช้ 3 รูปแบบ ได้แก่ ตัวปกติ ตัวหนา และตัวเอียง เหมาะกับการใช้จดเลคเชอร์สำหรับนักเรียนและนักศึกษาสุด ๆ 

ฟอนต์ เอฟซี พาเลท (FC PALETTE)

ฟอนต์ไทยน่ารัก ๆ โดย FONTCRAFT เป็น FONT ไทยน่ารัก แบบลายมือที่ละมุนสุด ๆ ซึ่งฟอนต์นี้เป็นผลงานที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง FONTCRAFT และ @IXLOGO ลักษณะของฟอนต์มีสีสันและลายเส้นที่น่ารักสดใส สามารถใช้ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยฟอนต์นี้มีให้คุณได้เลือกใช้ถึง 2 รูปแบบ 4 สไตล์ 8 ไฟล์ฟอนต์ ได้แก่ ตัวปกติ ตัวหนา ตัวเอียง และตัวมีสีสันสดใส ขอบอกเลยว่าฟอนต์สไตล์นี้โดนใจสายจดเลคเชอร์สุด ๆ เลยค่ะ

ฟอนต์ PLUEMPLUEM (ปลื้มปลื้ม)

ฟอนต์ไทยน่ารักโดย FONTCRAFT เป็นฟอนต์ภาษาไทยที่ทำจากลายมือของผู้ออกแบบเอง ซึ่งลักษณะของฟอนต์จะให้ความรู้สึกละมุนสุด ๆ โดยมุมของตัวอักษรจะเป็นแบบโค้งมนอวบ ๆ คิ้วท์ ๆ ดูสบายตา อ่านง่าย มีให้เลือกใช้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยเวอร์ชันฟรีที่สามารถนำไปใช้ในงานทั่ว ๆ ไปพิมพ์ ‘ญ’ ‘ฐ’ ตัดเชิงไม่ได้ แต่ถ้าหากอยากใช้แบบตัดเชิงได้หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ก็เสียเงินซื้อได้ในราคาชุดละ  269 บาทเท่านั้น

ฟอนต์ เอฟซี แคนดี้ (FC CANDY)

โดย FONTCRAFT ที่ได้ยินแค่ชื่อก็รู้แล้วว่าต้องน่ารักมาก แน่ ๆ เป็นฟอนต์ไทยน่ารักที่ตัวฟอนต์มีลักษณะแบบลายมืออวบ ๆ อ้วน ๆ ตัวกลมปุ๊กปิ๊ก โดยฟอนต์นี้ได้รับการต่อยอดมาจากฟอนต์เอฟซี มัฟฟิน (FC MUFFIN) ฟอนต์ลายมือแบบกลมโต ซึ่งฟอนต์เอฟซี แคนดี้มีให้คุณได้เลือกใช้ถึง 2 รูปแบบ 4 สไตล์ 8 ไฟล์ฟอนต์ ได้แก่ ตัวปกติ ตัวหนา ตัวเอียง และตัวมีสีสันสดใส เหมาะกับการใช้จดเลคเชอร์สำหรับนักเรียนและนักศึกษา เพื่อจดจำเนื้อหาบทเรียนสูด ๆ เลยค่ะ

 

 

 

เว็บบอล

เคล็ดลับการสร้าง ภาพ 3 มิติ สำหรับมือใหม่ ที่จะช่วยทำให้การทำงานออกแบบของคุณง่ายขึ้น

หากพูดถึงงานออกแบบที่ทำให้คุณเห็นภาพได้อย่างชัดเจนและดูสมบูรณ์แบบที่สุดคงจะหนีไม่พ้นงานออกแบบ ภาพ 3 มิติ ซึ่งงานออกแบบ 3 มิติ สามารถทำให้เรามองเห็นชิ้นงานนั้นได้หลายมุมมอง โดยการเขียนแบบ 3 มิติ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หลากหลายงาน ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอผลงานออกแบบสินค้า ทำอนิเมชั่นการสร้างเกม รวมจนถึงการออกแบบด้านสถาปนิก สำหรับมือใหม่ที่ไม่รู้จะเริ่มต้นเขียนแบบ 3 มิติยังไงดี? วันนี้เราก็มีเคล็ดลับการสร้างภาพ 3 มิติ สำหรับมือใหม่มาแนะนำทุกคน ขอบอกเลยว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยทำให้การทำงานออกแบบภาพ 3 มิติของคุณง่ายขึ้น

งานออกแบบ ภาพ 3 มิติ คืออะไร?

