Categories
กราฟิก

แนะนำวิธี ออกแบบโลโก้ใน canva สไตล์กราฟฟิตี้ด้วยมือถือ สำหรับมือใหม่ 

เมื่อนึกถึงโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นที่สามารถใช้ออกแบบโลโก้ได้ เชื่อว่ามีหลายคนนึกถึงCanva เพราะเป็นแอพพลิเคชั่นที่มีเท็มเพลตหรือรูปแบบสำเร็จให้เลือกใช้มากมาย ซึ่งเราสามารถเลือกเท็มเพลตที่ชอบแล้วปรับแต่งใหม่ตามที่ต้องการได้ นั่นจึงทำให้Canvaได้รับความนิยม เพราะมือใหม่ก็สามารถใช้งานเองได้ไม่ยาก สำหรับบทความนี้ขอแนะนำเทคนิคการ ออกแบบโลโก้ใน canva ด้วยโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเราจะเน้นสไตล์กราฟฟิตี้เป็นหลัก 

ขั้นตอนการ ออกแบบโลโก้ใน canva สไตล์กราฟฟิตี้ด้วยมือถือ

ออกแบบโลโก้ใน canva

กราฟฟิตี้ นับเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่สามารถพบได้บนผนังหรือกำแพงในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นการขีดเขียนภาพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการอธิบายถึงความรู้สึก หรือการขีดเขียนลวดลายตามจินตนาการ สำหรับใครที่หลงใหลในศิลปะดังกล่าว และอยากจะได้โลโก้ กราฟฟิตี้สวยๆ ก็ไม่ควรพลาดกับบทความนี้ เพราะเราจะมาอธิบายขั้นตอนและวิธีการออกแบบโลโก้ในcanva สไตล์กราฟฟิตี้ด้วยมือถือง่าย ๆ ไปดูกันว่าจะมีขั้นตอนและวิธีการอย่างไรบ้าง 

การเลือกเท็มเพลตและปรับแต่งพื้นหลังใหม่

ออกแบบโลโก้ใน canva

หลังจากลงทะเบียนเข้าใช้และเข้าสู่หน้าแรกของ Canva แล้ว ต่อมาให้กดที่ปุ่ม “+” ตามด้วย “โลโก้” ค้นหาเท็มเพลต โลโก้สไตล์กราฟฟิตี้ เลื่อนดูรูปแบบที่ชอบแล้วกดเลือกได้เลย เมื่อได้โลโก้จากเท็มเพลตที่เลือกมาแล้วให้เริ่มต้นปรับแต่งใหม่ ซึ่งภายในโลโก้จะประกอบด้วยองค์ประกอบ ข้อความ และพื้นหลัง โดยจะเริ่มออกแบบ กราฟฟิตี้ ง่ายๆ ด้วยการปรับแต่งพื้นหลังใหม่ ให้เลือกเมนู “สี” และเลือกสีสันแนวสตรีทอาร์ตตามความชอบ

การใช้องค์ประกอบ

ออกแบบโลโก้ใน canva

สำหรับการเพิ่มองค์ประกอบในโลโก้สามารถกดเลือกได้ที่ “+” ตามด้วย “องค์ประกอบ” จากนั้นเลือกรูปแบบที่ต้องการได้เลย โดยจะมีเส้นและรูปทรง กราฟิก สติกเกอร์ ภาพถ่าย และอื่น ๆ ให้เลือกใช้งาน เมื่อกดเลือกองค์ประกอบที่ต้องการแล้วให้จัดวางไว้ในตำแหน่งของโลโก้อย่างเหมาะสม ซึ่งเราสามารถออกแบบโลโก้โดยการใส่องค์ประกอบตามที่ต้องการได้เลย โดยเน้นรูปแบบแนวสตรีทอาร์ต หรือ กราฟฟิตี้ การ์ตูน ที่มีสีสันและเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นหลัก

การปรับแต่งตัวอักษร

ออกแบบโลโก้ใน canva

การปรับแต่งตัวอักษรให้กดไปที่ข้อความหรือตัวอักษรบนโลโก้ที่เลือกมา จากนั้นลบข้อความเก่าออกแล้วพิมพ์ชื่อแบรนด์ของโลโก้ลงไป ต่อมากดไปที่เมนู “ฟอนต์” เลือก ฟอนต์ กราฟฟิตี้ เช่น Sprite Graffiti หรือ Sprite Graffiti Shadow เป็นต้น จากนั้นไปที่ “ขนาดฟอนต์” ปรับขนาดตามต้องการ ถัดมากดที่ “สี” เลือกสีตัวอักษรตามความชอบ ส่วนการปรับสไตล์และรูปทรงของฟอนต์ให้ไปที่ “เอฟเฟ็กต์” แล้วเลือกรูปแบบ กราฟฟิตี้ ตัวอักษร ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นอื่น ๆ ที่สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ด้วย 

การนำโลโก้ที่ ออกแบบโลโก้ใน canva ไปใช้งาน

ออกแบบโลโก้ใน canva

หากต้องการนำโลโก้ที่ออกแบบด้วยตัวเองใน Canva ไปใช้เป็น กราฟฟิตี้ วอลเปเปอร์ ก็สามารถทำได้ แต่การออกแบบโลโก้ในโปรแกรม canva เพื่อใช้สร้างแบรนด์อย่างจริงจัง โดยนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์และจดเครื่องหมายการค้า จำเป็นต้องออกแบบโลโก้ให้อยู่ภายใต้เงื่อนไขของ Canva กล่าวคือเราสามารถใช้ฟอนต์ต่าง ๆ ของแอพพลิเคชั่นในการออกแบบได้ แต่ไม่สามารถนำองค์ประกอบหรือโลโก้สำเร็จรูปมาใช้ในการออกแบบเพื่อจดเครื่องหมายการค้าได้ ต้องใช้รูปร่างและเส้นพื้นฐานเท่านั้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://hilo-88.net/ 

Categories
มือใหม่

แนะนำการ แต่งรูป Photoscape ด้วยเทคนิคปรับสีและแสงให้สวยแบบที่ต้องการ 

Photoscape เป็นโปรแกรมตัดต่อกราฟิกที่มีมาอย่างยาวนาน เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหูกับชื่อนี้พอสมควร เพราะเป็นหนึ่งในโปรแกรมแต่งรูปยอดนิยมที่สามารถใช้งานได้ง่าย มีการพัฒนาและออกแบบมาเพื่อเอาใจสายแต่งรูปขั้นเทพ ซึ่งจะมีฟีเจอร์และลูกเล่นต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น สำหรับบทความนี้ขอนำเสนอเทคนิคการ แต่งรูป Photoscape โดยจะเน้นสีและแสงเป็นหลัก

วิธีการ แต่งรูป Photoscape ด้วยการเน้นสีและแสงให้เป็นไปตามความต้องการ

แต่งรูป Photoscape

สีและแสงถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยทำให้รูปภาพของเราสวยขึ้นได้ ในกรณีที่ถ่ายรูปแล้วสีและแสงยังไม่สวยตามความต้องการ เราสามารถใช้ โปรแกรมแต่งภาพ pc ฟรี เข้ามาช่วยในการปรับแต่งรูปภาพให้ดูสมบูรณ์ขึ้นได้ บทความนี้ขอนำเสนอวิธีการ แต่งรูปPhotoscape ด้วยเทคนิคการปรับสีและแสงของภาพให้ดูสวยและเนียนตา จะมีขั้นตอนอะไรบ้าง มาดูกันเลย

