ลินุกซ์ ไม่ฟรี! 5 ดิสโทรที่เรียกเก็บเงินคุณ
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าลินุกซ์คือระบบปฏิบัติการที่ฟรีเสมอไป แต่ความจริงแล้วมันไม่เป็นเช่นนั้น สนใจที่จะทราบว่ามีดิสโทรไหนบ้างที่คุณต้องจ่ายเงินเพื่อใช้ วันนี้เราจะพาคุณไปหาคำตอบกัน!
1. Red Hat Enterprise Linux
หนึ่งในดิสโทรที่มีชื่อเสียงและถูกใช้ในองค์กรต่างๆ มากมาย Red Hat Enterprise Linux นั้นเป็นระบบปฏิบัติการที่ต้องจ่ายค่าบริการการสนับสนุน อย่าคิดว่าค่าธรรมเนียมนี้จะเป็นภาระนะ เพราะมันมีการบริการที่ยอดเยี่ยม!
2. SUSE Linux Enterprise
อีกหนึ่งชื่อดังในวงการนี้คือ SUSE Linux Enterprise ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในภาคธุรกิจ โดยในแต่ละปี คุณอาจจะต้องจ่ายค่าบริการแบบรายปีเพื่อการสนับสนุนและอัปเดตที่ทันสมัย ไม่ใช่แค่ทำงานได้ แต่ต้องทำงานได้ดีด้วย!
3. Ubuntu Advantage
Ubuntu เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป แต่เมื่อคุณมองหา Ubuntu Advantage คุณจะพบว่ามันทำให้ผู้ใช้ต้องจ่ายค่าบริการเพื่อเข้าถึงการสนับสนุนระดับสูงและฟีเจอร์พิเศษต่างๆ ที่ไม่สามารถใช้งานได้ในเวอร์ชันฟรี
4. Oracle Linux
ด้วยการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจาก Oracle, Oracle Linux จะไม่ใช่ฟรีเหมือนที่หลายๆ คนเชื่อ แต่คุ้มค่าแน่นอนกับคุณสมบัติที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและการประกันที่น่าเชื่อถือ!
5. ClearOS
สำหรับ ClearOS นั้นมีทั้งเวอร์ชันฟรีและแบบจ่ายเงิน โดยรุ่นที่ต้องจ่ายเงินนั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่มากมายช่วยทำให้ระบบบริหารจัดการง่ายมากขึ้นในองค์กร โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่อยากเสียเวลาศึกษาหรือทดลองกันเอง
สรุป
แท้จริงแล้ว ระบบปฏิบัติการลินุกซ์นั้นมีมากมายหลายโฉม แต่ความสะดวกสบายในการใช้งานมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายเสมอ ถ้าคุณต้องการความเชี่ยวชาญและการสนับสนุนที่ดีกว่า ลองพิจารณาดิสโทรเหล่านี้ที่จะให้คุณค่าที่สำคัญในการทำงาน!
มีข้อสงสัยไหม? หรืออยากแนะนำดิสโทรอื่นๆ? มาแชร์กันในคอมเมนต์ด้านล่างกันเถอะ!
“เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเยอะที่สุด 2025 ที่สุดของความสนุกและโอกาสแห่งความสำเร็จ!”
“เริ่มต้น สนุกได้ทุกแมตช์ ทุกเวลา”
“พบกับประสบการณ์ใหม่ที่ จีคลับ คาสิโนออนไลน์ที่ปลอดภัยและได้รับความนิยมมากที่สุดในไทย”
“เล่น ไฮโลไทย แบบออนไลน์ สนุกกับเกมพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย”
“ต้องการเครดิตฟรีเล่นสล็อต? เข้าไปที่ สล็อต168เครดิตฟรี.com เว็บที่มีโปรโมชั่นเด็ดและเกมให้เลือกเล่นหลากหลาย”
แหล่งที่มา:All Linux Is Not Free: 5 Distros That Ask for Your Money