งานออกแบบ ภาพ 3 มิติ คือ การออกแบบวัตถุที่สามารถแสดงผลทุกมุมมองไม่ว่าจะด้านหน้า ด้านบน หรือด้านข้าง โดยเป็นการนำเอาลักษณะของรูปทรงเรขาคณิต หรือ ภาพรูปทรงอิสระ ต่าง ๆ มาประกอบกันให้เป็นรูปเดียวกัน เรียกง่าย ๆ ก็คือภาพ 3 มิติ หมายถึง ภาพที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะรูปร่างของชิ้นงานครบทั้ง 3 มิติ แล้วภาพ 3 มิติ มีกี่ประเภท โดยทั่วไปภาพ 3 มิติมี 4 ประเภท ได้แก่ ภาพไอโซเมตริก, ภาพออบลิก ,ภาพไตรเมตริก และภาพไดเมตริก คุณสามารถออกแบบภาพ 3 มิติได้โดยใช้โปรแกรมการออกแบบ เช่น ILLUSTRATOR, AUTOCAD, SKETCHUP เป็นต้น 

เคล็ดลับการสร้างภาพ 3 มิติ สำหรับมือใหม่

สำหรับมือใหม่คุณสามารถเริ่มต้นสร้าง ภาพ 3 มิติ ได้ง่าย ๆ ด้วยขั้นตอนการเริ่มต้นออกแบบภาพ 3 มิติ เหมือนจริง ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้คนที่ไม่เคยออกแบบ ภาพ 3 มิติ เลย สามารถวางแผนการออกแบบภาพ 3 มิติ เคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย โดยเริ่มจากขั้นตอนด้านล่างนี้ 

1. วางแผนการออกแบบคร่าว ๆ : โดยเตรียมภาพสเก็ตช์ รวบรวมรูปภาพ วิดีโอ และสิ่งที่คุณคิดว่าจำเป็นต่องานออกแบบ

2. เลือกเครื่องมือที่จะใช้ในการออกแบบ:  ระบุชุดเครื่องมือที่คุณต้องการใช้ในการออกแบบและศึกษาวิธีการใช้งานให้ดี เช่น ILLUSTRATOR, AUTOCAD, SKETCHUP เป็นต้น ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้จะช่วยให้คุณสร้างโมเดล 3 มิติ อนิเมชั่น และเอฟเฟ็กต์ภาพ (VFX) โดยการเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับคุณควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียของแต่ละโปรแกรมด้วย
3. เริ่มต้นการออกแบบ 3 มิติ: เริ่มต้นด้วยรูปแบบขนาดใหญ่และรูปร่างทั่วไปของรูปภาพก่อนจะดีกว่า ที่สำคัญคือต้องใส่ใจกับสัดส่วนให้ได้มากที่สุด แนะนำให้ลองออกแบบด้วยระดับความละเอียดต่ำก่อน เพื่อทำให้คุณสามารถแก้ไขภาพ 3 มิติได้ง่ายขึ้น หากพอใจในผลงานแล้วค่อยเพิ่มความละเอียดของภาพ

4. แก้ไขจุดบกพร่อง: องค์ประกอบที่ผิดตำแหน่งหรือทำให้งานออกแบบดูผิดปกติให้ทำการซ่อนหรือลบออกเพื่อทำให้ภาพ 3 มิติของคุณดูสมบูรณ์
5. ตั้งชื่อผลงาน: ตั้งชื่อเจ๋ง ๆ ให้ผลงาน 3 มิติของคุณ เพื่อช่วยกระตุ้นจินตนาการและช่วยพัฒนาความคิด
6. ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ: พยายามปรึกษากับผู้มีประสบการณ์ เพราะพวกเขาสามารถสรุปรายละเอียดของผลงานที่คุณอาจไม่ทราบได้ เช่น วิธีสร้างตาข่ายอย่างถูกต้อง วิธีลดสัญญาณรบกวนในการเรนเดอร์ วิธีจัดสรรทรัพยากรของคอมพิวเตอร์ และการจัดการวัตถุในฉากอย่างเหมาะสม 