แต่งรูป Photoscape

การโทนสีของรูปภาพ

เมื่อ ดาวน์โหลด photoscape ฟรีถาวร แล้ว สามารถเริ่มใช้งานได้เลย โดยให้เลือกรูปภาพที่จะใช้แต่ง จากนั้นปรับค่า “Auto Levels” และ “Auto Contrast” ตามที่ต้องการ หากยังไม่พอใจกับค่า Auto Levels และ Auto Contrast ของโปรแกรมก็สามารถปรับเองได้เลย โดยจะมีแถบให้เลือกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Brighten, Darken, Deepen, Vibrance และ Clarity สามารถเน้นสีให้โดดเด่นด้วยการคลิกที่ “Magic Color” จะเห็นว่าสีนั้นโดดเด้งออกมา เมื่อปรับสีจนพอใจแล้วให้คลิก “Apply” 

แต่งรูป Photoscape

การลบรอยสิว หรือจุดด่างดำบนใบหน้าและผิว

นอกจากการปรับแต่งสีและแสงแล้ว โปรแกรมแต่งรูป photoscape ยังมีเครื่องมือลบรอยสิวและจุดด่างดำด้วย หากต้องการจะลบรอยแผลเป็นหรือรอยสิวให้คลิกไปที่ “Tools” ในมุมขวาบนสุด จากนั้นเลือก “Spot Healing Brush” โดยสามารถปรับขนาดของแปรงได้ที่แถบ “Brush Size” จากนั้นกดลบรอยแผลเป็นที่ผิวได้เลย หากเป็นรอยสิวหรือจุดด่างดำ แนะนำให้เลือกใช้เครื่องมือ “Remove Stain” จากนั้นทำการลบรอยสิวหรือรอยดำที่อยู่บนผิวได้เลย 

แต่งรูป Photoscape

การใส่ฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์

การใส่ฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์ สามารถคลิกที่เมนู “Film” ซึ่ง โปรแกรมแต่งรูป photoscape ฟรี จะมีฟิลเตอร์ต่าง ๆ ให้เลือกใช้มากมาย โดยเลือกใช้ฟิลเตอร์ตามความชอบได้เลย ส่วนการใส่เอฟเฟกต์นั้นให้คลิกไปที่ “Light” จะเห็นว่ามีเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ให้เลือกหลายแบบ หากต้องการใช้เอฟเฟกต์ตัวไหนก็ให้คลิกที่ตัวนั้นได้เลย หลังจากแต่งรูปจนได้โทนสีและแสงแบบที่พอใจแล้วให้คลิก “Save” ไว้ในโฟลเดอร์ที่หาไฟล์งานได้ง่าย

เทคนิคการรวมภาพที่ แต่งรูป Photoscape ไว้ในเฟรมเดียวกันแบบง่าย ๆ

แต่งรูป Photoscape

เมื่อแต่งรูปด้วย Photoscape จนได้สีและแสงตามแบบที่ต้องการแล้ว ต้องบอกว่า Photoscape เป็น โปรแกรมรวมรูปฟรี ซึ่งสามารถรวมรูปโดยคลิกที่ “Collage” ด้านบน ฝั่งซ้ายมือจะมีรูปภาพที่เพิ่มไว้ในโฟลเดอร์ปรากฏขึ้น ส่วนฝั่งขวามือจะมี “Frame” หรือกรอบต่าง ๆ ให้เพิ่มรูปภาพทั้งหมดประมาณ 4 รูป จากนั้นเลือกรูปแบบ Frame หรือกรอบรูปตามที่ต้องการ และปรับขนาดกรอบได้ที่ Size (px) ต่อมาเพิ่มรูปโดยคลิกที่ภาพแล้วดึงไปไว้ในกรอบ สามารถแต่งรูปเพิ่มเติมได้ตามที่ต้องการ เสร็จแล้วคลิก “Apply”

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://ufaball.bet/ 

Categories
เทคนิค

เทคนิคการ ตัดต่อวิดีโอ Adobe Premiere Pro เบื้องต้น สำหรับมือใหม่ 2023 

Adobe Premiere Pro เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยฟีเจอร์ของโปรแกรมจะถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานง่าย สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่ม ตัดต่อวิดีโอ Adobe Premiere Pro อาจจะสับสนบ้างในบางครั้ง ฉะนั้นบทความนี้จึงอยากแนะนำเทคนิคการตัดต่อวิดีโอเบื้องต้นด้วยโปรแกรม Adobe Premiere Pro ให้กับมือใหม่ที่อยากจะตัดต่อวิดีโอด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ 

ขั้นตอนการ ตัดต่อวิดีโอ Adobe Premiere Pro ขั้นพื้นฐาน

ตัดต่อวิดีโอ Adobe Premiere Pro

การตัดต่อวิดีโอด้วยโปรแกรม Adobe Premiere Pro ทำได้ไม่ยากนัก ในช่วงแรก ๆ เราอาจจะไม่เข้าใจวิธีการใช้งานต่าง ๆ แต่เมื่อฝึกใช้ไปเรื่อย ๆ จะทำให้คุ้นเคยมากขึ้น สำหรับมือใหม่ที่อยากจะทราบว่า ขั้นตอนการตัดต่อวิดีโอมีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง บทความนี้จะให้กับคำตอบกับคุณ โดยเราจะขอแนะนำเทคนิคการ ตัดต่อวิดีโอAdobe Premiere Pro แบบง่าย ๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง หากพร้อมแล้วไปดูขั้นตอนการตัดต่อวิดีโอได้เลย 

ตัดต่อวิดีโอ Adobe Premiere Pro
  1. การนำเข้าวิดีโอ

ก่อนจะทราบว่า โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ มีอะไรบ้าง เราต้องนำเข้าวิดีโอก่อน โดยคลิกปุ่มขวาของเมาส์ เลือก “Import” เลือกไฟล์วิดีโอและคลิก “Open” ต่อมาให้ลากไฟล์วิดีโอไปไว้ในช่องไทม์ไลน์ คลิกที่ “Sequence” เพื่อตั้งค่าวิดีโอ ตามด้วย “Sequence Settings” เสร็จแล้วคลิก “OK” หากต้องการให้วิดีโอสมมาตรกับการตั้งค่าให้วางเมาส์ไปที่วิดีโอในช่องไทม์ไลน์ จากนั้นกดปุ่มขวาที่เมาส์แล้วเลือก “Set to Frame Size”

ตัดต่อวิดีโอ Adobe Premiere Pro
  1. การตัดวิดีโอบางส่วนออก

ขั้นตอนแรกเลื่อนเส้นสีฟ้าที่อยู่ระหว่างไทม์ไลน์ไปไว้ในตำแหน่งที่ต้องการจะตัดวิดีโอ กดปุ่ม C ที่แป้นพิมพ์ จะมีสัญลักษณ์รูปใบมีดขึ้นมา หากจะตัดตรงไหนก็คลิกตรงนั้น โดยคลิกส่วนหน้าเพื่อครอบตัด กดปุ่ม V ที่แป้นพิมพ์ เพื่อให้เมาส์กลับมาอยู่ในโหมดปกติ จากนั้นกดวิดีโอส่วนหลังที่จะครอบตัด เมื่อเลื่อนเส้นสีฟ้าไปที่ตำแหน่งจะตัดแล้วให้กดปุ่ม C แล้วคลิกเพื่อตัด ต่อมากดปุ่ม V คลิกช่องที่ครอบไว้แล้วกด Delete 

