หลักการ JUMP CUT เป็นหนึ่งในหลักการ หรือวิธีในการตัดต่อวิดีโอที่เหล่าครีเอเตอร์หลาย ๆ คนเลือกใช้ในการตัดต่อผลงาน เนื่องจากเทคนิคนี้ช่วยให้วิดีโอมีความกระชับ ไม่ยืดเยื้อ และมีขนาดความยาวของวิดีโอเหมาะสมตามที่ต้องการ ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับหลักการJUMPCUT ให้มากขึ้น และสามารถนำไปใช้ในการตัดต่อคลิปของคุณได้ต่อไป
4 หลักการ JUMP CUT ที่จะทำให้การตัดคลิปเป็นมืออาชีพมากขึ้น

หลักการJUMP CUT ที่เรานำมาฝากเพื่อน ๆ ในวันนี้จะมีทั้งหมด 4 หลักการที่จะช่วยทำให้การตัดแบบ JUMP CUT ของคุณเหมือนระดับมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ซึ่ง JUMP CUTคือ การตัดกระโดด ซึ่งจะเป็นการตัดเอาเดทแอร์ หรือส่วนที่ไม่จำเป็นออกจากคลิป หรือตัดแบบตั้งใจให้คนดูรู้เลยว่าเป็นการตัดกระโดด ซึ่งจะเป็นการกระโดดจากช็อตหนึ่ง ไปยังช็อตหนึ่ง และเป็นเทคนิคที่ถูกใช้กับการตัดต่อคลิปสั้นไปจนถึงเป็น เทคนิคการตัดต่อภาพยนตร์ เลยทีเดียว แต่เราสามารถทำให้การตัดแบบ JUMP CUT เนียนได้ยิ่งขึ้นด้วย 4 เทคนิคง่าย ๆ ดังนี้

การซูมเข้า – ออกของวิดีโอ
การ JUMP CUT พร้อมการซูมเข้าออกของวิดีโอ จะเหมาะกับจังหวะที่เราต้องการเน้นถึงเนื้อหาที่กำลังเสนอในคลิป เช่นคลิปทำแกงเขียวหวาน ที่จังหวะนั้นเราอาจจะต้องการโชว์ภาพของกะทิที่กำลังแตกมัน เราก็ใช้เทคนิคการตัดคลิปออกให้เป็น 2 ช็อตแล้วทำการซูมคลิป ๆ หนึ่ง แล้วนำมาต่อกัน ซึ่งในความเป็นจริงกว่าที่กะทิจะแตกมันอาจต้องใช้เวลานานหลาย แต่เราสามารถตัดเหลือเพียงไม่กี่วินาทีด้วยเทคนิคนี้ แถมยังเป็นการช่วยให้คลิปดูน่าสนใจ หรือดูมีอะไรมากขึ้นนั่นเอง

JUMP CUT ด้วยภาพมุมกล้องหลายมุม
เทคนิคนี้จะต้องอาศัยการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป เพื่อให้วิดีโอที่เริ่ม และ จบพร้อมกัน ซึ่งจะคล้าย ๆ กับ ตัดต่อวิดีโอ ด้วยเทคนิค Cutting on Action แต่ด้วยความที่เป็น JUMP CUT การใช้มุมกล้องที่ 2 หรือ 3 มุมเข้ามาช่วยจึงเป็นการตัดกระโดดที่จะกระโดดได้แบบเนียน ๆ แบบที่คนดูแทบไม่รู้เลยว่าไทม์ไลน์ของวิดีโอไม่ต่อเนื่องกัน แต่ถ้าใครที่อัปเลเวลแล้ว คุณก็สามารถใช้เทคนิคนี้ได้จากการถ่ายวิดีโอจากกล้องเพียงตัวเดียว

ใช้ภาพหรือวิดีโออินเสิร์ท
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ตัดต่อแบบ JUMP CUT เราสามารถอินเสิร์ทภาพ หรือวิดีโอเข้ามาช่วยได้ด้วย สำหรับใครที่อัดคลิปพูด หรือเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เราสามารถอินเสิร์ทภาพหรือวิดีโอที่เกี่ยวกับเรื่องที่เรากำลังพูดขึ้นมาแทนใบหน้าของเรา เพราะให้วิดีโอดูสมูท ไม่กระโดดไปมาจนเกินไปถึงแม้ว่าคลิปต้นฉบับจะมีความกระโดดก็ตาม แต่อันนี้เนียนจนคนดูไม่รู้แน่นอน

ซิงค์เสียงคลิปให้สมูท
ถ้าใครเคยตัดคลิปที่มีการพากย์เสียงจะรู้ว่าเมื่อเรากดหยุดบันทึกเสียงก็จะมีเสียง “ตุบ” เหมือนเสียงเราเคาะอะไรสักอย่าง ซึ่ง การตัดกระโดด ก็เหมือนกัน เมื่อเราตัดคลิปแล้วก็จะมีเสียงเกิดขึ้นเช่นกัน ดังนั้นการซิงค์เสียงคลิปจึงสำคัญเช่นกัน เพราะเมื่อเสียงถูกซิงค์เรียบร้อยคนดูคลิปก็จะรู้สึกว่าคลิปมีความลื่นไหล ฟังแล้วไม่สะดุดซึ่งแต่ละโปรแกรมตัดต่อก็จะมีวิธีซิงค์เสียงที่แตกต่างกันออกไป
วิดีโอที่ไม่เหมาะกับการใช้ หลักการ JUMP CUT

หลังจากที่เห็นรูปแบบของ หลักการ JUMPCUT ไปแล้วว่ามีวิธีใดบ้างที่ทำให้การJUMP CUT มีความสมูทและทำให้วิดีโอของคุณเป็นการตัดต่อคลิประดับมืออาชีพมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ และอยาก ตัดต่อวิดีโอเอง เทคนิคนี้จะไม่เหมาะกับกับวิดีโอที่มีการถ่ายวิว หรือ วิดีโอไทม์แลปส์ เนื่องจากวิดีโอแบบนี้จะต้องมีความต่อเนื่องเพื่อความเป็นธรรมชาติของวิดีโอ

นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้เทคนิคอื่น ๆ หรือฟีเจอร์ต่าง ๆ มาใช้ร่วมด้วยเช่นการใส่ทรานซิชั่นเพื่อเชื่อคลิปหนึ่งไปสู่คลิปหนึ่งเพื่อให้ผู้ชมเข้าใจว่าช่วงเวลาของของวิดีโอได้เปลี่ยนไปจากเวลาช่วงเวลาหนึ่ง ไปยังช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งเราจะเจอได้บ่อยมาก ๆ ในคลิป หรือรายการทำอาหาร
อ่านบทความอื่นๆ:
สนับสนุนโดย: sa-game.bet