 

 

 

เว็บบอล

ราคาโน๊ตบุ๊ค ในปี 2022 ที่น่าเป็นเจ้าของ

สำหรับปีใหม่ที่ใกล้จะถึงในปี 2022 นั้น ก็มีหลายคนที่อยากได้ของขวัญให้กับตัวเอง ซึ่งในลิสต์เชื่อมีสิ่งหนึ่งที่หลายคนอยากได้เป็นของขวัญหรือรางวัลแก่ตัวเอง นั่นคือ โน๊ตบุ๊ค (Notebook) โดยถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากในการทำงานหรือการเรียน ซึ่งในปัจจุบันการทำงานแบบ Work From Home ก็มีจำนวนมาก หรือจะเป็นการเรียนแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นสายแคชเกมส์ สายกราฟฟิคในการตัดต่อรูปภาพและวีดีโอ หรือสายทำงานออฟฟิศ เป็นต้น 

ราคาโน๊ตบุ๊คที่คุ้มค่า 

ในการเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คคุ้มค่านั้นจะต้องมีการวางแผนที่ดี โดยให้เริ่มจากการศึกษา CPU ก่อน โดย CPU เป็นส่วนที่สำคัญในการใช้งานของเรามากที่สุด ต่อมาจะต้องศึกษา RAM ในการใช้งานจะต้องใช้ RAM ซึ่งเป็นหน่วยความจำหลักของโน๊ตบุ๊ค จะทำงานควบคู่กับ CPU สิ่งต่อไปที่ควรคำนึง คือ HDD และ SSD ซึ่งทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูล โดยถ้าหากต้องการจัดเก็บข้อมูลที่เร็ว มากกว่า และไร้เสียงรบกวน การเลือก SSD จะตอบโจทย์มากกว่า HDD ต่อไปเป็นส่วนของแบตเตอรี่ ซึ่งโน๊ตบุ๊คเป็นสิ่งที่สามารถพกพาไปที่ไหนก็สะดวก ในการใช้งาน ดังนั้นการมีแบตเตอรี่ที่อึดทนและใช้งานได้นานจึงจะดีมากหลายเท่าตัว และสิ่งที่หลายคนมองข้ามคือ ดีไซน์ของโน้ตบุ๊คที่ถึงแม้จะเป็นรูปลักษณ์ภายนอก แต่เป็นสิ่งที่ทำให้เราอยากหยิบขึ้นมาใช้งาน และต้องคำนึงถึงราคาโน๊ตบุ๊คอีกด้วย

ราคาโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี 

สำหรับใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คให้กับตัวเองหรือคนอื่นๆไม่ว่าด้วยจะเป็นของขวัญหรือใช้ในการทำงาน โดยคำถามที่มักจะถามอย่างแน่นอน นั่นคือ โน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี? หรือสเปคอย่างไรดี? เราจะต้องศึกษาโน๊ตบุ๊คที่เราต้องการก่อนว่าต้องใช้งานที่เน้นไปด้านใด เช่น สายเกมมิ่ง หรือสายกราฟฟิก หรือใช้งานทำงานออฟฟิศทั่วไป หรือใช้เรียน เป็นต้น จากนั้นค่อยมาคิดว่าต้องการสเปคระดับใดที่เหมาะสม แต่จะต้องคำนึงถึงงบประมาณที่ตั้งไว้ด้วย เนื่องจากจะต้องคุ้มค่าและเหมาะสมกับการใช้งานของเราอย่างแท้จริง

ราคาโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง 

ในปี 2022 เหล่าสายเกมมิ่งคงอยากจะอัพเกรดโน๊ตบุ๊คของตัวเอง ให้ได้ใช้งานในสายเกมส์ได้อย่างราบรื่นและลื่นไหล ไม่สะดุด สำหรับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งที่ได้ออกใหม่อย่าง MSI Modern 15 เป็โน๊ตบุ๊ครุ่นแรกที่ได้มีการให้ความแรงจากชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000U ทั้ง Ryzen 5 / Ryzen 7 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลรุ่นใหม่ของ AMD มีแรมมาให้เลือกสองขนาด คือ 8GB / 16GB มาพร้อมกับ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB สามารถใช้ทำงานในพื้นฐานได้อย่างสบาย น้ำหนักตัวเครื่องที่เบา ด้วยน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม พกพาสะดวกในทุกที่ การันตีด้วยการเล่นเกมส์ออนไลน์ได้ทั้งวันด้วยแบตเตอรี่ที่อึด ทน โน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ราคาโน๊ตบุ๊คเพียงแค่ 21,990 – 26,990 บาท ประกัน 1 ปีตามมาตรฐานของ MSI แบบทั่วโลก

ราคาโน๊ตบุ๊คทำงาน 

สำหรับโน๊ตบุ๊คทำงานที่ใครหลายคนมองหาที่สามารถใช้งานได้หลากหลายฟังก์ชันภายใต้การใช้งานพื้นฐาน มีโน๊ตบุ๊คหลายรุ่นที่กำลังจะเปิดในช่วงปี 2022 เช่น DELL Inspiron 3505-W566155260ATHW มาด้วยแรม 8GB มีชิปประมวลผล AMD Ryzen 3 3250U และ SSD 512GB มาพร้อมด้วย Windows 10 Home (64-bit) สเปคระดับนี้แต่ราคาไม่แรงอย่างที่คิด โดยราคาเพียงแค่ 14,990 บาท ส่วนอีกรุ่นคือ Asus Notebook VivoBook X412FA-EK838T มีความพิเศษที่มีการออกแบบบานพับ ErgoLift ทำให้คีย์บอร์ดเอียงขึ้นเพื่อการพิมพ์ที่เหมาะสม มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 (64bit) ในราคาเพียง 12,990 บาท

ราคาโน๊ตบุ๊คมาแรง 

โน๊ตบุ๊คที่เอาใจสายกราฟฟิก โดยโน๊ตบุ๊คมาแรงในปี 2022 คือ ASUS ZenBook 14X OLED UX5401 ด้วยดีไซน์ที่หรูหราและสวยงามของโน๊ตบุ๊คยี่ห้อ ASUS นั้นก็ทำให้โดดเด่นมากแล้ว ก็ยังเป็นโน๊ตบุ๊คที่บางและเบาระดับพรีเมี่ยมอีกด้วยน้ำหนักเพียง 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น สามารถพกพาไปทุกที่อย่างสะดวก อีกทั้งยังเป็นหน้าจอที่สามารถสัมผัสได้แบบ OLED มีความละเอียดมากถึง 2.8K ถูกใจเหล่าสายกราฟฟิกกันถ้วนหน้า สามารถกางหน้าจอได้มากถึง 180 องศา สำหรับชิปประมวลผลเป็นแบบ intel Gen 11th มีให้เลือกทั้ง Core i5 และ Core i7 โดยราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 38,990 บาท

ราคาโน๊ตบุ๊คขายดี 

HUAWEI MateBook D 14 เป็นโน๊ตบุ๊คที่เหล่าสายเทคโนโลยีต่างก็บอกกันว่าจะเป็นโน๊ตบุ๊คขายดีแห่งปี 2022 เนื่องจากดีไซน์ที่หรูและบางเฉียบ ด้วยน้ำหนักเพียงแค่ 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น และความหนาของรุ่นนี้คือ 16 มิลลิเมตร มาพร้อมหน้าจอ IPS และ Bezels ทำให้สามารถมองหน้าจอเป็นแบบ Fullview แบบกว้างไม่มีที่สิ้นสุดได้ สามารถกางฝาพับได้สูงสุดถึง 180 องศา ใช้ชิปประมวลผลของ Intel® Core™ i5-10210U พร้อมติดตั้ง PCIe SSD และให้ RAM มากถึง 4GB โดยทาง HUAWEI การันตีแบตเตอรี่ที่สามารถภาพวีดีโอความละเอียดสูงได้ยาวนานที่สุดถึง 13 ชั่วโมง สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 46% ในเวลาเพียง 30 นาที 