ตัดต่อวิดีโอ Adobe Premiere Pro
  1. การตัดเสียงออกจากวิดีโอ

หากต้องการแยกการทำงานให้คลุมแถบวิดีโอและแถบเสียง จากนั้นกดปุ่มขวาที่เมาส์ เลือก “Unlink” แถบวิดีโอและเสียงจะแยกออกจากกัน หากจะลบเสียงให้คลุมแถบเสียงแล้วกดปุ่ม Delete ในกรณีที่ต้องการตัดเสียงบางส่วนออกให้กด C แล้วกดครอบส่วนหน้าและหลังที่ต้องการจะตัด จากนั้นกด Delete สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะใช้ โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ ตัวไหนดี ก็สามารถเลือก Adobe Premiere Pro ได้เลย 

ขั้นตอนการแปลงไฟล์หลังจากตัดต่อวิดีโอ Adobe Premiere Pro เสร็จ

ตัดต่อวิดีโอ Adobe Premiere Pro

มาถึงตรงนี้คงทราบแล้วว่า โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ Adobe Premiere Pro มีข้อดีอย่างไร สำหรับการแปลงวิดีโอที่ตัดต่อให้กลายเป็นไฟล์ Mp4 ทำได้โดยคลิกที่เมนู File ด้านบนสุด เลือก “Export” > “Media” จากนั้นคลิกที่ Location เลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการบันทึกไว้และตั้งชื่อไฟล์ เสร็จแล้วคลิก “Save” ต่อมาตั้งค่า Preset โดยเลือก Match Source – Adaptive High Bitrate ส่วนของ Format ให้เลือก H264 เสร็จแล้วคลิก “Export” เพียงเท่านี้ก็จะได้ไฟล์วิดีโอ Adobe Premiere Pro แล้ว 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://hilo-88.net/ 

Categories
เสียง

สอนวิธีการ ตัดต่อเสียงง่าย ๆ บน iPhone + iOS 13 ด้วยแอป Voice Memos 

นอกจากการบันทึกเสียงแล้ว การตัดต่อเสียงก็เป็นขั้นตอนหนึ่งที่จะทำให้เสียงที่อัดมาสมบูรณ์แบบมากขึ้น เพราะเสียงที่ผ่านการบันทึกมานั้นอาจมีบางช่วงที่เราไม่ต้องการ ฉะนั้นการตัดต่อเสียงจึงเป็นวิธีที่จะช่วยให้เสียงลงตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตัดเสียงที่ไม่ต้องการออก หรือการนำไฟล์เสียงมารวมเข้าด้วยกัน ล้วนเป็นขั้นตอนการตัดต่อเสียงที่สามารถใช้มือถือทำได้ บทความนี้จะมาสอนการ ตัดต่อเสียงง่าย ๆ ด้วยแอป Voice Memos บน iPhone + iOS 13 

ขั้นตอนการ ตัดต่อเสียงง่าย ๆ บน iPhone + iOS 13

ตัดต่อเสียงง่าย ๆ

ความสามารถในการบันทึกเสียงของ iPhone ช่วยให้เราสามารถบันทึกเสียงในห้องเรียน ห้องประชุม รวมถึงงานสัมมนาได้อย่างงายดาย เมื่อบันทึกเสียงแล้วจะช่วยให้เราสามารถนำกลับมาฟังซ้ำเพื่อทบทวนได้อย่างสะดวก สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS 13 ขึ้นไป Apple ได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่ในการสร้างชุด Copy ของไฟล์เสียง อีกทั้งยัง ตัดต่อเสียง และแทนที่เสียงได้อีกด้วย มาดูกันว่าการ ตัดต่อเสียงง่ายๆ บน iPhone + iOS 13 ด้วยแอป Voice Memos จะมีขั้นตอนอะไรบ้าง 

ตัดต่อเสียงง่าย ๆ

การทำสำเนาไฟล์เสียง

ก่อนอื่นให้เปิดแอป Voice Memos จากนั้นแตะเลือกเสียงที่ต้องการแก้ไข จะมีรายการคำสั่งและปุ่มต่าง ๆ แสดงอยู่ด้านล่าง ให้เริ่มทำสำเนาหรือ Copy ไฟล์เสียงก่อน สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะ ใช้โปรแกรมอะไรบันทึกเสียง ก็สามารถอัดเสียงด้วยแอป Voice Memos ได้เลย ส่วนวิธีทำสำเนาไฟล์เสียงให้กดที่ปุ่มรูปจุด 3 จุด เลือก “ทำสำเนา” เพียงเท่านี้เราก็จะได้ไฟล์เสียงชุด Copy แล้ว 

ตัดต่อเสียงง่าย ๆ

การเพิ่มเสียงใหม่แทนตำแหน่งที่ต้องการ

เริ่มจากแตะที่ไฟล์ชุด Copy แล้วกดปุ่มรูปจุด 3 จุด เพื่อเปิดเมนู ต่อมาเลือก “แก้ไขการอัด” ในหน้าจอที่แสดงขึ้นมาเราสามารถแตะแล้วลากเพื่อกำหนดตำแหน่งในการเล่น หรือแตะ 2 นิ้วแล้วกางออกหรือบีบเข้าในกรอบกราฟเสียงเพื่อย่อขยายให้เราตัดต่อในตำแหน่งที่แม่นยำได้มากขึ้น และสามารถบันทึกเสียงใหม่แทนตำแหน่งที่ต้องการได้เลย 

ตัดต่อเสียงง่าย ๆ

การตัดเสียงที่ไม่ต้องการออก

ถ้าต้องการตัดต่อเพื่อเอาเสียงช่วงใดออก เราสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการกดไปที่ไอคอนมุมขวาบน จากนั้นจะเห็นว่ามีหน้าจอตัดต่อแสดงขึ้นมา เริ่มจากการแตะแล้วลากกรอบด้านซ้ายเพื่อกำหนดตำแหน่งเริ่มต้น จากนั้นแตะแล้วลากกรอบด้านขวาเพื่อกำหนดตำแหน่งจุดสิ้นสุด เมื่อได้ตำแหน่งที่ต้องการจะลบออกแล้ว เราสามารถทดลองฟังเสียงก่อนที่จะลบได้ หากแน่ใจแล้วให้แตะคำสั่ง “ลบ” ได้เลย เสียงดังกล่าวจะถูกตัดออกไป 

ตัดต่อเสียงง่าย ๆ

การตัดต่อเสียงที่ต้องการจะบันทึก

ขั้นตอนการตัดต่อเสียงที่ต้องการจะบันทึกทำได้ง่าย ๆ หากใครใช้ iPhone แล้วไม่รู้ว่า โปรแกรมตัดต่อเสียงมีอะไรบ้าง ก็สามารถเลือกใช้แอป Voice Memos ได้เลย โดยเริ่มจากการแตะแล้วลากที่กรอบเสียงด้านซ้ายและขวาเพื่อกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของไฟล์ แล้วให้กดที่คำสั่ง “ตัดต่อ” หลังจากได้ผลลัพธ์ที่ต้องการแล้วให้กด “บันทึก” เพื่อทำการบันทึกไฟล์ หรือถ้าไม่ต้องการบันทึกก็สามารถกด “ยกเลิก” เพื่อยกเลิกการตัดต่อทั้งหมดได้

ความแตกต่างระหว่างการ ตัดต่อเสียงง่าย ๆ บนมือถือและคอมพิวเตอร์

ตัดต่อเสียงง่าย ๆ

บางครั้งการตัดต่อเสียงบนมือถืออาจสะดวกกว่าการตัดต่อเสียงบนคอมพิวเตอร์ แม้ว่าก่อนหน้านี้เราอาจสงสัยว่าในมือถือมี เครื่องมือใดที่ใช้ในการตัดเสียง ได้บ้าง ในปัจจุบันมือถือถูกพัฒนาให้มีเครื่องมือตัดต่อเสียงที่ใช้งานง่ายและสะดวกมากขึ้น ทว่ากระบวนการหรือขั้นตอนการตัดต่อที่ซับซ้อนและมีรายละเอียดเยอะเป็นพิเศษนั้น การใช้คอมพิวเตอร์ตัดต่อเสียงอาจง่ายกว่า 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://hilo-88.com/ 

Categories
กราฟิก

How to ออกแบบตัวอักษรกราฟิก ให้โดดเด่นด้วยโปรแกรม Illustrator 

นอกจากโปรแกรมชื่อดังอย่าง Photoshop แล้ว ยังมี Illustrator ที่เป็นโปรแกรมในตระกูลเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมวาดภาพกราฟิกแบบเวกเตอร์ที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว ภายในโปรแกรมจะมีเครื่องมือต่าง ๆ ให้เหล่ากราฟิกดีไซเนอร์ได้เลือกใช้กันอย่างมากมาย สำหรับบทความนี้จะมาแนะนำวิธี ออกแบบตัวอักษรกราฟิก ให้สวยงามและโดดเด่นด้วยโปรแกรม Illustrator 

ขั้นตอนการ ออกแบบตัวอักษรกราฟิก ในโปรแกรม Illustrator

ออกแบบตัวอักษรกราฟิก

กราฟิก ดีไซเนอร์ คือ บุคคลออกแบบงานกราฟิกประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษร รูปภาพ รวมไปถึงสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ที่เราพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ต่าง ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะกราฟิกถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยดึงดูดคนให้สนใจแบรนด์นั้น ๆ มากขึ้น สำหรับใครที่อยากจะ ออกแบบตัวอักษร กราฟิก เพื่อใช้ทำโลโก้แบรนด์ หรืออะไรก็ตามแต่ วันนี้เรามีวิธีออกแบบตัวอักษรด้วยโปรแกรม Illustrator ซึ่งสามารถทำตามได้ ดังนี้ 

ออกแบบตัวอักษรกราฟิก

การเริ่มต้นออกแบบตัวอักษรกราฟิก

เปิดโปรแกรม Illustrator โดยเราจะใช้เวอร์ชั่น CC 2018 เริ่มแรกกดไปที่ File > New > Web จากนั้นตั้งค่า Width และ Height = 960 / Pixels สำหรับ Orientation ให้คลิกตัวเลือกแรก เสร็จแล้วคลิกที่ “Create” ต่อมาคลิกที่แถบ Window > Workspace > Printing and Proofing จากนั้นจะเห็นเครื่องมือต่าง ๆ ปรากฏขึ้นมา ให้เริ่มออกแบบตัวอักษร กราฟิก โดยคลิกที่ “Type Tool (T)” ทางด้านซ้ายมือ ต่อมาคลิกที่หน้ากระดาษ 1 ครั้ง แล้วพิมพ์ข้อความที่ต้องการลงไป

ออกแบบตัวอักษรกราฟิก

การปรับตัวอักษร

ปรับตัวอักษรโดยคลิกที่ “Paragraph” ด้านบน เลือกขนาดใหญ่สุด คือ 72 pt หรือถ้าต้องการใหญ่กว่านี้ให้กด Shift ที่แป้นพิมพ์แล้วใช้เมาส์ขยายได้เลย ต่อมาเลือกฟอนต์และสีที่ชอบจากเมนูด้านบน และใส่ขอบสีได้ด้วย ซึ่งสามารถเพิ่มขนาดขอบเส้นตัวอักษรโดยการคลิกที่ช่องถัดจาก Stroke หากยังไม่พอใจสามารถเพิ่มมิติให้ตัวอักษรโดยคลิกที่ Window > Appearance เริ่มต้นด้วยการคลิกที่ตัวอักษรก่อน จากนั้นคลิก “Add New Stroke” ที่เป็นสัญลักษณ์สี่เหลี่ยมด้านล่างของหน้าต่าง Appearance

ออกแบบตัวอักษรกราฟิก

การปรับแต่งเส้นตัวอักษร

เมื่อคลิก “Add New Stroke” ในหน้าต่าง Appearance แล้วจะมีเส้นตัวอักษรปรากฏขึ้น ให้คลิกที่แถบสีเพื่อเปลี่ยนสี และเลือกสีตัวอักษรที่ “Fill” โดยปรับขนาดเส้น Stroke ได้ในแถบที่อยู่ข้างแถบสี หากมีเส้นซ้อนกันแล้วดูไม่สวยก็ให้ย้ายเลเยอร์ Stroke ลงมาไว้ข้างล่าง และถ้าตัวอักษรยังดูธรรมดาก็ให้ ออกแบบ กราฟิกดีไซน์ โดยเพิ่มมิติด้วยเงาซ้อนด้านหลัง คลิกที่ Edit ด้านบน ตามด้วย “Copy” จากนั้นคลิก Edit อีกครั้ง และเลือก “Paste” จะได้ตัวอักษรอีกอันหนึ่ง และจัดวางให้เป็นเงาซ้อนด้านหลังได้เลย

ออกแบบตัวอักษรกราฟิก

การสร้างเงาตัวอักษร

เริ่มต้นจากการคลิกขวาที่เมาส์แล้วเลือก “Create Outlines” จากนั้นไปที่ “Object” อีกครั้ง เลือก “Expand…” จะมีหน้าต่างปรากฏขึ้น ให้คลิก “OK” ต่อมาคลิก “Pathfinder” ที่อยู่ด้านขวาบนใกล้แถบสี และคลิกคำสั่งที่เป็น Unite ใน Shape Modes เปลี่ยนสีให้เข้มกว่า Stroke เพื่อให้ดูเป็นเงา คลิกขวาที่เมาส์แล้วเลือก “Arrange” > “Send to Back” จะได้เงาข้างหลังตัวอักษร กราฟิกดีไซน์ สวยๆ ซึ่งสามารถเปลี่ยนสีตามที่ต้องการได้เลย

ออกแบบตัวอักษรกราฟิก

การปรับแต่งสไตล์ตัวอักษร

คลิกที่แถบ Select ด้านบน เลือก “Same” > “Stroke Weight” จะเห็นว่ามีช่องครอบตัวเส้นที่เราขีดเอาไว้ทั้งหมด ให้ปรับขนาดตัวเส้นที่เมนูถัดจาก Stroke ต่อมาเลือกสไตล์เส้น คลิกที่ “Stroke” ปรับให้มีความโค้งเว้า เสร็จแล้วทำเงาสะท้อนด้านล่างตัวอักษรด้วยวิธีเดียวกัน และปรับสไตล์และสีตามต้องการ ก่อนจะบันทึกสามารถเก็บรายละเอียดและสร้าง กราฟิก ดีไซน์ พื้น หลัง กราฟิก เพื่อให้เข้ากับตัวอักษรที่ออกแบบได้ ซึ่งจะทำให้เราเห็นตัวอักษรกราฟิกได้เด่นชัดมากขึ้น