ราคาโน๊ตบุ๊คน่าใช้ 

โน๊ตบุ๊คน่าใช้ ของปี 2022 ได้แก่ Acer Aspire 5 A515-45-R8JX โดยขอบของหน้าจอที่บางและสามารถมองได้แบบ Full HD มาพร้อม เทคโนโลยี Acer Color Intelligence การใช้งานแบบ USB-C สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วผ่าน SuperSpeed USB 5Gbps ใช้ชิปประมวลผลแบบ AMD Radeon Graphics ให้ SSD 512GB ได้จัดเก็บข้อมูลได้อย่างมหาศาล อีกทั้งขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว มาพร้อมกับ Blutooth 5.1 ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งหูฟังและอุปกรณ์ต่างๆได้มากยิ่งขึ้น มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64-bit) และราคาโน๊ตบุ๊คเริ่มต้นที่ 18,990 บาท

ราคาโน๊ตบุ๊คถูกและดี 

ในปัจจุบันการทำงานทางออนไลน์กลายเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากแล้ว ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคโคโรน่าไวรัส-19 หรือวิวิฒนาการที่ก้าวล้ำไปอีกขั้นนั้น ทำให้การทำงานผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ตจำเป็น แต่ทั้งนี้ในสถานการณ์เช่นนี้ การเงินก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ ใช่ว่าทุกคนจะมีฐานะทางการเงินที่เท่าเทียมกันเสมอไป ดังนั้นโน๊ตบุ๊คถูกและดีจึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ในปัจจุบันมาก โดยในปี 2022 ที่กำลังจะมาถึงนั้น มีโน๊ตบุ๊คเปิดตัว คือ HP 15-db1003AU, DELL Inspiron 3505-W566155260ATHW10, Asus รุ่น VivoBook X412FA-EK838T เป็นต้น ซึ่งทุกรุ่นที่กล่าวมานั้นจะสามารถใช้งานพื้นฐานของโน๊ตบุ๊คได้อย่างมีประสิทธิภาพและด้วยราคาที่เหมาะสม จึงเชื่อว่าจะเจาะกลุ่มตลาดได้อย่างแน่นอน

 

 

 

เว็บบอล

แนะนำ 6 แอพแต่งรูปขายของ ยอดฮิตที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไม่ควรพลาด 

ทุกวันนี้ แอพแต่งรูปขายของ ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทำมาหากินของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เพราะสิ่งที่ทำให้ลูกค้าสนใจสินค้าของคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นนั้นก็คือรูปภาพของสินค้า ซึ่งในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ หลาย ๆ คน เริ่มหันมาประกอบอาชีพขายของออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ  ทำให้ตลาดมีการแข่งขันค่อนข้างสูง พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์แต่ละคนต้องรู้จักสร้างจุดเด่นให้กับสินค้าของคุณ เพื่อดึงดูดลูกค้า แน่นอนว่าการแต่งรูปสินค้าให้สวยงามก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาด ดังนั้นวันนี้เราจึงมี 6 แอพยอดฮิตที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ควรมีติดเครื่องไว้

6 แอพแต่งรูปขายของยอดฮิต ที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ควรมีติดเครื่องไว้

อย่างที่เราทราบกันในยุคสมัยนี้ผู้คนเริ่มหันมาขายของออนไลน์มากขึ้น ซึ่งการใช้ แอพแต่งรูปขายของ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้าดูดีและดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปัจจุบันมีแอพแต่งรูปขายของออนไลน์ฟรีมากมายโดยแต่ละแอพจะมีเครื่องมือสำหรับใช้ปรับแต่งรูปภาพสินค้าที่เหมือนและแตกต่างกันไป แต่แอพแต่งรูปขายของ 2022 ที่เราได้ทำการคัดสรรมาเป็นอย่างดีนี้ ถือเป็นแอพแต่งรูปขายของฟรียอดฮิตของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ยุคใหม่ ซึ่งด้านล่างนี้คือ 6 แอพยอดฮิตที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ควรมีติดเครื่องไว้ 