คำแนะนำสำหรับมือใหม่เพิ่งใช้โปรแกรม Illustrator ออกแบบตัวอักษรกราฟิก

ออกแบบตัวอักษรกราฟิก

Illustrator มีชื่อเต็มว่า Adobe Illustrator เป็นโปรแกรมวาดภาพกราฟิกแบบเวกเตอร์ เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมในวงการกราฟิกดีไซน์ และ กราฟิกดีไซน์ คือ การออกแบบกราฟิก ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษร รูปภาพ และสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ลงบนพื้นผิวแนวราบ 2 มิติ สำหรับมือใหม่ที่จะออกแบบตัวอักษรด้วยโปรแกรมนี้ แนะนำให้ดูคลิปวิดีโอเป็นตัวอย่างเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้เครื่องมือก่อน หลังจากนั้นค่อยลงมือออกแบบตามเทคนิคที่เราแนะนำไปได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://hilo-88.com/ 

Categories
มือใหม่

แต่งรูป Lightroom มือใหม่ แบบคุมโทนสี อธิบายความรู้สึกผ่านภาพด้วยโทนสีต่าง ๆ

เชื่อว่าหลายคนต้องการแต่งรูปด้วยตัวเอง แต่ด้วยความที่ยังเป็นมือใหม่จึงกลัวว่าจะทำได้ยาก หรือแต่งออกมาแล้วไม่สวยตามที่ต้องการ อย่างไรก็ตามการเรียนรู้วิธีการแต่งรูปนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะทุกวันนี้โปรแกรมหรือแอพลิเคชั่นแต่งรูปมีให้เลือกใช้กันอย่างมากมาย และหลายโปรแกรมก็สามารถใช้งานได้ไม่ยากด้วย สำหรับบทความนี้เราขอแชร์เทคนิคการ แต่งรูป Lightroom มือใหม่ แบบคุมโทนสีต่าง ๆ เพื่อให้ภาพแสดงอารมณ์ได้ดีขึ้น

วิธี แต่งรูป Lightroom มือใหม่ แบบคุมโทนต่าง ๆ

แต่งรูป Lightroom มือใหม่

ต้องบอกว่าเทรนด์การแต่งรูปคุมโทนนั้นได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะการโพสรูปในอินสตาแกรม เรามักจะเห็นว่าหลาย ๆ คนมักโพสรูปที่มีโทนสีเดียวกัน เพื่อให้ธีมสีในอัลบั้มภาพของอินสตาแกรมเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเราสามารถทำได้โดยการ แต่งรูป lightroom คุมโทน สำหรับใครที่อยากคุมโทนสีของภาพในอินสตาแกรม วันนี้เรามีเทคนิคการ แต่งรูปLightroomมือใหม่ แบบคุมโทนต่าง ๆ มาฝากด้วย 

คุมโทนธรรมชาติ

แต่งรูป Lightroom มือใหม่

ขั้นตอนแรกให้เลือกรูปถ่ายกับธรรมชาติ โดยเน้นให้มีสีเขียวเป็นองค์ประกอบหลัก จากนั้นเริ่ม แต่งรูป lightroomโทนธรรมชาติ ด้วยการกดไปที่แถบแสง ตามด้วย “เคิร์ฟ” จากนั้นดึงจุดล่างสุดขึ้นเล็กน้อย, จุดที่ 2 ดึงลงเล็กน้อย, จุดที่ 3 ดึงขึ้นเล็กน้อย, จุดที่ 4 ดึงขึ้นเล็กน้อย และจุดที่ 5 จุดสุดท้ายด้านบนสุดให้ดึงลงเล็กน้อย จะเห็นว่าเส้นสีขาวนั้นจะมีลักษณะคล้ายตัว S ต่อมากด “เสร็จสิ้น” หลังจากนั้นปรับคอนทราสต์ -11, ไฮไลต์ -22, เงา -15 และสีดำ -21 เพียงเท่านี้ก็จะได้รูปภาพโทนธรรมชาติแล้ว

คุมโทนเกาหลี

แต่งรูป Lightroom มือใหม่

ขั้นตอนแรกของการ แต่งรูป lightroomโทนเกาหลี ให้เลือกรูปที่มีสีขาวหรือสีครีมเป็นองค์ประกอบหลัก และมีสีเข้มน้อยที่สุด เริ่มแต่งรูปโดยกดแถบแสงเพื่อเพิ่มความสว่างให้กับภาพ ตั้งค่าการรับแสง +0.50, คอนทราสต์ -35, ไฮไลต์ -30, เงา +30, สีขาว -45 และสีดำ +40 ต่อมากดไปที่แถบสีที่อยู่ด้านข้างแถบแสง ปรับอุณหภูมิ +10 จากนั้นกด “มิกซ์” ด้านบน กดเลือกจุดสีเหลือง ปรับความอิ่มของสี -56 และเพิ่มความสว่าง +50 จะได้รูปโทนเกาหลีมากขึ้น หากรู้สึกว่าสีซีดเกินไปก็สามารถปรับความเข้มและความสว่างของสีได้ 

คุมโทนดาร์ก

แต่งรูป Lightroom มือใหม่

ขั้นตอนแรกให้เลือกรูปที่มีสีดำ 70% และเริ่ม แต่งรูปlightroom โทนดาร์ก โดยการกดที่แถบแสง > “เคิร์ฟ” ต่อมากดเส้นเคิร์ฟ 3 จุด จุดล่างสุดให้ดึงขึ้นเล็กน้อย, จุดที่ 2 ดึงลงเล็กน้อย, จุดที่ 3 ดึงลงเล็กน้อย, จุดที่ 4 และ 5 ให้ดึงลงจนเรียงกันเป็นเส้นตรง และกด “เสร็จสิ้น” จากนั้นปรับการรับแสง +0.18, คอนทราสต์ +60, ไฮไลต์ -52, เงา +61, สีขาว -13 และสีดำ +11 ต่อมากดแถบสี ปรับอุณหภูมิ +5 และความอิ่มของสี -22 ถัดมาไปที่ “มิกซ์” กดเลือกสีส้ม ปรับเฉดสี -20, ความอิ่มของสี -10 และความสว่าง +81

How to copy preset แต่งรูป Lightroom มือใหม่ คุมโทนได้ง่ายและเร็วขึ้น

แต่งรูป Lightroom มือใหม่

โปรแกรม แต่งรูป lightroom มือถือ สามารถคัดลอกการตั้งค่าของรูปภาพที่เราแต่งเสร็จแล้วได้ หากต้องการแต่งรูปใหม่ให้มีโทนสีเดียวกับภาพเก่าก็สามารถ Copy Preset ได้ โดยกดไปที่จุด 3 จุดด้านบนของรูปที่แต่งเสร็จแล้ว ต่อมากด “คัดลอกการตั้งค่า” และกด “√” หลังจากนั้นไปเลือกรูปที่ต้องการจะแต่ง กดไปที่จุด 3 จุดด้านบนของรูป และกด “วางการตั้งค่า” เพียงเท่านี้ก็จะได้รูปภาพโทนเดียวกับภาพเก่าที่แต่งก่อนหน้านี้แล้ว จะเห็นว่าการแต่งรูปด้วย นั้นง่ายมาก ๆ 


อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://ufaball.bet/ 

Categories
เทคนิค

เทคนิคการ ตัดต่อวิดีโอ บนมือถือ ขั้นพื้นฐาน ด้วยโปรเจกต์ของ KineMaster 

KineMaster เป็นแอพลิเคชั่นสำหรับตัดต่อวิดีโอที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะสามารถใช้งานได้ฟรีและไม่ยุ่งยาก สำหรับมือใหม่ที่ต้องการ ตัดต่อวิดีโอ บนมือถือ แบบง่าย ๆ และประหยัดเวลา KineMaster ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะฟีเจอร์ของแอพลิเคชั่นดังกล่าวถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพหรือมือใหม่ก็สามารถตัดต่อวิดีโอได้ดีไม่แพ้กัน

ขั้นตอนการ ตัดต่อวิดีโอ บนมือถือ ด้วยแอพลิเคชั่น KineMaster ฉบับมือใหม่

    ตัดต่อวิดีโอ บนมือถือ

    KineMaster เป็น โปรแกรมตัดต่อวีดีโอในโทรศัพท์ ฟรี ที่มีฟังก์ชั่นพิเศษให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ซึ่งเหมาะกับมือใหม่มาก ๆ เพราะวิธีการใช้งานค่อนข้างง่าย โดยจะมีรูปแบบ Intro ต่าง ๆ ที่เราสามารถเลือกนำมาใช้ได้แบบไม่ยาก เพียงแค่เลือกโหมดใน โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ แล้วนำวิดีโอของเราไปใส่ก็จะได้วิดีโอตามที่ต้องการแล้ว ในวันนี้เราจะแนะนำเทคนิคการ ตัดต่อวิดีโอบนมือถือ ด้วยโปรเจกต์ของ KineMaster แบบง่าย ๆ ใช้เวลาไม่นาน มาดูกันว่าจะมีขั้นตอนอะไรบ้าง 

    ตัดต่อวิดีโอ บนมือถือ
    1. การเลือกใช้โปรเจกต์วิดีโอ

    ขั้นตอนแรกให้กดที่เมนู “Get Projects” จะมีรูปแบบวิดีโอให้เลือกใช้มากมาย ซึ่งจะแบ่งตามโหมดต่าง ๆ หากต้องการใช้ให้กดเข้าไปแล้วดาวน์โหลด จากนั้นวิดีโอที่เราเลือกจะปรากฏขึ้นที่เมนู “My Project” บนหน้าหลัก ให้กดเข้าไปในโหมดที่ดาวน์โหลด และจะเห็นว่าเป็น app ตัดต่อวิดีโอ ฟรี ที่มีองค์ประกอบต่าง ๆ ให้เลือกใช้ สามารถเลือกดาวน์โหลดทีละอันหรือจะดาวน์โหลดทั้งหมดโดยกดที่คำสั่ง “Download All” ก็ได้

    ตัดต่อวิดีโอ บนมือถือ
    1. การเพิ่มวิดีโอที่จะใช้ในการตัดต่อ

    หลังจากดาวน์โหลด Element หรือองค์ประกอบต่าง ๆ เสร็จแล้ว ให้กดไปที่วิดีโอ และเลือก “Media” จากนั้นกดเลือกไฟล์วิดีโอที่จะนำมาตัดต่อได้เลย และสามารถจัดวางวิดีโอแต่ละส่วนไว้ตามความต้องการ นอกจากนี้หากใครต้องการ แอพตัดต่อวิดีโอ ใส่ข้อความ KineMaster ก็ทำได้เช่นกัน โดยกดไปที่เมนู “Layer” ตามด้วย “Text” จากนั้นพิมพ์ข้อความที่ต้องการลงไปได้เลย เสร็จแล้วกด “OK” 

    ตัดต่อวิดีโอ บนมือถือ
    1. การบันทึกวิดีโอ

    ขั้นตอนสุดท้ายหลังจากตัดต่อวิดีโอจนเสร็จแล้วก็คือ Export หรือบันทึกไฟล์ ซึ่ง KineMaster เป็น แอพตัดต่อวิดีโอ ios ฟรี ที่มีขั้นตอนการบันทึกไม่ซับซ้อน เมื่อตัดต่อและปรับแต่งวิดีโอได้สมบูรณ์แบบที่ต้องการแล้ว สามารถบันทึกวิดีโอโดยการกดที่เครื่องหมายทางด้านขวาบน จากนั้นให้ตั้งค่าความละเอียดและอัตราเฟรมของวิดีโอ และกด “Export” เมื่อดาวน์โหลดจนเสร็จแล้วจะได้ไฟล์วิดีโอที่ตัดต่อตามที่ต้องการ 

    เทคนิคตัดต่อวิดีโอ บนมือถือ และใส่เพลงในวิดีโอ KineMaster

    ตัดต่อวิดีโอ บนมือถือ

    นอกจากเทคนิคการตัดต่อวิดีโอที่เราแนะนำไปข้างต้นแล้ว ต้องบอกว่า KineMaster เป็น แอพตัดต่อวิดีโอ ios ใส่เพลง ฟรี ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยกดไปที่เมนู “Audio” ตามด้วย “Get Music” เมื่อกดเข้าไปแล้วจะมีเพลงต่าง ๆ ปรากฏขึ้นมาให้เลือกมากมาย หากต้องการจะใช้เพลงจาก แอพตัดต่อวิดีโอ ใส่เพลง ฟรี ก็สามารถกดไปที่เพลงได้เลย หรือใครอยากจะใช้เพลงในมือถือก็สามารถทำได้เช่นกัน

    อ่านบทความอื่นๆ:

    Categories
    เสียง

    3 โปรแกรม ตัดต่อไฟล์เสียง ใช้งานง่าย มีคุณสมบัติหลากหลายที่ตอบโจทย์การใช้งาน

    เสียง เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับคอนเทนต์ นอกจากภาพหรือวิดีโอแล้วจะขาดเสียงไปไม่ได้ เพราะเสียงจะเป็นสิ่งที่อธิบายและสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ให้คนเข้าใจถึงอารมณ์และความรู้สึก รวมถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องการนำเสนอ โดยเฉพาะการตัดต่อเสียงเพลงเพื่อใช้ในด้านต่าง ๆ ในปัจจุบันถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก บทความนี้จึงอยากแนะนำ 3 โปรแกรม ตัดต่อไฟล์เสียง ที่ใช้งานง่ายและได้รับความนิยมอย่างมาก 

    แนะนำ 3 โปรแกรมยอดฮิตสำหรับใช้ ตัดต่อไฟล์เสียง

    ตัดต่อไฟล์เสียง

    ต้องบอกว่าในปัจจุบันนี้โปรแกรมตัดต่อเสียงมีให้เลือกใช้งานค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว โดยแต่ละโปรแกรมก็จะมีรูปแบบและวิธีการใช้งานแตกต่างกันออกไป รวมถึงคุณสมบัติเฉพาะตัวที่อาจเป็นข้อดีของโปรแกรมนั้น ๆ สำหรับใครที่ต้องการ ตัดต่อเสียงฟรี ด้วยโปรแกรมตัดต่อเสียงโดยเฉพาะ วันนี้เรามี 3 โปรแกรมตัดต่อไฟล์เสียง มาแนะนำด้วย ซึ่งจะมีทั้งแบบใช้บน Windows และ Mac ไปดูกันว่า โปรแกรมตัดต่อไฟล์เสียง ฟรี จะมีโปรแกรมใดบ้าง 

    ตัดต่อไฟล์เสียง

    Audacity (Windows)

    เมื่อพูดถึง โปรแกรมตัดต่อเสียง windows 10 แล้ว จะไม่พูดถึงโปรแกรมนี้ไม่ได้เลย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโปรแกรมยอดฮิตที่หลายนิยมใช้ในการตัดต่อไฟล์เสียง หรือ ตัดต่อเพลงออนไลน์ ซึ่งเป็นโปรแกรมฟรีแบบ Open Source ที่สามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการตัดเสียงที่ไม่ต้องการออก ตัดเสียงหลายจุด ตัดเสียงรบกวน การใส่เอฟเฟกต์เสียง รวมถึงการวิเคราะห์เสียง และสามารถบันทึกแบบหลายแทร็คเสียงได้อีกด้วย 

    ตัดต่อไฟล์เสียง

    Garageband (Mac)

    โปรแกรมตัดต่อเสียง mp3 ที่อยากจะแนะนำสำหรับคนที่ใช้ Mac เท่านั้น โปรแกรมถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานง่าย เมื่อคลิกเข้าไปในโปรแกรมจะเห็นว่ารูปแบบหน้าต่างจะมีความทันสมัย ซึ่งใช้ในการอัดเสียงต่าง ๆ ได้ โดยสามารถอัดเสียง BGM ผ่านโปรแกรมนี้บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง iPhone หรือ iPad จากนั้นสามารถเชื่อมต่อกลับมาที่ตัวโปรแกรมบน Mac ได้เลย เรียกว่าเป็นจุดเด่นของ โปรแกรม ตัด ต่อ เสียงบันทึก เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังรองรับการทำงานแบบหลายแทร็คได้อีกด้วย

    ตัดต่อไฟล์เสียง

    WavePad (Mac)

    อีกหนึ่งโปรแกรมตัดต่อเสียงที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ Garageband นับเป็นโปรแกรมแก้ไขเสียงหรือเพลงระดับมืออาชีพเลยก็ว่าได้ เราสามารถใช้ใน การตัดต่อเพลง mp3 หรือเสียงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตัดเสียงที่ไม่ต้องการออก ตัดเสียงรบกวน ใส่เอฟเฟกต์ ใส่รีเวิร์บ และอื่น ๆ ซึ่งจุดเด่นของโปรแกรมนี้ก็คือสามารถรองรับไฟล์เสียงได้หลายสกุล อีกทั้งยังเปิดสกุลไฟล์ที่ต่างกันในขณะทำงานพร้อมกันได้ด้วย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการแปลงสกุลไฟล์ได้ดี

    วิธีเลือกใช้โปรแกรม ตัดต่อไฟล์เสียง ให้เหมาะสม

    ตัดต่อไฟล์เสียง

    อย่างที่เราทราบกันดีว่าในปัจจุบันการตัดต่อเสียงเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมาก ๆ เพราะมีโปรแกรม ตัดต่อไฟล์เสียงออนไลน์ ให้เราเลือกใช้อย่างมากมาย หากใครที่ยังเลือกไม่ได้ว่าจะใช้โปรแกรมใดในการตัดต่อเสียง แนะนำให้เลือกโปรแกรมที่อุปกรณ์ของเรารองรับเป็นอันดับแรก จากนั้นพิจารณาคุณสมบัติ รวมถึงวิธีการใช้งานของโปรแกรมนั้น ๆ ว่ายากง่ายมากแค่ไหน วิธีนี้จะช่วยให้เราเลือกได้ว่าโปรแกรมใดที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด

    อ่านบทความอื่นๆ:

    Categories
    กราฟิก

    แนะนำ 3 เว็บออกแบบโลโก้ ช่วยให้แรงบันดาลใจในการครีเอทรูปแบบลายสัก 

    การออกแบบลายสักเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลเกี่ยวกับศิลปะอย่างลายสักคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าก่อนจะสักลายบนผิวนั้นจะต้องทำการออกแบบซะก่อน เรียกว่าเป็นขั้นตอนแรก ๆ เลยก็ว่าได้ โดยลายสักแต่ละรูปแบบจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล อย่างไรก็ตามบทความนี้ขอแนะนำ เว็บออกแบบโลโก้ ออกแบบลายสัก ที่จะช่วยให้คุณได้รับแรงบันดาลใจและออกแบบลายสักได้ตามความต้องการ 

    เว็บออกแบบโลโก้ ออกแบบลายสัก สำหรับมือใหม่ที่อยากได้ลายสักสวย ๆ ตามสไตล์ที่ชอบ

    เว็บออกแบบโลโก้

    จริง ๆ แล้วการออกแบบลายสักนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ ในโปรแกรมหรือแอพลิเคชั่นในมือถือ แต่ทว่าแนวคิดในการออกแบบนั้นก็ไม่ได้ง่ายเสมอไป จึงจำเป็นต้องพึ่งตัวช่วย นั่นก็คือเว็บออกแบบโลโก้ ออกแบบลายสัก โดยเว็บที่เกี่ยวกับการออกแบบลายสักนั้นจะช่วยให้เราสามารถออกแบบลายสักได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น สำหรับผู้ที่ชื่นชอบและต้องการแรงบันดาลใจในการ สักลายกราฟฟิกสวยๆ เว็บต่อไปนี้อาจจะช่วยให้คำตอบกับคุณได้ ไปดูกันว่าจะมีเว็บใดบ้าง

    เว็บออกแบบโลโก้

    Tattoodo

    เรียกได้ว่าเป็นแหล่งข้อมูลบนเว็บที่นำเสนอเกี่ยวกับรอยสักระดับพรีเมียม ภายในเว็บนี้จะให้แรงบันดาลใจในการออกแบบ รอยสักกราฟิกผู้ชาย และผู้หญิงไว้อย่างมากมาย เราสามารถเข้าไปค้นหาแรงบันดาลใจเพื่อใช้ในการออกแบบลายสักได้ โดยจะมีทั้ง ลายสักกราฟฟิก ขาว ดำ และสีสันสวยงาม ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ทั้งคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน หากใครที่ยังไม่รู้ว่าจะออกแบบลายสักด้วยตัวเองยังไง สามารถเข้าไปเยี่ยมชมและเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีออกแบบลายสักในเว็บนี้ได้เลย

    เว็บออกแบบโลโก้

    Vecteezy

    นี่คือเว็บกราฟิกแบบเวกเตอร์ที่มีชุดเทมเพลตระดับพรีเมียมที่สามารถใช้งานได้ฟรี นับเป็นอีกหนึ่งเว็บออกแบบลายสักที่น่าสนใจไม่น้อย ซึ่งสามารถค้นหาลายสักแบบที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็น ลายสักผู้ชาย หรือ ลายสักกราฟฟิกผู้หญิง เมื่อสมัครเป็นสมาชิกของ Vecteezy แล้วจะทำให้เราสามารถใช้สิทธิ์ในการซื้อรูปภาพระดับพรีเมียมโดยใช้เครดิตหรือดาวน์โหลดฟรี สำหรับใครที่ต้องการออกแบบลายสักด้วยวิธีง่าย ๆ แต่ได้ภาพสวยตามที่ต้องการ เว็บนี้อาจตอบโจทย์ได้พอสมควร 