LIGHTROOM

แอพ LIGHTROOM เป็น แอพแต่งรูปขายของ ที่ดีที่สุด มีเครื่องมือที่ใช้งานง่ายมากมาย เช่น แถบเลื่อนและพรีเซ็ต เพื่อสร้างรูปภาพที่มีลักษณะตามที่คุณต้องการ ไม่เพียงเท่านั้น LIGHTROOM ยังเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณวางแผนที่จะแก้ไขรูปภาพบนคอมพิวเตอร์ เพราะเมื่อคุณทำการแก้ไข การแก้ไขจะถูกนำไปใช้กับอุปกรณ์ต่างๆ โดยอัตโนมัติ 

SNAPSEED

แอพ SNAPSEED เป็นแอพแต่งรูป ที่มีการนำเอาเครื่องมือของโปรแกรมแก้ไขรูปภาพระดับมืออาชีพมาไว้ในโทรศัพท์ของคุณ พร้อมคุณสมบัติอีกมากมายที่คุณมักพบในโปรแกรมแต่งรูปราคาแพง SNAPSEED สามารถเปลี่ยนการแก้ไขรูปภาพของคุณให้เป็นเวอร์ชันก่อนหน้า เพื่อทำให้ง่ายต่อการบันทึกและนำไปใช้  

VSCO

แอพ VSCO เป็น แอพแต่งรูปขายของ ที่มีเครื่องมือแก้ไขรูปภาพขั้นพื้นฐานทั้งหมด เช่น การเปิดรับแสง การหดตัว ความสมดุลของสี และอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้คุณสามารถแต่งรูปสินค้าออกมาได้อย่างน่าทึ่ง VSCO เป็นแอพแต่งภาพขายของที่ยอดเยี่ยมมีไลบรารีฟิลเตอร์ขนาดใหญ่และตัวเลือกที่ไม่มีที่สิ้นสุดในการปรับแต่งรูปภาพของคุณ 

PHOTO EDITOR PRO

แอพ PHOTO EDITOR PRO มีคุณสมบัติพิเศษมากมาย จึงไม่แปลกที่แอพ PHOTO EDITOR PRO จะเป็นหนึ่งใน APP แต่งรูปขายของฟรีที่ยอดฮิตที่ช่วยยกระดับรูปภาพโฆษณาสินค้าของคุณไปอีกระดับ โดยแอพมีฟิลเตอร์ เอฟเฟกต์ เฟรม และอื่น ๆ อีกมากมาย คุณสามารถปรับแสง สี และความคมชัดของภาพทั้งหมดได้ 

INSTASIZE 

แอพ INSTASIZE มีคุณสมบัติการแต่งรูปภาพที่มีประโยชน์มากมาย เช่น คอนทราสต์ การเปิดรับแสง ความอิ่มตัวของสี และความคมชัด เช่นเดียวกับแอพแต่งรูปขายของไอโฟน หรือแอพแต่งรูปขายของ ANDROID อื่น ๆ INSTASIZE มีฟิลเตอร์ เส้นขอบ กรอบ เครื่องมือรีทัช เครื่องมือแก้ไขข้อความ และอื่น ๆ อีกมากมาย 

PICSART

แอพ PICSART เป็นแอพแต่งรูปที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการทำให้สินค้าของคุณโดดเด่นที่สุดในรูปภาพ PICSART ประกอบด้วยฟิลเตอร์ยอดนิยมและเอฟเฟกต์ภาพถ่ายที่ทันสมัย เหมาะสำหรับการถ่ายภาพสินค้า แถมคุณยังสามารถแก้ไขรูปภาพขั้นพื้นฐานได้ เช่น ทำให้พื้นหลังรูปภาพเบลอ และอื่น ๆ อีกมากมาย

 

 

เว็บบอล