    เว็บออกแบบโลโก้

    Custom Tattoo Design

    สำหรับใครที่อยาก สักลายกราฟฟิก 3 มิติ แต่ไม่อยากออกแบบลายสักด้วยตัวเอง เว็บนี้เป็นอีกหนึ่งแหล่งที่คุณสามารถจ้างช่างให้ออกแบบลายสักได้ โดยจะต้องอธิบายประโยคหรือคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับลายสักที่ต้องการแบบสั้น ๆ เช่น ลายสักกราฟฟิกญี่ปุ่น จากนั้นทีมงานจะประเมินค่าใช้จ่ายเพื่อทำการมัดจำ โดยช่างจะพยายามออกแบบให้ตรงใจคุณมากที่สุด ซึ่งในตอนแรกทางเว็บจะส่งร่างออกแบบคร่าว ๆ ก่อน เพื่อให้อนุมัติหรือปฏิเสธ ในกรณีที่ไม่พอใจกับผลงาน ทางเว็บก็จะคืนเงินมัดจำแบบเต็มจำนวน

    คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือก เว็บออกแบบโลโก้ ออกแบบลายสัก

    เว็บออกแบบโลโก้

    เว็บออกแบบลายสัก ที่เราแนะนำไปข้างต้นเป็นเพียงแหล่งที่ให้ข้อมูลและความรู้ รวมถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบลายสัก อาจจะตอบโจทย์คนเฉพาะกลุ่มก็ได้ ฉะนั้นก่อนจะทำการออกแบบ ลายสักแขน หรือลายสักบริเวณใดก็ตาม ควรทำความเข้าใจก่อนว่าแรงบันดาลใจนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งทั้ง 3 เว็บที่กล่าวมาข้างต้นจะช่วยออกแบบและมอบประสบการณ์เกี่ยวกับลายสักให้กับเราได้เป็นอย่างดี

    อ่านบทความอื่นๆ:

    Categories
    มือใหม่

    3 แอพ แต่ง รูป การ์ตูนน่ารัก ๆ เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด 2023 

    ปัจจุบันเราจะเห็นว่าเทรนด์การแต่งรูปมีการพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ส่งผลให้การต่อเติมเสริมแต่งด้วยแอพพลิเคชั่นหรือโปรแกรมต่าง ๆ ทำได้ง่ายขึ้น หนึ่งในเทรนด์การแต่งรูปที่กำลังมาแรงในปี 2023 นี้ก็คือ การแต่งรูปแนวการ์ตูนน่ารัก ๆ จะเห็นได้ว่าหลายคนโพสรูปตัวเองในเวอร์ชั่นการ์ตูนกันมากมายในสื่อโซเชียลมีเดีย เพราะใครก็สามารถเป็นบาร์บี้ได้ ฉะนั้นบทความนี้เราจึงจะมาแนะนำ แอพ แต่ง รูป แนวการ์ตูนน่ารัก ๆ เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด 2023 สำหรับมือใหม่ทำได้ไม่ยากแน่นอน 

    แนะนำ แอพ แต่ง รูป แนวการ์ตูน เวอร์ชั่นใหม่ ปี 2023

    แอพ แต่ง รูป

    สำหรับใครที่กำลังตามหาแอพพลิเคชั่นแต่งรูปตัวเองให้เป็นการ์ตูน บอกเลยว่าไม่ควรพลาด เพราะเรามี 3 แอพ แต่งรูป แบบการ์ตูนเก๋ ๆ มาแนะนำด้วย ซึ่งแต่ละแอพที่เราจะแนะนำนั้นสามารถใช้งานได้ฟรีในโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Android หรือ iOS ก็สามารถใช้ได้ หากใครที่อยากได้รูปตัวเองในเวอร์ชั่นการ์ตูนน่ารัก ๆ ไว้โพสอวดเพื่อน ๆ มาดูกันเลยว่าจะมี แอพแต่งรูปสวยๆ ฟรี แอพไหนบ้างที่สามารถแต่งเป็นการ์ตูนได้

    1. ToonMe
    แอพ แต่ง รูป

    เชื่อว่าหลายคนต้องคุ้นเคยกับแอพ แต่ง รูป นี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นหนึ่งใน แอพแต่งรูปคุมโทน ฟรี แบบฉบับการ์ตูนดิสนีย์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก หากใครที่ชอบการ์ตูนดิสนีย์ บอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะมีการใช้ระบบ AI เข้ามาช่วยในการประมวลผลภาพให้ออกมาสวยที่สุด โดยจะมีทั้งแบบ 3D สไตล์ Disney Pixar, Disney Classic, การ์ตูนภาพวาดแนวล้อเลียน รวมถึงภาพลายเส้น Vector เมื่อแต่งรูปเสร็จแล้วสามารถแชร์ไปยังแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อีกด้วย

    1. ToonArt: Cartoon Yourself
    แอพ แต่ง รูป

    อีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นแต่งรูปที่ใช้ระบบ AI ต้องบอกว่ามีความละเอียดค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เหมาะกับคนที่ชอบรูปการ์ตูน 3 มิติ ถ้าอยาก โหลดแอพแต่งรูปฟรี แนะนำแอพนี้เลย ภายในแอพจะมีฟิลเตอร์และเอฟเฟคต่าง ๆ ให้เลือกใช้กันมากถึง 100 แบบเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากการ์ตูน 3 มิติแล้ว ยังมีแบบ 2 มิติ รวมถึงการ์ตูนแนวล้อเลียนและอื่น ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นแต่งรูปที่ให้ภาพสวยมาก ๆ เมื่อแต่งเสร็จแล้วก็สามารถแชร์ไปยัง Facebook และ Instagram ได้เลย 

    1. Voilà AI Artist
    แอพ แต่ง รูป

    นี่คือหนึ่งใน แอพแต่งรูปแม่ค้าออนไลน์ ที่ได้รับความนิยม เพราะสามารถแต่งรูปการ์ตูนและนำไปใช้งานได้ง่าย แถมยังฟรีอีกด้วย โดยสามารถแต่งรูปการ์ตูนได้ทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน คือ ภาพการ์ตูน 3 มิติ, ภาพการ์ตูน 2 มิติ, ภาพวาดยุคเรอเนสซองส์ และภาพวาดล้อเลียน บอกเลยว่าใช้งานได้ง่าย แถมยังมีรูปการ์ตูนหลากหลายรูปแบบให้เลือกอีกด้วย และแน่นอนว่าเมื่อแต่งเสร็จแล้วก็สามารถแชร์ไปยัง Facebook, Instagram, Twitter และ LINE ได้เลย

    การใช้ แอพแต่งรูป ฟรีที่มาพร้อมกับข้อจำกัด

    แอพ แต่ง รูป

    แน่นอนว่าทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง เช่นเดียวกับ แอพแต่งรูปฟรี ออนไลน์ เมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย เนื่องจากหลายแอพที่ใช้งานฟรีมักจะมีโฆษณาปรากฏขึ้นมาเป็นช่วง ๆ ซึ่งนั่นก็อาจทำให้เรารู้สึกรำคาญใจเมื่อต้องใช้งาน เพราะบางครั้งอาจทำให้การแต่งรูปล่าช้าได้ แต่ถ้าใครมองข้ามเรื่องนี้ไปได้ก็ถือว่าไม่มีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตามบางแอพพลิเคชั่นจะมีทั้งแบบฟรีและเสียค่าบริการ หากต้องการใช้งานแบบลื่นไหลและหลากหลาย แนะนำให้เสียค่าบริการเพิ่มจะดีที่สุด

    อ่านบทความอื่นๆ: